เกาะโคโรนาที่จะเปิดรับแขกในปี 2565 โอบรับคำมั่นสัญญาโลกธรรมชาติ 100% ของแบรนด์ และส่งเสริมให้ผู้คนปกป้องสวรรค์บนดินผ่านการเป็นพันธมิตรกับ Oceanic Global
ธันวาคม--1 พ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
โคโรนา (Corona) ประกาศเปิดตัวเกาะโคโรนา (Corona Island) จุดหมายปลายทางที่มีเอกลักษณ์สำหรับแขกผู้มาเยือนที่ต้องการตัดขาดจากชีวิตประจำวันและเชื่อมต่อกับโลกธรรมชาติอีกครั้ง เกาะโคโรนามีกำหนดเปิดในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ 2565 ณ ใจกลางทะเลแคริบเบียน ด้วยเป้าหมายในการเป็นปลายทางที่มีมนต์ขลัง พร้อมมุ่งเน้นความยั่งยืนและมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับการรับรองหรือ "Blue Verified" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Blue Standard ที่เข้มงวดของ Oceanic Global องค์กรไม่แสวงผลกำไรระหว่างประเทศ โดยองค์กรจะทำการตรวจสอบและการประเมินด้วยตัวชี้วัดต่าง ๆ รวมถึงการกำจัดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งและการใช้โครงสร้างพื้นฐานการจัดการขยะที่มีความรับผิดชอบ ซึ่งการประเมินอยู่ระหว่างดำเนินการในขณะนี้ และเกาะโคโรนาจะเป็นเกาะ Blue Verified Island โดยสมบูรณ์แห่งแรกซึ่งจะเปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า
Felipe Ambra รองประธานระดับโลกของโคโรนากล่าวว่า "เกาะโคโรนาเป็นโครงการที่แตกต่างจากที่เราเคยทำมาก่อน ในฐานะแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง เราต้องการแสดงความเคารพและเฉลิมฉลองสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เป็นแหล่งกำเนิดส่วนผสมธรรมชาติ 100% สำหรับผลิตภัณฑ์ของเรา ในปัจจุบัน ผู้คนต้องการเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอกอย่างปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม เราจึงจะเชิญชวนผู้คนจากทั่วโลกให้มารวมตัวกันและผสมผสานการเรียนรู้เข้ากับการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ โดยเรามีความหวังว่า หลังจากที่ผู้คนได้กลับไปที่บ้าน พวกเขาจะตกหลุมรักธรรมชาติอีกครั้ง และจะได้รับพลังเพื่อเป็นพลเมืองโลกที่ดีขึ้นในชุมชนของตัวเอง เพราะเมื่อผู้คนตกหลุมรักใครสักคนหรือบางสิ่งบางอย่าง พวกเขามักจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องสิ่งนั้น และนั่นคือเป้าหมายของเราในการตั้งเกาะโคโรนา"
ในฐานะแบรนด์เบียร์ที่เกิดที่ชายหาดแห่งนั้น โคโรนาผลิตเบียร์จากส่วนผสมธรรมชาติ 100% ซึ่งได้แก่ น้ำ ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพดหรือข้าว และฮอปส์ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของเกาะโคโรนาและประสบการณ์ของแขกผู้มาเยือนถือเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์โดยตรง เนื่องจากคนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ในบ้าน และประสบการณ์นี้จะทำให้แขกผู้มาเยือนหลุดพ้นจากความจำเจในแต่ละวัน ช่วยให้พวกเขาอยู่ร่วมกันในความงามของธรรมชาติ ด้วยแนวคิด "รตัดขาดเพื่อเชื่อมต่อ" ซึ่งเป็นความตั้งใจเบื้องหลังประสบการณ์โดยรวมนี้
เมื่ออยู่บนเกาะ แขกจะมีโอกาสตัดขาดจากความตึงเครียดในแต่ละวัน และทิ้งตัวไปกับการเข้าพักแบบเหมาจ่ายระยะยาวหนึ่งสัปดาห์ที่มาพร้อมกับกิจกรรมเชิงเรียนรู้อันลึกซึ้ง ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การบริโภคอย่างมีสติและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน โดยตัวอย่างกิจกรรมอาจรวมถึงเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการใช้ชีวิตแบบปลอดพลาสติก ไปจนถึงการนำทำสมาธิท่ามกลางเสียงธรรมชาติของเกาะ ตลอดจนการเยี่ยมชมฟาร์มที่เป็นแหล่งจัดหาส่วนผสมท้องถิ่นของเกาะ นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังสามารถพักผ่อนอย่างกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ผ่านการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการทำอาหารที่ได้แรงบันดาลใจจากสภาพแวดล้อมที่ไร้สารเคมีของเกาะ เกาะแห่งนี้มีทั้งชายหาดที่ผ่อนคลาย ดินแดนพฤกษชาติอันเขียวชอุ่ม และน้ำทะเลสีฟ้าใสราวคริสตัลที่จะทำให้ผู้มาเยือนเพลิดเพลินและตกหลุมรักในธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม เกาะนี้จะจำกัดจำนวนแขกที่เข้าพักอย่างเคร่งครัด เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของโคโรนา เพื่อให้แน่ใจว่าเกาะนี้จะสามารถให้บริการโดยสร้างรอยเท้าทางสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ผู้ที่สนใจสามารถเดินทางไปยังเกาะโคโรนาได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- ผู้อยู่อาศัยในประเทศต่อไปนี้* มีโอกาสลุ้นรับรางวัลทริปท่องเที่ยวเกาะโคโรนาแบบฟรีค่าใช้จ่ายทั้งหมดในปี 2565 โดยแต่ละประเทศจะมีกติกาของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการได้รับไมล์สะสมจากการซื้อสินค้า การสะสมแสตมป์ หรือการหาตั๋วทองคำ
- กิจกรรม Giving Tuesday ซึ่งเป็นการประมูลระดับโลกที่จัดโดย CharityBuzz จะมอบประสบการณ์เกาะส่วนตัวสุดพิเศษให้กับผู้ชนะการประมูลหนึ่งคนและผู้ติดตามอีก 9 คน โดยรางวัล Grand Prize จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการเข้าพักหนึ่งสัปดาห์บนเกาะโคโรนาในปี 2565 ซึ่งรายได้จากการประมูลจะมอบให้กับองค์กร Oceanic Global และจะเป็นกิจกรรมสำหรับผู้ที่ไม่ได้พำนักอยู่ในสหรัฐเท่านั้น
นอกจากการตรวจสอบการบรรลุผลด้านความยั่งยืนของเกาะโคโรนาแล้ว Oceanic Global จะให้คำแนะนำสำคัญในการสร้างกิจกรรมเชิงเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมซึ่งทำให้ผู้คนหันมาสนใจมลภาวะพลาสติก การปกป้องระบบนิเวศ และการอนุรักษ์มหาสมุทรโดยรวม ขณะเดียวกัน ทีมบริการและแขกของเกาะจะได้รับการฝึกอบรมโดย Oceanic Global ในด้านความยั่งยืนและแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศเพื่อการดำเนินงานตามเกณฑ์ที่ระบุไว้ในมาตรฐานสีน้ำเงิน
Lea d'Auriol ผู้ก่อตั้ง Oceanic Global กล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Corona Global ในการส่งเสริมความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนที่ต่อเนื่องของแบรนด์ผ่านความร่วมมือกับเกาะโคโรนา การนำมาตรฐานสีน้ำเงินมาใช้ ทำให้เกาะโคโรนาได้แสดงศักยภาพของธุรกิจในการสร้างผลกระทบที่จับต้องได้และดำเนินการอย่างสมดุลกับโลกธรรมชาติ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ทั้งได้ตรวจสอบและเฉลิมฉลองความสำเร็จด้านความยั่งยืนของโคโรนาบนเกาะโคโรนา เช่นเดียวกับการฝึกอบรมแขกและพนักงาน เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและพฤติกรรมที่มีความรับผิดชอบที่พวกเขาสามารถนำไปใช้ได้นอกเหนือจากการเข้าพักที่นี่"
เกาะโคโรนาเป็นโครงการต่อยอดที่เกิดจากความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดยั้งของโคโรนาต่อความยั่งยืนและการอนุรักษ์มหาสมุทร โคโรนามีประวัติยาวนานในการช่วยปกป้องสวรรค์บนดิน โดยได้ทำงานร่วมกับอาสาสมัครกว่า 68,000 คนเพื่อทำความสะอาดพื้นที่ต่าง ๆ มากกว่า 1,400 แห่ง และกำลังดำเนินการทำความสะอาดชายหาดกว่า 44 ล้านตารางเมตร พวกเขาประสบความสำเร็จเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2560 ในการปกป้องเกาะ 100 แห่งภายในปี 2563 และได้ปกป้องเกาะเกือบ 250 แห่งจนถึงปัจจุบัน และในต้นปีนี้ โคโรนาได้บรรลุก้าวสำคัญของแบรนด์ด้วยการนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่มากกว่าที่ผลิตออกไป ซึ่งเป็นการลดปริมาณพลาสติกสุทธิเป็นศูนย์ทั่วโลก นอกจากนั้นแล้ว ในปี 2564 นี้ โคโรนาได้ประกาศโครงการนำร่องในโคลอมเบีย ด้วยการใช้ฟางข้าวบาร์เลย์ที่เหลือทิ้งมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์แพ็คหกขวดแทนบรรจุภัณฑ์พลาสติก และยังคงมุ่งเน้นที่การออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อลดพลาสติกจากห่วงโซ่อุปทานอีกด้วย
*ประเทศที่มีสิทธิ์ ได้แก่ อาร์เจนตินา, บราซิล, แคนาดา, ชิลี, โคลอมเบีย, สาธารณรัฐโดมินิกัน, เอกวาดอร์, กัวเตมาลา, ปารากวัย, เปรู และแอฟริกาใต้
เกี่ยวกับโคโรนา
โคโรนาเป็นแบรนด์เบียร์ชั้นนำที่ถือกำเนิดขึ้นในเม็กซิโก และเป็นเบียร์เม็กซิกันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยส่งออกไปกว่า 180 ประเทศทั่วโลก โคโรนาเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเบียร์ โดยเป็นรายแรกที่ใช้ขวดใสเพื่อแสดงความบริสุทธิ์และคุณภาพสูงต่อผู้คนทั่วโลก และฉลากที่ปรากฎบนขวดเป็นการเพ้นท์สีลงไป เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในด้านคุณภาพของบรรจุภัณฑ์และมรดกของชาวเม็กซิกัน การดื่มโคโรนาให้สมบูรณ์แบบจะต้องมีมะนาว เพราะการใส่มะนาวลงไปจะช่วยเสริมรส เพิ่มรสชาติ และความสดชื่น ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญของการมอบประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างแท้จริงให้กับการดื่มโคโรนา ทั้งนี้ โคโรนาเป็นชื่อที่ช่วนให้ผู้คนนึกถึงชายหาดและการเฉลิมฉลองช่วงเวลากลางแจ้ง และแบรนด์ได้เชิญชวนผู้คนให้หยุดพัก ผ่อนคลาย และเพลิดเพลินกับความสุขที่เรียบง่ายของชีวิต โคโรนามีความมุ่งมั่นในการลดพลาสติกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแบรนด์ได้บรรลุเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในการปกป้องเกาะ 100 เกาะก่อนปี 2563 และยังเดินหน้าความพยายามในการทำความสะอาดพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง
เกี่ยวกับ Oceanic Global
Oceanic Global (OG) ที่ก่อตั้งโดย Lea d'Auriol ในปี 2559 เป็นแรงบันดาลใจให้เราดูแลมหาสมุทรอย่างจริงจังและมอบแนวทางเพื่อปกป้องมหาสมุทร องค์กรไม่แสวงผลกำไรระหว่างประเทศแห่งนี้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างมนุษยชาติและมหาสมุทร และส่งเสริมผู้คน ชุมชน และอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก Oceanic Global สร้างประสบการณ์เชิงเรียนรู้ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดำเนินงานที่ยั่งยืน และมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อสร้างผลกระทบที่วัดผลได้สำหรับความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมของเรา Oceanic Global ได้เปิดตัวมาตรฐานสีน้ำเงิน (Blue Standard) ในปี 2563 ซึ่งเป็นมาตรฐานข้ามอุตสาหกรรมมาตรฐานแรกที่กำหนดความรับผิดชอบอันเป็นสากลสำหรับการเป็นผู้นำธุรกิจที่ยั่งยืน และส่งเสริมอุตสาหกรรมและธุรกิจทุกขนาดเพื่อบรรลุการสร้างผลกระทบที่วัดผลได้ซึ่งปกป้องโลกสีน้ำเงินของเรา Oceanic Global มีสำนักงานใหญ่อยู่ในบรูคลิน นิวยอร์ก รวมถึงมีศูนย์กลางระหว่างประเทศและฐานอาสาสมัครในนิวยอร์ก ลอนดอน ลอสแองเจลิส บาร์เซโลนา ทูลัม และฮ่องกง นอกจากนี้ Oceanic Global ยังเป็นพันธมิตรที่ไม่แสวงหากำไรและพันธมิตรด้านการผลิตอย่างเป็นทางการของวันมหาสมุทรโลกของสหประชาชาติตั้งแต่ปี 2563 อันสะท้อนให้เห็นถึงการเข้าถึงทั่วโลก #CareDeeply |www.oceanic.global
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1696223/Corona_Island.jpg?p=medium600
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1696221/Corona_Island_Logo.jpg?p=medium600