ฉางโจว, จีน--17 พฤษภาคม 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
จากการพิจารณาข้อมูลงบการเงินของผู้ผลิตโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ชั้นนำ องค์กรหลายแห่งได้จัดอันดับให้ ทรินา โซลาร์ (Trina Solar) ผู้นำระดับโลกด้านเซลล์แสงอาทิตย์และโซลูชันพลังงานอัจฉริยะครบวงจร อยู่ในอันดับ 2 ของโลกจากการส่งมอบโมดูลรวม 8 กิกะวัตต์ในไตรมาสแรกของปีนี้ ข้อมูลนี้สอดคล้องกับรายงานของพีวี อินโฟลิงก์ (PV InfoLink) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิเคราะห์ด้านเซลล์แสงอาทิตย์ที่เชื่อถือได้ และพีวีเทค (PV-Tech) ซึ่งเป็นสื่อด้านเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่จัดอันดับการส่งมอบโมดูลทั่วโลกในปีที่ผ่านมา และยกให้ทรินา โซลาร์ อยู่ในอันดับ 2 เช่นกัน ขณะที่บริษัทคาดว่าจะยังสามารถรักษาอันดับไว้ได้ในปีนี้จากการส่งมอบโมดูลรวม 43 กิกะวัตต์
นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมกล่าวว่า โมดูล 210 ที่มีความน่าเชื่อถือ ให้พลังงานสูง และมีต้นทุนต่ำ ซึ่งทรินา โซลาร์ เป็นผู้บุกเบิกและกลายมาเป็นโมดูลกระแสหลักของอุตสาหกรรม ได้ช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเทคโนโลยี G12-210 Vertex ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากทั่วทั้งอุตสาหกรรม ขณะที่รายงานของสื่อระบุว่า การส่งมอบโมดูล 210 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมากสู่ระดับ 26 กิกะวัตต์ในปีที่แล้ว และทรินา โซลาร์ มีส่วนในการส่งมอบถึง 16 กิกะวัตต์จากทั้งหมด จนครองอันดับหนึ่ง และภายในเดือนมีนาคม ยอดส่งมอบสะสมก็เพิ่มขึ้นทะลุ 35 กิกะวัตต์ ทั้งนี้ การที่อุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ก้าวเข้าสู่ยุค 600 วัตต์+ ทำให้การทำงานร่วมกันของห่วงโซ่อุตสาหกรรมราบรื่นขึ้น ขณะที่อินเวอร์เตอร์และระบบติดตามแสงอาทิตย์ก็รองรับโมดูล 210 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และระบบนิเวศ 600 วัตต์+ ก็มีการพัฒนามากขึ้น ด้านกำลังการผลิตและการส่งมอบโมดูล 210 ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทรินา โซลาร์ ได้รับการยอมรับในระดับสากลจากความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์และความคุ้มค่าในการลงทุนหลายต่อหลายครั้ง ในปีที่ผ่านมา บริษัทติดกลุ่มผู้ทำผลงานยอดเยี่ยม (Top Performer) เป็นปีที่ 7 ติดต่อกันจากการประเมินโดยพีวีอีแอล (PVEL) ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการทดสอบเซลล์แสงอาทิตย์อิสระชั้นนำ นอกจากนี้ ทรินา โซลาร์ ยังได้คะแนน 100% ในการสำรวจความคุ้มค่าในการลงทุนโดยบีเอ็นอีเอฟ (BNEF) ซึ่งจัดอันดับให้บริษัทเป็นผู้จัดหาโมดูลที่คุ้มค่าต่อการลงทุนเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน อีกทั้งยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้ผลิตโมดูลระดับเทียร์ 1 โดยบีเอ็นอีเอฟ ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว
