 |
นิไล, มาเลเซีย--21 กรกฎาคม 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เอสเคเอฟ มาเลเซีย (SKF Malaysia Sdn. Bhd.) ประกาศเปิดศูนย์บริการปรับปรุงสภาพตลับลูกปืนรถไฟแห่งแรก เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการบำรุงรักษาและการบริการของอุตสาหกรรมรถไฟที่กำลังเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเต็มที่ ศูนย์บริการแห่งนี้ตั้งอยู่ที่โรงงานของเอสเคเอฟในเมืองนิไล รัฐเนเกรีเซมบิลัน ประเทศมาเลเซีย โดยให้บริการปรับปรุงสภาพตลับลูกปืนเม็ดเรียว (TBU) และตลับลูกปืนเม็ดทรงกระบอก (CRU) ของรถไฟโดยสารและรถไฟบรรทุกสินค้า
(จากซ้ายไปขวา) คุณนาคีบ บิน ยูซอฟ (Naqeeb Bin Yusof) ผู้จัดการฝ่ายรถไฟและบริการ บริษัท เอสเคเอฟ มาเลเซีย, คุณโมฮัมหมัด ซาดิก (Mohamad Saadiq) ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอสเคเอฟ แบริ่ง อินดัสทรีส์ มาเลเซีย, คุณมานิช บัตนาการ์ (Manish Bhatnagar) ประธานเอสเคเอฟประจำอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคุณเอร์นัน บูร์บอตต์ (Hernán Bourbotte) ผู้จัดการเอสเคเอฟประจำประเทศมาเลเซีย ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดศูนย์บริการปรับปรุงสภาพตลับลูกปืนรถไฟ ณ โรงงานของเอสเคเอฟในเมืองนิไล รัฐเนเกรีเซมบิลัน ประเทศมาเลเซีย
คุณมานิช บัตนาการ์ (Manish Bhatnagar) ประธานเอสเคเอฟประจำอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า "ผู้ประกอบกิจการรถไฟกำลังมองหาโซลูชันที่ยั่งยืนในการใช้งาน การบำรุงรักษา และการซ่อมแซมชิ้นส่วนรถไฟ ความเชี่ยวชาญของเราในการปรับปรุงสภาพตลับลูกปืนตามมาตรฐานเอสเคเอฟ พร้อมข้อได้เปรียบด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้นทุน และการประหยัดเวลา ทำให้เราอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งในการตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมรถไฟที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
"ศูนย์บริการปรับปรุงสภาพตลับลูกปืนรถไฟแห่งนี้ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจหมุนเวียน"
การปรับปรุงสภาพเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียน เนื่องจากเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมมอบข้อได้เปรียบด้านต้นทุนให้แก่ลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยตลับลูกปืนที่ผ่านการปรับปรุงสภาพจะช่วยประหยัดต้นทุนได้สูงสุดถึง 55% เมื่อเทียบกับตลับลูกปืนใหม่ อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้มากถึง 90% เมื่อเทียบกับตลับลูกปืนใหม่ โดยขึ้นอยู่กับปริมาณ นอกจากนี้ กระบวนการปรับปรุงสภาพยังใช้พลังงานน้อยลงถึง 90% และใช้ทรัพยากรน้อยลง ทั้งยังก่อให้เกิดขยะน้อยกว่าการผลิตตลับลูกปืนใหม่ โดยที่ยังคงความน่าเชื่อถือเทียบเท่ากับตลับลูกปืนใหม่ เนื่องจากเอสเคเอฟใช้มาตรฐาน การประกันคุณภาพ องค์ความรู้ และความสามารถแบบเดียวกันกับการผลิตตลับลูกปืนใหม่
คุณเอร์นัน บูร์บอตต์ (Hernán Bourbotte) ผู้จัดการเอสเคเอฟประจำประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า "ศูนย์บริการปรับปรุงสภาพตลับลูกปืนรถไฟแห่งใหม่นี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการขยายธุรกิจและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย โดยช่วยให้เรามีบทบาทเชิงรุกในการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟอย่างยั่งยืน และมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์และระบบนิเวศการขนส่งของประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระสำคัญของรัฐบาลตามที่ระบุไว้ในแผนพัฒนามาเลเซีย (Malaysia Plan) ฉบับที่ 12 ปี 2564-2568 เราตั้งตารอที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมรถไฟเพื่อเดินหน้าเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนต่อไป"
เอสเคเอฟสร้างเครือข่ายศูนย์บริการสำหรับรถไฟ 20 แห่งทั่วโลก โดยมีการปรับปรุงสภาพตลับลูกปืนราว 220,000 ชุดในแต่ละปี ความต้องการบริการนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และคาดว่าธุรกิจนี้จะเติบโตราว 50% ภายในปี 2566
