อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์--17 พ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
คุณ Robin (Yongping) Lu รองประธานบริหารหน่วยธุรกิจพลังงานสากล ประจำกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หัวเว่ยได้จัดงานประชุมสุดยอดน้ำมันและก๊าซประจำปี 2564 (Global Oil & Gas Summit 2021) ณ กรุงอาบูดาบี ในหัวข้อ "จับข้อมูลลงถังน้ำมัน ใช้ระบบอัจฉริยะผลักดันการเติบโต" (Drive Data to Barrel, Embrace Intelligence to Grow) ที่งานประชุมนี้ หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชันใหม่อย่างแหล่งน้ำมันและก๊าซอัจฉริยะ (Intelligent Oil & Gas Fields) ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรด้านน้ำมันและก๊าซเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล โซลูชันดังกล่าวครอบคลุมความเป็นดิจิทัลในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยในแคมปัส การตรวจสอบการผลิต และการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ การใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทำให้หัวเว่ยพัฒนาการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลและความอัจฉริยะในอุตสาหกรรมได้มากกว่าเดิม
โลกได้ยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและดิจิทัลเป็นเรื่องสำคัญต่ออนาคตของโลก คุณ Lv Gongxun อดีตรองประธานบริษัทปิโตรไชน่า ในเครือบริษัทไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น (CNPC) ได้ชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นดิจิทัลของอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ จะนำบริการ รูปแบบธุรกิจ และรูปแบบการจัดการใหม่ ๆ มาสู่อุตสาหกรรม
ความเป็นกลางทางคาร์บอนสะท้อนให้เห็นทั้งความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ สำหรับอุตสาหกรรมพลังงานโลก ในสุนทรพจน์เปิดงานของคุณ Robin (Yongping) Lu รองประธานบริหารหน่วยธุรกิจพลังงานสากลประจำกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อทำเช่นนั้น อุตสาหกรรมพลังงานและเทคโนโลยีจำเป็นต้องร่วมมือกัน ช่วยเสริมจุดแข็งซึ่งกันและกัน และสำรวจสถานการณ์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม
หัวเว่ยเปิดตัวโซลูชันแหล่งน้ำมันและก๊าซอัจฉริยะ มุ่งช่วยแก้ปัญหาในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ
ที่งานประชุม หัวเว่ยและ G2K Group ได้เปิดตัวโซลูชันแหล่งน้ำมันและก๊าซอัจฉริยะ นำเสนอโดยคุณ Robin (Yongping) Lu และ Christen Bear กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าประจำภูมิภาคกลุ่มความร่วมมืออ่าวอาหรับของ G2K Group ระบุว่า สถาปัตยกรรมของโซลูชันนี้มี 4 ชั้นด้วยกัน ได้แก่ ช่องทางเชื่อมต่อสู่อุตสาหกรรม, เครือข่าย IoT, แพลตฟอร์มดิจิทัล และแอปพลิเคชันอัจฉริยะ
โซลูชันนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้บริษัทน้ำมันและก๊าซรับมือกับความเสี่ยงและค่าใช้จ่าย แก้ปัญหาการเก็บข้อมูลที่กระจัดกระจาย รวมถึงตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่แข็งแกร่ง หัวเว่ยยังคงยกระดับแพลตฟอร์มดิจิทัลและแอปพลิเคชันบริการการผลิตอย่างต่อเนื่องด้วยสถาปัตยกรรมโซลูชันนี้ พร้อมใช้ IoT เชื่อมโยงข้อมูล และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่การจัดการที่เรียบง่าย หัวเว่ยให้ความสำคัญกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มการสำรองและการผลิต ยกระดับประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายและการปล่อยคาร์บอน และทำให้แน่ใจได้ว่าปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย
โซลูชันน้ำมันและก๊าซที่ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ของหัวเว่ย เน้นที่การทำงานร่วมกันในทุกด้านของอุตสาหกรรม
ที่งานประชุมนี้ หัวเว่ยยังได้สาธิตโซลูชันสำหรับทุกสถานการณ์และความสามารถด้านเทคนิคในการสำรวจต้นน้ำ การพัฒนาและผลิต การจัดการทรัพย์สินระดับกลางน้ำ ไปจนถึงการกลั่นและขายสารเคมีในระดับปลายน้ำ
การนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์คอมพิวติ้ง บิ๊กดาต้า AI และ 5G เปิดโอกาสให้ใช้ข้อมูลได้อย่างเต็มศักยภาพมากขึ้น พร้อมยกระดับประสิทธิภาพด้าน E2E ของบริษัทน้ำมันในการสำรวจน้ำมัน การพัฒนา การผลิต การกักเก็บ การขนส่ง การกลั่น และการขาย โดยคุณ Wu Shuhong เลขาฯ ประจำศูนย์วิจัย CNPC AI Research Center และคุณ Deng Xili หัวหน้าฝ่าย G&G (RCM) ประจำศูนย์ CNPC RIPED ร่วมแชร์การทำงานของโซลูชัน E&P อัจฉริยะจากหัวเว่ย ในการใช้คลาวด์ AI และบิ๊กดาต้า ประมวลผลข้อมูลคลื่นไหวสะเทือน ระบุแหล่งกักเก็บน้ำมันและก๊าซ และวิเคราะห์สถานะการทำงานของบ่อสูบได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เราสามารถสำรวจคุณค่าได้มากขึ้นจาก "ข้อมูลที่ไม่มีเสียง" และ "ข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์"
ในเวลาเดียวกัน การโยกย้ายบริการที่สำคัญต่อภารกิจไปยังคลาวด์ ก็ช่วยแก้ไขปัญหาทั่วไปได้ด้วย เช่น การตอบสนองช้า ค่าใช้จ่ายสูง และประสิทธิภาพต่ำของโครงสร้างพื้นฐานแหล่งน้ำมันและก๊าซ โดยคุณ Zhang Tiegang อดีตรองหัวหน้าวิศวกรของสถาบันวิจัยการสำรวจและพัฒนาของ Daqing Oilfield ได้อธิบายถึงข้อได้เปรียบของโซลูชันน้ำมันและก๊าซอัจฉริยะในสถานการณ์จริง ซึ่ง Daqing Oilfield นำความสามารถด้านคลาวด์คอมพิวติ้งของหัวเว่ยไปใช้ ทำให้ประมวลผลข้อมูลคลื่นไหวสะเทือนได้กว่า 22,000 ตารางกิโลเมตรในปี 2563 ซึ่งมากกว่าความสามารถในการประมวลผลข้อมูลที่มีอยู่เดิมกว่า 2 เท่า
หัวเว่ยสร้างอีโคซิสเต็มที่เปิดกว้างและทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างมูลค่าที่มากขึ้น
ความร่วมมือกันคือกุญแจสำคัญสำหรับการขยายโซลูชันของหัวเว่ย โดยหัวเว่ยได้ยกระดับระบบพันธมิตร ทั้งยังได้สานความร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลายประเภท คุณ David (Zhengyu) Shi ประธานกลุ่มธุรกิจองค์กรในหัวเว่ยตะวันออกกลาง ได้ชี้ถึงความสำคัญของการความพยายามร่วมกันจากลูกค้า พันธมิตร และหัวเว่ย เพื่อส่งเสริมนวัตกรรม ด้วยเหตุนี้ หัวเว่ยจึงได้สร้างระบบบริการพันธมิตรเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลแบบ E2E และการพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ
ขณะเดียวกัน Christen Bear ได้แบ่งปันประสบการณ์ของ G2K Group ในการทำงานร่วมกับหัวเว่ย โดยนำเสนอโซลูชันนวัตกรรมที่ทั้ง 2 บริษัทได้พัฒนามาจนถึงตอนนี้ และระบุว่าจะมีโอกาสอีกมากสำหรับการทำงานร่วมกันในอนาคต ในขณะที่ทั้งสองบริษัทยังคงนำการเชื่อมต่อและความอัจฉริยะมาสู่ลูกค้าและสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล
ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน ICT และอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก หัวเว่ยนำเสนอผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูง เพื่อช่วยให้บริษัทน้ำมันและก๊าซสร้างเครือข่ายและศูนย์ข้อมูลที่คล่องตัวและไว้วางใจได้ ในอนาคต หัวเว่ยจะยังคงให้ความสนใจกับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ พร้อมผนวกรวมความสามารถของพันธมิตร พัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ ตามสถานการณ์ และทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ร่วมกัน
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1689800/Robin_Lu.jpg
คำบรรยายภาพ - คุณ Robin (Yongping) Lu รองประธานบริหารหน่วยธุรกิจพลังงานสากล ประจำกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย