โคโรน่าสร้างสรรค์ภาพอันทรงพลังด้วยขยะพลาสติกที่นำขึ้นมาจากมหาสมุทร
ลอนดอน--9 มิถุนายน 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เนื่องในวันมหาสมุทรโลก 8 มิถุนายน โคโรน่า (Corona) แบรนด์เบียร์ระดับโลกในเครือ เอบี อินเบฟ (AB InBev) ได้นำเสนอเป้าหมายพลาสติกสุทธิเป็นศูนย์* อย่างเป็นรูปธรรมด้วยภาพที่ดึงดูดความสนใจ ด้วยการนำขยะพลาสติกจากมหาสมุทรมาเรียงเป็นข้อความอันทรงพลังว่า "Imagine a World Free of Plastic" (จินตนาการถึงโลกที่ปราศจากพลาสติก) เพื่อแสดงให้เห็นถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยพลาสติกเหล่านี้ได้มาจากการทำความสะอาดชายหาดทั่วโลกที่ดำเนินการโดยโคโรน่าและพันธมิตร
การนำเสนอดังกล่าวเรียกร้องให้ผู้คนหันมาตระหนักว่ามีพลาสติกมากถึง 300 ล้านตันต่อปีที่กลายเป็นขยะในมหาสมุทร และคิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของขยะทั้งหมดในมหาสมุทร** (ข้อมูลจาก IUCN ปี 2564) โดยขยะพลาสติกจากแหล่งน้ำ/มหาสมุทรของประเทศบราซิล ชิลี สาธารณรัฐโดมินิกัน เยอรมนี หมู่เกาะคานารี อิตาลี และเปอร์โตริโก ได้ถูกนำมาสร้างตัวอักษรบนชายหาดของประเทศเม็กซิโก
"วันมหาสมุทรโลกเป็นโอกาสที่ดีในการสะท้อนและทำความเข้าใจผลกระทบที่มนุษย์มีต่อทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ โคโรน่ามีประวัติอันยาวนานในการปกป้องธรรมชาติ และเราต้องการส่งข้อความสำคัญไปทั่วโลก" คุณเฟลิเป้ อัมบรา (Felipe Ambra) รองประธานสากลของโคโรน่า กล่าว "เราสร้างสรรค์ตัวอักษรจากพลาสติกขึ้นมาเพื่อเน้นย้ำว่าถึงเวลาลงมือทำแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่พูดอย่างเดียว เราต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องมหาสมุทรจากมลพิษพลาสติกรายวัน และเราหวังว่าภาพนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายฝ่ายหันมาประเมินบทบาทของตนเองและสิ่งที่สามารถทำได้"
นอกเหนือจากการสร้างสรรค์ตัวอักษรจากพลาสติกแล้ว โคโรน่ายังมีความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการต่อสู้กับมลพิษพลาสติกในทะเลด้วยวิธีการใหม่ โดยในวันรีไซเคิลโลกปีนี้ โคโรน่าเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเก็บขยะพลาสติกจากมหาสมุทรระดับโลกเป็นครั้งแรกในประเทศจีน บราซิล อิสราเอล แอฟริกาใต้ โคลอมเบีย และเม็กซิโก โดยสามารถเก็บขยะพลาสติกจากมหาสมุทรได้เกือบ 10 ตัน และยังเป็นการสนับสนุนชุมชนชาวประมงในท้องถิ่นด้วย ขณะเดียวกัน โคโรน่าได้ริเริ่มโครงการลังหมุนเวียนในเยอรมนี ซึ่งใช้พลาสติกรีไซเคิลมากกว่า 90% เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกผลิตใหม่ จนถึงปัจจุบัน โคโรน่าได้จัดกิจกรรมทำความสะอาดไปแล้วกว่า 1,400 ครั้ง โดยร่วมมือกับอาสาสมัครกว่า 68,000 คน และรวบรวมขยะพลาสติกจากชายหาดรวมกว่า 44 ล้านตารางเมตร
"สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ พลาสติกที่เราเก็บมานั้นไม่ได้มาจากเม็กซิโก แต่เป็นพลาสติกที่มาจากทั่วทุกมุมโลก โดยถูกกระแสน้ำพัดพาไปสู่ชายหาดทุกหนแห่ง" คุณเมอร์เซเดส กุซมาน (Mercedes Guzman) ผู้ก่อตั้งลาเมอร์เซด (Lamerced) พันธมิตรของโคโรน่าในการทำความสะอาดชายหาดและการรีไซเคิล กล่าว "แม้ว่าการทำงานภาคสนามของเราจะเป็นเรื่องยาก แต่เราก็รู้สึกยินดีที่ได้ส่งสารว่า ถึงแม้จะไม่ใช่พลาสติกของเรา แต่ก็เป็นโลกที่เราต้องร่วมกันปกป้อง"
โคโรน่าเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมในฐานะแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกรายแรกที่บรรลุเป้าหมายพลาสติกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2564 ด้วยโครงการริเริ่มล่าสุดนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องในการเก็บกู้พลาสติกจากสิ่งแวดล้อมให้มากกว่าการทิ้งขยะพลาสติกสู่สิ่งแวดล้อม สามารถรับชมขั้นตอนการสร้างสรรค์ตัวอักษรจากพลาสติกเนื่องในวันมหาสมุทรโลกได้จากหนังสั้นที่ผลิตโดยบริษัทไวเดน+เคนเนดี (Wieden+Kennedy)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการความยั่งยืนด้านมลพิษพลาสติกของของโคโรน่าได้ที่ www.protectparadise.com
*รายงานสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ประจำปี 2564 ของเอบี อินเบฟ จาก https://www.ab-inbev.com/assets/pdfs/ABINBEV_ESG_2021_Final.pdf - หน้า 37
**องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) (พฤศจิกายน 2564) ประเด็นโดยย่อ: มลพิษพลาสติกในทะเล จาก https://www.iucn.org/resources/issues-briefs/marine-plastic-pollution
เกี่ยวกับโคโรน่า โกลบอล โคโรน่าเป็นแบรนด์ผู้ผลิตเบียร์ชั้นนำ มีต้นกำเนิดในประเทศเม็กซิโก และยังเป็นเบียร์เม็กซิกันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก โดยส่งออกไปประเทศต่าง ๆ กว่า 180 ประเทศ โดยเบียร์โคโรน่า เอ็กซ์ตรา (Corona Extra) ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 2468 ที่โรงงานผลิตสุราเซร์เบเซริอา โมเดโล (Cervecería Modelo) ในเม็กซิโกซิตี้ โคโรน่ายังเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเบียร์ โดยเป็นเจ้าแรกที่ใช้ขวดแก้วใสเพื่อให้เห็นถึงความบริสุทธิ์และคุณภาพที่สูงของเบียร์ นอกจากนี้ ลวดลายงานศิลปะที่โชว์อยู่บนขวดยังมีการลงสี เพื่อย้ำถึงความมุ่งมั่นด้านคุณภาพของบรรจุภัณฑ์และมรดกของชาวเม็กซิกัน เบียร์โคโรน่าจะสมบูรณ์ไม่ได้หากปราศจากมะนาว การเติมน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัว รสชาติ และความสดชื่นเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ อันเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครให้กับโคโรน่าอย่างแท้จริง ชื่อแบรนด์ยังเป็นคำพ้องที่มีความหมายเหมือนกับคำว่า การออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ชายหาดและใช้เวลาสังสรรค์ ที่เชื้อเชิญผู้คนให้หยุดพัก ผ่อนคลาย และเพลิดเพลินกับความสุขที่เรียบง่ายของชีวิต โคโรน่ายังมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการลดพลาสติกนับตั้งแต่เป็นพันธมิตรกับพาร์ลีย์ ฟอร์ ดิ โอเชียนส์ (Parley for the Oceans) เมื่อปี 2560 โดยทั้งสองฝ่ายได้บรรลุภารกิจในการปกป้องดูแลเกาะ 100 เกาะก่อนปี 2563 และยังคงพยายามขจัดปัญหาขยะทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง |
เกี่ยวกับแอนไฮเซอร์-บุช อินเบฟ แอนไฮเซอร์-บุช อินเบฟ (Anheuser-Busch InBev) เป็นบริษัทมหาชน (Euronext: ABI) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองลูเวน ประเทศเบลเยียม โดยจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศในเม็กซิโก (MEXBOL: ANB) และแอฟริกาใต้ (JSE: ANH) และมีใบรับฝากหุ้นที่ออกโดยสถาบันการเงินในสหรัฐ (American Depositary Receipts) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE: BUD) ในฐานะบริษัทแห่งหนึ่ง เรามีความฝันยิ่งใหญ่ที่จะสร้างอนาคตด้วยเสียงเชียร์ที่ดังขึ้น เรามักมองหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของเราไปข้างหน้า และสร้างผลกระทบที่มีความหมายต่อโลกอยู่เสมอ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างแบรนด์ยอดเยี่ยมที่รักษาคุณค่าเหนือกาลเวลาและการผลิตเบียร์ที่ดีที่สุดโดยใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุด ผลงานที่หลากหลายของเราประกอบด้วยแบรนด์เบียร์มากกว่า 500 แบรนด์ รวมถึงแบรนด์ระดับโลกอย่างบัดไวเซอร์ (Budweiser®), โคโรน่า (Corona®) และสเตลลา อาทัวส์ (Stella Artois®) แบรนด์ที่จำหน่ายในหลายประเทศอย่างเบ็คส์ (Beck's®), โฮการ์เด้น (Hoegaarden®), เลฟ (Leffe®) และมิเคลอป อัลตรา (Michelob ULTRA®) และแชมป์ท้องถิ่นอย่างอากีลา (Aguila®), แอนตาร์ติกา (Antarctica®), บัด ไลท์ (Bud Light®), บราห์มา (Brahma®), แคส (Cass®), คาสเซิล (Castle®), คาสเซิล ไลท์ (Castle Lite®), คริสตอล (Cristal®), ฮาร์บิน (Harbin®), จูปิเลอร์ (Jupiler®), โมเดโล เอสเปเชียล (Modelo Especial®), ควิลเมส (Quilmes®), วิคตอเรีย (Victoria®), เซดริน (Sedrin®), และสกอล (Skol®) มรดกด้านการผลิตเบียร์ของเรามีอายุมากกว่า 600 ปี ครอบคลุมหลายทวีปและหลายชั่วอายุคน จากรากฐานในยุโรปที่โรงเบียร์เดน ฮูร์น (Den Hoorn) ในเมืองลูเวน ประเทศเบลเยียม สู่จิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกโรงเบียร์แอนไฮเซอร์ แอนด์ โค (Anheuser & Co) ในเมืองเซนต์หลุยส์ของสหรัฐ สู่การก่อตั้งโรงเบียร์คาสเซิล บริวเวอรี่ (Castle Brewery) ในแอฟริกาใต้ในช่วงยุคตื่นทองในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก สู่โรงเบียร์โบฮีเมีย (Bohemia) ซึ่งเป็นโรงเบียร์แห่งแรกในบราซิล ทั้งนี้ เรามีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และเปิดตัวอย่างสมดุลในตลาดที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งส่วนรวมของพนักงานประมาณ 169,000 คนในเกือบ 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเอบี อินเบฟได้รายงานรายได้ไว้ที่ 5.43 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รวมการร่วมลงทุนและหุ้นส่วน) ในปี 2564 |
วิดีโอ - https://www.youtube.com/watch?v=VhBqJAZCVmw
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1835335/World_Oceans_Day.jpg?p=medium600
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1835359/Corona_Logo.jpg?p=medium600