ปักกิ่ง, 16 กันยายน 2565 /พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เจเอ โซลาร์ (JA Solar) ได้รับการจัดอันดับ AAA ความน่าเชื่อถือสูงสุดที่เป็นไปได้ เมื่อวันที่ 13 กันยายน โดยพีวีเทค (PV Tech) แสดงรายงานการจัดอันดับความน่าลงทุนของผู้ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ (PV ModuleTech Bankability Rankings) สำหรับไตรมาสที่สามของปี 2565 การจัดอันดับดังกล่าวแสดงให้เห็นความได้เปรียบด้านการผลิตและสถานะทางการเงินที่มั่นคงของเจเอ โซลาร์ ในตัวบ่งชี้หลัก เช่น การจัดส่ง กำลังการผลิต รูปแบบเทคโนโลยี และผลการดำเนินงานทางการเงิน ตามรายงานดังกล่าว เจเอ โซลาร์ เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์เกรดเอที่มีความสม่ำเสมอมากที่สุด ในแง่ของตัวชี้วัดหลักทั้งหมดระหว่างช่วงปี 2557 ถึง 2565
พัฒนาธุรกิจอย่างมั่นคงและสมดุลทั่วโลก
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม เจเอ โซลาร์ ได้เผยแพร่รายงานรายครึ่งปี 2565 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการจัดส่งไปต่างประเทศของเจเอ โซลาร์ คิดเป็น 67% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เจเอ โซลาร์ ได้ขยายการเข้าถึงไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดส่งไปต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ คิดเป็น 60% ถึง 70% ของการจัดส่งทั้งหมด ปัจจุบัน เจเอ โซลาร์ ได้จัดตั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่สมบูรณ์ขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอิงจากฐานการผลิต 12 แห่งทั่วโลก ช่วยหนุนกำลังการผลิตให้แข็งแกร่งสำหรับการจัดส่งไปยังตลาดทั่วโลก
ส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกของเจเอ โซลาร์ อยู่ที่ 14% ในปี 2564 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนแบ่งในตลาดที่ธุรกิจมั่นคงแล้วนั้นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยุโรปที่ประมาณ 18% และจีนที่ประมาณ 19% ส่วนในตลาดเกิดใหม่ ส่วนแบ่งของเจเอ โซลาร์ ในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปากีสถาน 46% ในมาเลเซีย 58% และในอิสราเอลที่ประมาณ 40% นอกจากนี้ ยังพบสาขาใหม่ ๆ เช่น กายอานาในอเมริกาใต้ เซียร์ราลีโอนในแอฟริกา ตาฮิติในโอเชียเนีย และอุซเบกิสถานในเอเชียกลาง ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาธุรกิจทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ตามที่ระบุไว้ในรายงานของเทคโนโลยีโมดูลโซลาร์เซลล์ (PV ModuleTech) เจเอ โซลาร์ จะแข่งขันในตลาดสหรัฐได้มากขึ้นด้วยความก้าวหน้าของรูปแบบการผลิตทั่วโลก
ก้าวไปข้างหน้าในการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
เจเอ โซลาร์ ได้เพิ่มการลงทุนในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมทั้งส่งเสริมการทำซ้ำทางเทคโนโลยีและการยกระดับอุตสาหกรรม ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เจเอ โซลาร์ ได้รับสิทธิบัตร 1,178 ฉบับสำหรับการวิจัยและการพัฒนาอิสระ ประสิทธิภาพการแปลงโดยเฉลี่ยของเซลล์แสงอาทิตย์เพอร์เซียม (Percium) ที่ผลิตเป็นจำนวนมากสูงถึง 23.7% และเซลล์เอ็นไทป์สูงถึง 25%
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โมดูลดีปบลู (DeepBlue) 3.0 ที่ใช้เซลล์เพอร์เซียม ได้ดึงดูดความสนใจของตลาดทั่วโลกตั้งแต่ที่คำสั่งซื้อแรกถูกจัดส่งในเดือนตุลาคม 2563 โดยนับจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2565 นั้น บริษัทได้จัดส่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไป 24GW และได้นำไปใช้ในโครงการสำคัญ ๆ ทั่วโลก เช่น โครงการโซลาร์เซลล์บนชั้นดาดฟ้าของสถานีรถไฟปักกิ่ง-เฟิงไท่ โครงการโซลาร์เซลล์บนชั้นดาดฟ้าของสหประชาชาติในกรุงปักกิ่ง โครงการสะสมพลังงานแบบบูรณาการที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอูหลานฉาปู้ มองโกเลียใน และโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำที่ทะเลสาบ Uivermeertjes ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสวนโซลาร์เซลล์ลอยน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสองนอกเอเชีย
ในเดือนพฤษภาคม 2565 เจเอ โซลาร์ ได้เปิดตัวโมดูลดีปบลู 4.0 เอ็กซ์ (DeepBlue 4.0 X) แบบเซลล์เอ็นไทป์ ซึ่งมีประสิทธิภาพการแปลงเซลล์ 25% และกำลังสูงสุด 625W โดยเมื่อเปรียบเทียบกับโมดูลพีไทป์หลักแล้ว ดีปบลู 4.0 เอ็กซ์ สามารถลดค่าใช้จ่ายของระบบ (BoS) ได้มากถึง 2.1% และต้นทุนค่าการผลิตไฟฟ้า (LCOE) ได้ 3.5%-5% ซึ่งสามารถเพิ่มผลกำไรของโครงการได้อีก และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า ความสามารถในการผลิตเซลล์เอ็นไทป์ของเจเอ โซลาร์คาดว่าจะเกิน 27GW ภายในปี 2566 ทำให้เป็นหนึ่งในองค์กรแรก ๆ ที่พัฒนาเซลล์เอ็นไทป์ และนำไปผลิตจริง
เจเอ โซลาร์ ยังส่งเสริมการผลิตอัจฉริยะด้วยการเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ในระหว่างกระบวนการผลิตจะมีการควบคุมคุณภาพอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวด ผ่านการตรวจจับแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมงและระบบเตือนอัตโนมัติ ยกตัวอย่างฐานการผลิตของเจเอ โซลาร์ ในเมืองอี้อู ซึ่งเจเอ โซลาร์ ตระหนักถึงความอัจฉริยะทางดิจิทัลระหว่างกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การวางแผนและการผลิตไปจนถึงการขนส่ง ทำให้ "มองเห็นกระบวนการดำเนินการตลอดทั้ง 7 วัน" ของคำสั่งซื้อ ทั้งยังทำให้ควบคุมประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างแม่นยำ
เติบโตอย่างมีคุณภาพต่อเนื่องด้วยสถานะทางการเงินที่มั่นคง
รายงานรายครึ่งปีแสดงให้เห็นว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เจเอ โซลาร์ มีรายรับ 2.8469 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 75.81% เมื่อเทียบรายปี และมีกำไรสุทธิ 1.702 พันล้านหยวนที่เป็นของผู้ถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียน เพิ่มขึ้น 138.64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งแสดงถึงผลงานโดดเด่นในการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงานและกำไรสุทธิ นอกจากนี้ การจัดส่งโมดูลในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ยังเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% (สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
เจเอ โซลาร์ ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมทั้งภายในและภายนอกอุตสาหกรรม ในปัจจุบันเจเอ โซลาร์ ได้รับการจัดอันดับหลายต่อหลายครั้งในลิสต์ของบริษัทชั้นนำ 500 แห่งของโลกด้านพลังงานใหม่ (Global Top 500 New Energy Enterprises), บริษัทชั้นนำ 500 แห่งของนิตยสารฟอร์จูน (Fortune China 500), ผู้ประกอบการเอกชนชั้นนำ 500 แห่งของจีน (Top 500 Private Enterprises), ผู้ผลิตเอกชนชั้นนำ 500 แห่งของจีน (Top 500 Private Manufacturers) และอันดับของเจเอ โซลาร์ ยังคงสูงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง