ปักกิ่ง--22 เมษายน 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เราจะสร้างโลกยุคหลังโควิดให้ดีขึ้นได้อย่างไร เราจะทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างไร และเราจะสร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายได้อย่างไร
คำถามสำคัญสามข้อนี้คือวาระสำคัญของการประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย (Boao Forum for Asia หรือ BFA) ประจำปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองโป๋อ่าว มณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีน และได้รับความสนใจจากทั่วโลก
โครงการความมั่นคงโลก (Global Security Initiative) เพื่อส่งเสริมความมั่นคงของประชากรทุกคนทั่วโลก ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้นำเสนอในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้เผยให้เห็นถึงมุมมองของเอเชียในการรับมือกับความท้าทายนานัปการในยุคปัจจุบัน
"ระบบบูรณาการและซับซ้อน"
นายสี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์ออนไลน์ว่า ความมั่นคงเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการพัฒนา และมนุษยชาติกำลังอาศัยอยู่ใน "ชุมชนความมั่นคงที่แบ่งแยกไม่ได้"
"ในยุคสมัยนี้ ประชาคมโลกพัฒนาไปมากจนกลายเป็นระบบบูรณาการและมีความซับซ้อน" เขากล่าว พร้อมกับเสริมว่าการพยายามกำจัดส่วนใดส่วนหนึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงต่อการดำเนินงานทั้งหมด
นอกจากนี้ ผู้นำจีนได้เรียกร้องให้ทุกประเทศจับมือกัน พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการร่วมกันต่อสู้กับโควิด-19 ตลอดจนส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รักษาสันติภาพของโลก และจัดการกับความท้าทายด้านธรรมาภิบาลโลก
"เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่บรรดาประเทศใหญ่ต้องเป็นผู้นำด้วยการเป็นแบบอย่างในการเคารพความเสมอภาค ความร่วมมือ ความสุจริต และหลักนิติธรรม ตลอดจนดำเนินการอย่างเหมาะสมกับสถานะของตนเอง" เขากล่าว
นับเป็นครั้งที่หกแล้วที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมนี้ โดยความร่วมมือและสันติภาพเป็นหนึ่งในคำสำคัญที่เขากล่าวถึงอยู่เสมอเมื่ออธิบายจุดยืนของจีนในเวทีโลก
"ทำให้เอเชียเป็นที่ยึดเหนี่ยว"
รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียและความก้าวหน้าในภาพรวมประจำปี 2565 ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากความเสมอภาพของอำนาจซื้อ (Purchasing Power Parity) พบว่าเอเชียครองส่วนแบ่งในเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น 0.2 จุดเปอร์เซ็นต์ในปี 2564 เมื่อเทียบกับปี 2563 แตะที่ระดับ 47.4%
รายงานยังระบุด้วยว่ามีหลายปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการประเมินสมรรถนะทางเศรษฐกิจในปี 2565 ซึ่งรวมถึงสถานการณ์โควิด-19, ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์หลังเกิดความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน, การปรับนโยบายการเงินในสหรัฐอเมริกาและยุโรป, ปัญหาหนี้สินในบางประเทศ, อุปทานโลก และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในบางประเทศในเอเชีย
ปัจจัยดังกล่าวทำให้ข้อเสนอของนายสี จิ้นผิง มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น นั่นคือ การทำให้เอเชียเป็นที่ยึดเหนี่ยวสันติภาพของโลก เป็นขุมพลังสำหรับการเติบโตทั่วโลก และเป็นผู้กำหนดแนวทางใหม่ในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ
"เมื่อเอเชียไปได้สวย ทั่วทั้งโลกก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน" เขากล่าว
นอกจากนี้ เขาได้เรียกร้องให้มีความพยายามในการส่งเสริมตลาดที่เปิดกว้างมากขึ้นทั่วทั้งเอเชีย โดยเขาได้เน้นย้ำถึงการคว้าโอกาสต่าง ๆ เช่น การบรรลุความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และการเปิดทางรถไฟจีน-ลาว
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เน้นย้ำบทบาทของจีนในกระบวนการเหล่านี้ โดยกล่าวว่าพื้นฐานของเศรษฐกิจจีนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ เศรษฐกิจจีนยังคงมีความยืดหยุ่นที่แข็งแกร่ง มีศักยภาพมหาศาล มีโอกาสมากมายในการปรับกลยุทธ์ และมีความยั่งยืนในระยะยาว
วิดีโอ - https://www.youtube.com/watch?v=mGVN7d15S0k