ปารีส
20 มิถุนายน 2565
/PRNewswire/ -- โกลบอล โมบิลิตี้ คอลล์ (Global Mobility Call) การประชุมเพื่อส่งเสริมการสัญจรอย่างยั่งยืนซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยอิเฟมา มาดริด (IFEMA MADRID) และสม็อบฮับ (Smobhub) ได้ปิดฉากลงแล้ววันนี้ ด้วยพลังขับเคลื่อนเพื่อสร้างการสัญจรที่ยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และเสมอภาคกว่าเดิม พร้อมสร้างระบบนิเวศใหม่ที่รวมภาคธุรกิจและภาคสถาบันเข้าด้วยกันเพื่อส่งเสริมการสัญจรในยุคใหม่
โกลบอล โมบิลิตี้ คอลล์ มีผู้เข้าร่วมงานในสถานที่จริงกว่า 4,500 ราย และผู้เข้าชมทางออนไลน์อีก 13,000 รายจาก 40 ประเทศ โดยมียอดรับชมโปรแกรมสดกว่า 1.3 ล้านวิว นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าว 250 รายยังได้ร่วมรายงานความเคลื่อนไหวในการอภิปรายจากหลากหลายภาคส่วนกว่า 100 รายการ ซึ่งผู้อภิปราย ตัวแทนจากภาครัฐและเอกชน นักธุรกิจ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญกว่า 300 ราย ได้ร่วมกันโชว์ข้อเสนอ แนวคิด รายงาน และภาพสะท้อนต่าง ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในแง่ของการสัญจร
หนึ่งในข้อสรุปจากการประชุมนี้ได้แก่ความจำเป็นในการทำโครงการระดับประเทศและระดับสากล ที่ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การลดคาร์บอน การเชื่อมต่อ การขนส่งต่อเนื่องต่างรูปแบบและหลายรูปแบบ การยกระดับอุตสาหกรรม การวางผังเมือง การพัฒนาการขนส่งในพื้นที่ชนบท ไปจนถึงการระดมทุน และบริการเฉพาะทาง
เปโดร ซานเชส (Pedro Sánchez) นายกรัฐมนตรีสเปน ได้ปิดการประชุมโกลบอล โมบิลิตี้ คอลล์ โดยกล่าวว่าการประชุมนี้ "เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในเรื่องความยืดหยุ่น ความทะเยอทะยานในการเปลี่ยนแปลง ความร่วมมืออันเป็นแกนหลักระหว่างภาครัฐกับเอกชน ความเข้มแข็งของบริษัทต่าง ๆ และสังคมสเปนในภาพรวม ทั้งภาครัฐและเอกชนล้วนมีความสามารถในการรับมือกับอุปสรรคต่าง ๆ และปรับตัวให้รับกับสถานการณ์ใหม่ ๆ ได้"
นายกรัฐมนตรีสเปนเน้นย้ำว่า ความไม่แน่นอนที่เป็นผลจากสงคราม "ไม่ควรเป็นอุปสรรค" ที่ทำให้การยกระดับการสัญจรให้ยั่งยืนนั้นล่าช้าออกไป
ด้านคุณโฮเซ่ บิเซนเต เด ลอส โมซอส (José Vicente de los Mozos) ประธานคณะกรรมการบริหารของอิเฟมา มาดริด กล่าวอธิบายขณะปิดการประชุมว่า การประชุมโกลบอล โมบิลิตี้ คอลล์ ได้แสดงให้เห็น "แรงบันดาลใจและกุญแจสำคัญในการทำธุรกิจที่มีสัดส่วนมากเช่นนี้ ซึ่งสิ่งสำคัญคือการเข้าถึงกองทุนฟื้นฟู" ขณะที่การประชุมดังกล่าวได้สร้าง "คอนเทนต์และโอกาสในการสร้างเครือข่ายเพื่อการประกอบอาชีพ ซึ่งจะกลายเป็นพลังกระตุ้นการสัญจรอย่างยั่งยืน"
เขากล่าวว่า "เราจำเป็นต้องนำคอนเทนต์และจุดสัมผัสที่ให้ผลประโยชน์สูงสุดที่สร้างขึ้นตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้มาดำเนินการ เราจะต้องรับหน้าที่จัดการและทำให้มรดกที่สำคัญเช่นนี้เป็นที่เข้าถึงได้ในภาคส่วนต่าง ๆ และผู้เชี่ยวชาญอีกหลายพันคนที่เข้าร่วมการประชุมโกลบอล โมบิลิตี้ คอลล์"
โกลบอล โมบิลิตี้ คอลล์ ได้ตอบรับกับความจำเป็นในการรวมผู้ที่มีบทบาทส่งเสริมการสัญจรทุกระดับมาไว้ด้วยกัน ในยามที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง ความจำเป็นในการรับมือกับวิกฤติสภาพอากาศและพลังงาน พร้อมคว้าโอกาสที่มาจากกองทุนฟื้นฟูวงเงิน 8 แสนล้านยูโรของยุโรปอย่างเน็กซ์เจเนอเรชันอียู (NextGenerationEU) ได้เปิดโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนให้โกลบอล โมบิลิตี้ คอลล์ เข้ามาวางอนาคตให้กับการสัญจรที่มีความเป็นดิจิทัล ปลอดภัย และปลอดคาร์บอน ซึ่งคำนึงถึงโลกและสุขภาพของผู้คน สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ความตกลงปารีส และอนุสัญญายุโรปสีเขียว (European Green Pact)
เจฟฟรีย์ แซคส์ (Jeffrey Sachs) นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันและผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้อภิปราย ได้เรียกร้องให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาการสัญจร และยืนยันหนักแน่นว่าต้องดำเนินการโดยอาศัยความร่วมมือจากทั่วทั้งระบบนิเวศ เหมือนกับที่โกลบอล โมบิลิตี้ คอลล์ ทำอยู่
โคลทิลด์ เดลบอส (Clotilde Delbos) ซีอีโอบริษัทโมบิไลซ์ (Mobilize) ได้เน้นย้ำความจำเป็นในการให้บริการสัญจรที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้แต่ละราย
มิชิโอะ คาคุ (Michio Kaku) นักฟิสิกส์และผู้มองอนาคต ได้คาดการณ์บทบาทของฟิสิกส์ควอนตัม ในการสร้างคอมพิวเตอร์ที่จะเชื่อมโยงกับสมองและการนำหุ่นยนต์มาใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์
อดินา วาเลียน (Adina Vălean) กรรมาธิการยุโรปด้านการคมนาคม ได้เน้นย้ำถึงโอกาสในการนำทุนที่ได้จากกองทุนเน็กซ์เจเนอเรชันอียู ไปใช้อุดหนุนโครงการต่าง ๆ ในภาคคมนาคมของยุโรป ทั้งยังเน้นย้ำถึงความสำคัญในการพัฒนาให้สอดรับกับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน เพื่อให้ยุโรปพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิสน้อยลง
โมนิกา อรายา (Monica Araya) ที่ปรึกษาด้านการเคลื่อนย้ายทางสภาพอากาศ และสมาชิกคณะกรรมการอำนวยการของไคลเมทเวิร์กส์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (ClimateWorks & Partners) ได้เสนอให้นำประเด็นเรื่องการสร้างงาน บ่มเพาะคนเก่ง และประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ลงในวาระส่งเสริมการสัญจรอย่างยั่งยืนด้วย ในช่วงเวลาที่ประเทศต่าง ๆ กำลังรับมือกับปัญหาซัพพลายเชน ขณะที่สังคมกำลังกังวลกับวิกฤติสภาพอากาศและการฝึกทักษะใหม่ให้กับแรงงานในภาคส่วนต่าง ๆ
คาร์โล รัตตี (Carlo Ratti) นักวางผังเมืองและศาสตราจารย์ประจำสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) เรียกร้องให้มองการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างที่กำลังเกิดขึ้นอย่างล้ำลึกในการสัญจรของผู้คน หน้าที่การงาน และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในยามที่เกิดปัญหาจากวิกฤติโควิด-19 และสงคราม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.ifema.es/en/global-mobility-call/
ติดต่อ:
มาร์ทา คาโช (Marta Cacho), ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสาร, อีเมล: mcacho@ifema.es
อีเลนา วาเลรา (Elena Valera), ฝ่ายสื่อระหว่างประเทศ, อีเมล: evalera@ifema.es
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1842428/Global_Mobility_Call.jpg?p=medium600
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1842429/Pedro_Sanchez.jpg?p=medium600
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1706777/Global_Mobility_Call_Logo.jpg?p=medium600