Xinhua Silk Road: เมืองปินโจวส่งเสริมความร่วมมือกับบริษัทข้ามชาติ อาศัยข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใคร

ปักกิ่ง--22 มิถุนายน 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

การประชุมสุดยอด ชิงเต่า มัลติเนชันแนลส์ ซัมมิต ครั้งที่ 3 ส่งเสริมความร่วมมือบริษัทข้ามชาติ-เมืองปินโจว (Third Qingdao Multinationals Summit, Multinationals Promotion - Binzhou) จัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ณ เมืองชิงเต่า มณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน โดยมีจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายระหว่างเมืองปินโจวกับบรรดาบริษัทข้ามชาติ

การประชุมในหัวข้อ "เปิดกว้าง สร้างสรรค์นวัตกรรม และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก" (Opening up, Innovation and Win-Win Cooperation, Boosting Global Economic Recovery) ร่วมกันจัดขึ้นโดยเทศบาลเมืองปินโจว, มูลนิธิเพื่อการวิจัยเชิงพัฒนาแห่งประเทศจีน (China Development Research Foundation), มหาวิทยาลัยสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (University of Chinese Academy of Sciences) และบริษัท ซานตง เว่ยเฉียว ไพโอเนียริง กรุ๊ป (Shandong Weiqiao Pioneering Group) 

ภายในงานมีการลงนามข้อตกลง 24 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 2.722 หมื่นล้านหยวน ทั้งในอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ วัสดุใหม่ เคมีภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ อลูมินัมและการผลิตอุปกรณ์ การเลี้ยงปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว บริการสมัยใหม่ และเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่

คุณซ่ง หยงเซียง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองปินโจว กล่าวสุนทรพจน์หลักว่า เมืองปินโจวมีข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใคร ส่งผลให้มีโอกาสมากมายในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการ

คุณซ่งกล่าวว่า ผู้ที่เข้ามาลงทุนในเมืองปินโจวจะได้รับโอกาสเชิงกลยุทธ์มากมาย เนื่องจากเมืองปินโจวมีส่วนร่วมในโครงการยุทธศาสตร์สำคัญระดับชาติ เช่น โครงการอนุรักษ์ระบบนิเวศและการพัฒนาคุณภาพสูงในลุ่มแม่น้ำฮวงโห หรือแม่น้ำเหลือง, โครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจป๋อไห่ เป็นต้น

คุณซ่งกล่าวเสริมว่า เมืองปินโจวมีแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมมากมาย โดยมีการค้นพบการทำกิจกรรมของมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองปินโจวซึ่งย้อนกลับไปถึง 8,500 ปี นอกจากนั้นยังมีวัฒนธรรมซุนจื่อ วัฒนธรรมแม่น้ำฮวงโห และวัฒนธรรมแดง ซึ่งกลายมาเป็นแหล่งพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของเมืองอย่างคึกคัก

ขณะเดียวกัน เมืองปินโจวยังมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม จึงเป็นจุดหมายปลายทางในอุดมคติสำหรับบริษัทต่าง ๆ ในการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากพลังงานสะอาด

คุณซ่งยังกล่าวด้วยว่า เมืองปินโจวมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจที่แท้จริง โดยได้มีการบ่มเพาะกลุ่มอุตสาหกรรมมูลค่าหลายแสนล้านหยวน ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมอลูมินัมระดับไฮเอนด์ เคมีภัณฑ์ขั้นปลาย สิ่งทออัจฉริยะ การแปรรูปอาหาร การเลี้ยงปศุสัตว์ และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ โดยธุรกิจหลักมีรายได้มากกว่า 1.1 ล้านล้านหยวนในปีที่แล้ว

ในฐานะเมืองที่เปิดกว้าง เมืองปินโจวได้สร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับ 186 ประเทศและดินแดนทั่วโลก

นอกจากนี้ เมืองปินโจวยังมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม การอยู่อาศัยอย่างสะดวกสบาย และการทำธุรกิจ

คุณซ่งกล่าวว่า ข้อได้เปรียบทั้งหมดนี้เป็นแรงกระตุ้นใหม่ที่ช่วยผลักดันให้เมืองปินโจวสามารถพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ และเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเมืองปินโจวยินดีต้อนรับบริษัททุกแห่งให้เข้ามาลงทุนและเริ่มทำธุรกิจในเมืองแห่งนี้