เซี่ยงไฮ้--9 ธันวาคม 2564--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา Bloomberg New Energy Finance (BloombergNEF) ได้จัดการประชุมสุดยอด BloombergNEF Summit ประจำปี 2564 ที่เซี่ยงไฮ้ โดยมีคุณเกา จีฟ่าน ประธานบริษัท ทรินา โซลาร์ ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานและเส้นทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศและผู้ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์รายอื่น ๆ
ภายในงานนี้ BloombergNEF ร่วมด้วย PVEL ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการทดสอบเซลล์แสงอาทิตย์อิสระชั้นนำของโลก, DNV องค์กรประเมินและรับรองมาตรฐาน และ Nextracker ผู้นำด้านระบบติดตามแสงอาทิตย์ ได้เจาะลึกถึงเหตุผลที่ทำให้ทรินา โซลาร์ ได้คะแนนเต็ม 100% ในการสำรวจความน่าลงทุน โดยประสิทธิภาพอันเหนือชั้นของโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์กำลังสูงได้รับการยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์
คุณเกากล่าวว่า การผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ การกักเก็บพลังงาน กำลังไฟฟ้าแรงสูงพิเศษ และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมพลังงาน เป็นปัจจัยสำคัญสี่ประการในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน และหนทางสำคัญที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายดังกล่าวคือนวัตกรรมเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์ นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทรินา โซลาร์ ได้เป็นผู้นำในการพัฒนาโมดูลกำลังสูงพิเศษซีรีส์ 210 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เซลล์แสงอาทิตย์รุ่นใหม่ที่ผสมผสานความน่าเชื่อถือสูง กำลังการผลิตไฟฟ้าสูง และมูลค่าสูง โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ที่บริษัทส่งมอบไปทั่วโลกสามารถผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดได้ถึง 1.0395 แสนล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงตลอดอายุการใช้งาน และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ทั้งสิ้น 103.64 ล้านตัน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 5.7 พันล้านต้น ด้วยมูลค่าแบรนด์ที่โดดเด่นและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ ทรินา โซลาร์ ได้คะแนนเต็ม 100% ในการสำรวจความน่าลงทุนของ BloombergNEF ติดต่อกัน 6 ปี
คุณเกา จีฟ่าน ประธานบริษัท ทรินา โซลาร์
https://www.trinasolar.com/sites/default/files/2021120701.png
BloombergNEF หนึ่งในสถาบันวิจัยบุคคลที่สามที่น่าเชื่อถือที่สุดในตลาดพลังงานใหม่ทั่วโลก ได้ทำการสำรวจธนาคาร กองทุน บริษัทรับเหมาก่อสร้างแบบเบ็ดเสร็จ (EPC) และโรงไฟฟ้าทั่วโลกเป็นประจำทุกปี เพื่อประเมินความน่าลงทุนของเซลล์แสงอาทิตย์แบรนด์ต่าง ๆ และจัดทำรายงานซึ่งเป็นข้อมูลอ้างอิงที่มีค่าสำหรับสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อให้แก่โครงการลงทุน ในปี 2564 ทรินา โซลาร์ เป็นหนึ่งในสามแบรนด์ผู้ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ที่ได้คะแนนความน่าลงทุนเต็ม 100% จากผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด ซึ่งบ่งชี้ว่าโมดูลของทรินา โซลาร์ มีแนวโน้มที่จะช่วยให้นักพัฒนาได้รับเงินทุนจากธนาคาร โดยตลาดการเงินและอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลกมีความมั่นใจในความน่าเชื่อถือและคุณค่าของโมดูลกำลังสูงของทรินา โซลาร์
PVEL ตระหนักถึงประสิทธิภาพอันเหนือชั้นของโมดูลกำลังสูงของทรินา โซลาร์
PV Evolution Labs (PVEL) คือห้องปฏิบัติการทดสอบความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งดำเนินโครงการ Product Qualification Program (PQP) สำหรับประเมินความน่าเชื่อถือของโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์อย่างครอบคลุม โดยในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ คุณทริสตัน เอริออน โลริโก หัวหน้าธุรกิจโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ของ PVEL กล่าวว่า โมดูลกำลังสูงพิเศษซีรีส์ 210 แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือที่ยอดเยี่ยมในการประเมิน PQP ของ PVEL โดยโมดูลสองหน้ากระจกสองชั้นปราศจากรอยร้าวขนาดเล็กหลังการทดสอบ MSS และ TC ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับโมดูลขนาดใหญ่เช่นนี้ ทั้งนี้ PVEL ได้เผยแพร่รายงานคะแนนความน่าเชื่อถือของโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์เป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นข้อมูลอ้างอิงสำคัญที่ถูกนำไปใช้ในรายงานความน่าลงทุนประจำปีของ BloombergNEF
คุณจาง หยิงปิน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท ทรินา โซลาร์ ได้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าของโมดูลซีรีส์ 210 โดยทรินา โซลาร์ ได้ร่วมมือกับองค์กรบุคคลที่สามในการทดสอบที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการทดสอบปริมาณการรองรับหิมะที่ไม่เสมอกัน, การทดสอบกลไกการทำงานในอุณหภูมิต่ำสุดขั้ว, การทดสอบลูกเห็บ, การทดสอบ DML และการทดสอบอุโมงค์ลมแรงสุดขั้ว จนได้รับการยอมรับอย่างครอบคลุมในด้านความน่าเชื่อถือของกลไกในโมดูล Vertex ซีรีส์ 600W+
คุณจาง หยิงปิน ในงาน Clean Energy Expo China 2021
https://www.trinasolar.com/sites/default/files/2021120703.png
นอกจากนี้ Nextracker ได้ทำการทดสอบโมดูลของทรินา โซลาร์ หลายครั้ง และพบว่าเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับผลิตภัณฑ์ของบริษัทและมีความน่าเชื่อถือในระดับสูง โดย Nextracker มีระบบติดตามแสงอาทิตย์ที่หลากหลายซึ่งเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับโมดูล Vertex 210 นอกจากนี้ โมดูลดังกล่าวได้กลายเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมในด้านมาตรฐานขนาดโมดูล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรมปลายน้ำ
ขณะเดียวกัน DNV ยังร่วมแบ่งปันข้อดีของโมดูลกำลังสูงของทรินา โซลาร์ ทั้งในส่วนของการลดต้นทุนอุปกรณ์ประกอบระบบ (BOS) และต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยไฟฟ้าปรับเฉลี่ย (LCOE) โดยการคำนวณก่อนหน้านี้ซึ่งดำเนินการโดย Fraunhofer ISE สถาบันวิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และ Enertis ผู้ให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์อิสระระดับโลกในลาตินอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ได้แสดงให้เห็นว่าโมดูลซีรีส์ 600W+ มีประสิทธิภาพเหนือกว่าโมดูลกำลังสูงพิเศษรุ่นใหม่ ๆ ในแง่ของมูลค่าระบบ