ฮ่องกง--14 ธ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
E Fund Management (HK) ประกาศเปิดตัว "E Fund (HK) MSCI China A50 Connect ETF" หรือ "E Fund A50" (รหัสหุ้น 03111) บนตลาดหุ้นฮ่องกง โดยจดทะเบียนในวันที่ 14 ธันวาคม 2564 โดยเป็น ETF ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของดัชนี MSCI China A50 Connect ซึ่งเลือกหุ้น 50 ตัวจาก Shanghai-Hong Kong Stock Connect และ Shenzhen-Hong Kong Stock Connect เน้นที่สินทรัพย์หุ้น A Share ของจีน ในขณะเดียวกัน บริษัทจัดการสินทรัพย์อีกสองแห่งในฮ่องกงอย่าง ChinaAMC (HK) และ CSOP ก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ETF ที่คล้ายกับของ E Fund (HK) ในสัปดาห์นี้
รหัสเคาน์เตอร์สำหรับ E Fund A50 คือ 03111 ในสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง และ 83111 ในสกุลเงินหยวนตามลำดับ คิดหน่วยการซื้อขายที่ 100 หน่วย ราคา 2.6 หยวน และคิดเป็นขั้นต่ำต่อล็อตที่ 260 หยวน โดย Nick Li ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันของ E Fund HK เปิดเผยว่า บริษัทที่อยู่ในดัชนี MSCI China A50 Connect มีลักษณะที่โดดเด่นสองประการ ประการแรก ดัชนีมุ่งเน้นไปที่บริษัทขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักดัชนีสูง และประการที่สอง ดัชนีรวมเอาภาคส่วนในวงกว้างเพื่อการกระจายความเสี่ยงที่มากขึ้น ดัชนีดังกล่าวเลือกหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุด 2 ตัวจากแต่ละกลุ่มของ 11 GICS® และเลือกหลักทรัพย์อีก 28 ตัวที่เหลือจากดัชนีหลักอย่าง MSCI China A ตามน้ำหนักดัชนีจนครบ 50 ดัชนีนี้ได้เพิ่มสัดส่วนของเศรษฐกิจใหม่ และได้เพิ่มน้ำหนักเจาะจงอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ อิเล็กทรอนิกส์ ยา และภาคส่วนอื่น ๆ แต่ละอุตสาหกรรมมีสัดส่วนไม่เกิน 20% โดยในยุคของความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยมลพิษแตะระดับสูงสุด ประชากรสูงอายุ การยกระดับการบริโภค และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีนั้น การเปลี่ยนแปลงการถ่วงน้ำหนักในดัชนีนี้ก็สะท้อนถึงแนวโน้มในอนาคตของจีนได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อเทียบกับดัชนีที่คล้ายกัน เช่น FTSE A50 และดัชนี Shanghai Stock Exchange 50 แล้ว ดัชนี MSCI China A50 ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับสัดส่วนของบริษัท Contemporary Amperex Technology Company ซึ่งอยู่อันดับแรกในดัชนีนี้ โดย CATL เป็นผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1.5 ล้านล้าน
แม้ดัชนีนี้จะมุ่งเน้นไปที่หุ้นบลูชิปขนาดใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีการกระจายอุตสาหกรรมให้สมดุลมากขึ้น ซึ่งได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงอนาคต เพื่อให้ดัชนีดังกล่าวสะท้อนความก้าวหน้าของหุ้น A-share ของจีนได้ดีขึ้น โดยนับตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของดัชนี จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งครบรอบ 9 ปี ดัชนีนี้มีอัตราผลตอบแทนสะสมเกือบ 170% และเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2558 ดัชนีแตะจุดสูงสุดครั้งแรกจากการที่ตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น และขยับขึ้นทำสถิติใหม่ ๆ มานับตั้งแต่นั้น และนับจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2564 อัตราผลตอบแทนของดัชนีนั้นอยู่ที่เกือบ 30% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2558 (รวบรวมข้อมูลจาก Wind)
บริษัทจัดการสินทรัพย์ฮ่องกง 3 แห่งที่นำโดย E Fund (HK) จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ETF ที่ติดตามประสิทธิภาพของดัชนี MSCI China A50 Connect โดยอีกสองผลิตภัณฑ์ที่เหลือประกอบด้วย ChinaAMC MSCI China A50 Connect ETF (02839) และ CSOP MSCI China A50 Connect ETF (03003)