ฉางโจว, จีน--28 ม.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
PV InfoLink หน่วยงานวิเคราะห์เซลล์แสงอาทิตย์ระดับโลก เผยแพร่รายงานการจัดอันดับการจัดส่งโมดูลทั่วโลกประจำปี 2564 ในวันที่ 21 ม.ค. ซึ่งระบุว่า Trina Solar อยู่ในอันดับที่ 2 สอดคล้องกับการคาดการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนของ PVTech ผู้ให้บริการข้อมูลด้านอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ที่กำหนดให้ Trina Solar อยู่ในอันดับที่ 2 จาก 10 ซัพพลายเออร์โมดูลทั่วโลกในปีที่แล้ว
การจัดอันดับล่าสุดอ้างอิงจากฐานข้อมูลอุปสงค์และอุปทานของ PV InfoLink ซึ่งในแง่ของขนาดโมดูล ทาง PV InfoLink ได้ประมาณการว่า การจัดส่งโมดูลขนาดใหญ่โดยผู้ผลิต 10 อันดับแรก (ไม่รวม First Solar) อยู่ที่ราว 60 กิกะวัตต์หรือมากกว่า โดยคิดเป็นประมาณ 40% ของการจัดส่งทั้งหมดของผู้ผลิต 10 อันดับแรกในปี 2564 ซึ่งการจัดส่งในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของครึ่งปีแรก เนื่องจากโมดูลขนาดใหญ่ได้กลายเป็นที่นิยมมากที่สุด
นอกจากนี้ PV-Tech เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปีที่แล้ว โดยมีกำลังการผลิตโดยรวมและการจัดส่งมากกว่า 190 กิกะวัตต์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์สำหรับปี 2564 ที่ทาง PV-Tech เผยแพร่เมื่อปลายปี 2563 ขณะที่ในส่วนของการคาดการณ์อันดับการจัดส่งนั้นอิงตามการติดตามกำลังการผลิตและการจัดส่งประจำปีของผู้ผลิตโมดูลแต่ละรายอย่างต่อเนื่อง อันดับการจัดส่งของซัพพลายเออร์โมดูลประจำปี 2564:
https://static.trinasolar.com/sites/default/files/20220124152946.png
ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะระบุว่า กำลังการผลิตโมดูลที่วางแผนไว้ทั้งหมดของ Trina Solar ในปีที่แล้วแตะที่ระดับ 50 กิกะวัตต์ โดยโมดูลที่ใช้แผ่นเวเฟอร์ซิลิคอนขนาด 210 มม. มีสัดส่วนมากกว่า 70% และ Trina Solar ได้จัดส่งโมดูลขนาด 210 มม. มากกว่า 16 กิกะวัตต์ ถือเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาผู้ผลิตโมดูลขนาดใหญ่ทั้งหมด ส่งผลให้ยอดจัดส่งสะสมของโมดูลขนาด 210 มม. ทั่วโลกมากกว่า 25 กิกะวัตต์
ขณะเดียวกัน มีการติดตั้งโมดูลพลังงานสูงพิเศษในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลก รวมถึงในโครงการระดับกิกะวัตต์และ 100 เมกะวัตต์หลายแห่ง ซึ่งความต้องการสำหรับโมดูล 210 มม. ในตลาดโซลาร์เซลล์นั้นเพิ่มขึ้นทั่วโลก และคาดว่าความต้องการดังกล่าวจะช่วยผลักดันการเพิ่มกำลังการผลิตและการจัดส่งโมดูลพลังงานสูงต่อไป
โมดูลขนาดใหญ่เริ่มกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในปี 2564 โดยโมดูล 210 มม. เป็นสินค้าหลัก ซึ่งรายงานฉบับล่าสุดจาก TrendForce ผู้ให้บริการข้อมูลด้านการตลาดเชิงลึกคาดการณ์ว่า กำลังการผลิตโมดูลขนาดใหญ่จะแตะที่ระดับ 349.9 กิกะวัตต์ในปีนี้และส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันที่ระดับ 74.6% โดยคาดว่ากำลังการผลิตของโมดูลขนาด 210 มม. เพียงอย่างเดียวจะแตะที่ระดับ 206.8 กิกะวัตต์ หรือคิดเป็น 44.1%