 |
- โครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง Phu Cuong Soc Trang ขนาด 1.4 GW อยู่ระหว่างการพัฒนาในฐานะธุรกิจร่วมทุนระหว่าง Mainstream Renewable Power กับ Phu Cuong Group โดยตั้งอยู่นอกชายฝั่งทิศใต้ของเวียดนาม เตรียมขึ้นแท่นเป็นฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- โครงการเฟสแรกขนาด 200 MW ได้รับคำตัดสินให้ลงทุนและใบรับรองการขึ้นทะเบียนการลงทุน (IRC) จากจังหวัดซ้อกจัง นับเป็นความก้าวหน้าสำคัญสู่ความสำเร็จในการระดมทุน ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในปี 2565
ดับลิน
15 พฤศจิกายน 2564
/PRNewswire/ -- Mainstream Renewable Power ("Mainstream") ประกาศว่า บริษัทได้รับคำตัดสินให้ลงทุน (Decision on Investment) และใบรับรองการขึ้นทะเบียนการลงทุน (Investment Registration Certification หรือ IRC) จากรัฐบาลจังหวัดซ้อกจังของเวียดนาม ให้สร้างฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งเฟสแรกในขนาด 200 MW ได้ นับเป็นความก้าวหน้าสำคัญสำหรับโครงการ Phu Cuong Soc Trang Offshore Wind Farm ซึ่งเมื่อสร้างเป็นอันแล้วเสร็จครบทุกเฟสแล้ว โครงการดังกล่าวจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 1.4 GW โดยจะผลิตไฟฟ้าเพียงพอต่อครัวเรือนกว่า 1.6 ล้านหลัง ทั้งยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงปีละ 1.8 ล้านตัน
โครงการดังกล่าวคาดว่าจะระดมทุนแล้วเสร็จในปี 2565 และน่าจะเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้อย่างเร็วที่สุดในปี 2566
ฟาร์มกังหันลมแห่งนี้เป็นธุรกิจร่วมทุนระหว่าง Mainstream กับหุ้นส่วนในเวียดนามอย่าง Phu Cuong Group โดย Mainstream เป็นเจ้าของโครงการนี้ในสัดส่วน 70% ส่วนอีก 30% เป็นของ Phu Cuong Group
โครงการนี้พัฒนาขึ้นโดยแบ่งออกเป็นเฟสต่าง ๆ ซึ่งเฟสแรกจะให้กำลังการผลิต 200 MW ขณะที่อีก 1,200MW ที่เหลือจะพัฒนาขึ้นหลังจากนั้น การประกาศในวันนี้นับเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับบทบาทของ Mainstream ในเวียดนาม หลังจากที่ทางโครงการได้วัดพลังงานลมและสำรวจสถานที่เป็นอันแล้วเสร็จ ส่วนขั้นตอนการจัดซื้อเพื่อหาซัพพลายเออร์กังหันลมก็คืบหน้ามากแล้ว สัดส่วนผู้รับจ้างสร้างโรงไฟฟ้าก็มีความสมดุลดีเช่นกัน
ในอนาคตข้างหน้า Mainstream จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทพลังงานไฟฟ้าระดับชาติของเวียดนามอย่าง EVN เพื่อบรรลุข้อตกลงในการเชื่อมโยงกับโครงข่ายไฟฟ้า เช่นเดียวกับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement หรือ PPA) ของโครงการนี้
Mainstream ได้เข้ามาทำธุรกิจในเวียดนามมาตั้งแต่ปี 2559 ปัจจุบันบริษัทกำลังพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมนอกชายฝั่งคิดเป็นกำลังการผลิตรวมกัน 2.3 GW
Cameron Smith ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Mainstream กล่าวว่า
"เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานของเวียดนามด้วยโครงการ Phu Cuong Soc Trang ซึ่งกำลังพัฒนาขึ้นตามมาตรฐานสูงสุดในระดับสากล โดยอาศัยประสบการณ์อันกว้างขวางของ Mainstream การเป็นผู้นำด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในหลาย ๆ ประเทศทำให้เราเข้าใจความสำคัญของการมีส่วนร่วมกับชุมชน และเรามีความยินดีที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากชุมชนจังหวัดซ้อกจัง"
"เราขอยกย่องรัฐบาลเวียดนามสำหรับความคืบหน้าในการส่งเสริมความก้าวหน้าของพลังงานหมุนเวียนในประเทศ โครงการ Phu Cuong Soc Trang พร้อมสร้างแรงกระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานลมนอกชายฝั่งอย่างแท้จริง ในระดับที่จะเข้ามาผลักดันให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593"
คุณ Nguyen Viet Cuong ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท Phu Cuong Group กล่าวว่า
"ฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง Phu Cuong Soc Trang เป็นการลงทุนครั้งสำคัญในโครงสร้างพลังงานสะอาดของเวียดนาม และจะมีบทบาทสำคัญในแผนแม่บทเพื่อส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ ฟาร์มกังหันลมแห่งนี้ ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนั้น จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเร่งพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนาม ด้วยการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมให้เติบโต โดยนโยบายสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนของรัฐบาลมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศด้วยความร่วมมือกับหุ้นส่วนในเวียดนาม"
ติดต่อ:
Emmet Curley, Head of Communications & Positioning
โทร: +353 86 2411 690
อีเมล: emmet.curley@mainstreamrp.com
Caroline Cutler | Ojasvi Goel, FTI Consulting
โทร: +44 20 3727 1000
อีเมล: mainstreamRP@fticonsulting.com
เกี่ยวกับ Mainstream Renewable Power
Mainstream Renewable Power เป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียนชั้นนำที่มีผลงานในระดับโลก บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ระดับ 16.2 กิกะวัตต์ทั่วลาตินอเมริกา แอฟริกา เอเชียแปซิฟิก รวมถึงพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทั่วโลก ในเดือนพฤษภาคม 2564 บริษัทได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับ Aker Horizons ให้เข้าถือหุ้น 75% ในบริษัท ส่งผลให้ Mainstream เร่งแผนการขยายธุรกิจทั่วโลกได้
Mainstream ส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์รวม 6.5 กิกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้ารวม 1.4 กิกะวัตต์ (สุทธิ) ทั่วลาตินอเมริกาและแอฟริกา ในประเทศชิลี โรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 1.35 กิกะวัตต์ ในโครงการ Andes Renovables Platform ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของทั้งหมด กำลังจะสร้างแล้วเสร็จในปีนี้ ส่วนในประเทศแอฟริกาใต้นั้น บริษัทได้ส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์รวม 850 เมกะวัตต์เข้าสู่การดำเนินงานเชิงพาณิชย์ และในเดือนตุลาคม 2564 โปรเจกต์พลังงานลมและแสงอาทิตย์ 12 โปรเจกต์ของบริษัทได้รับเลือกให้เป็นคู่เจรจาในขั้นสุดท้าย ภายใต้โครงการจัดหาผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระจากพลังงานหมุนเวียนรอบที่ 5 ของแอฟริกาใต้ นอกจากนั้นยังร่วมทุนกับบริษัท Lekela Power ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 410 เมกะวัตต์ในเซเนกัลและอียิปต์
Mainstream เป็นผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งอิสระที่ประสบความสำเร็จเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยประสบความสำเร็จในโครงการ Hornsea One (1.2 กิกะวัตต์) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน รวมทั้งประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการ Hornsea 2 (1.4 กิกะวัตต์) ก่อนขายโครงการเหล่านี้ในปี 2558 โดยรวมแล้ว บริษัทได้พัฒนาและขายโครงการในภายหลังซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 20% ของกำลังการผลิตลมนอกชายฝั่งของสหราชอาณาจักรไม่ว่าจะเปิดดำเนินการหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง นอกจากนี้ Mainstream ยังขายสัมปทานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Neart na Gaoithe ขนาด 450 เมกะวัตต์ในสกอตแลนด์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในขณะนี้ ขณะเดียวกัน Mainstream ได้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Soc Trang ขนาด 1.4 กิกะวัตต์ในเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จนถึงขณะนี้ Mainstream ระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการได้มากกว่า 3 พันล้านยูโร และมีพนักงานกว่า 420 คน ใน 5 ทวีป
โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/686512/Mainstream_Renewable_Power_Logo.jpg?p=medium600
