ปักกิ่ง—19 ก.ย.—พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้เดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเลือกที่จะเยือนเอเชียกลาง เพื่อเข้าร่วมการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่เมืองซามาร์กันต์ ประเทศอุซเบกิสถาน ความเคลื่อนไหวทางการทูตครั้งสำคัญนี้ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก และสร้างความตื่นตะลึงในงานด้วยการเดินสายพบปะระดับทวิภาคีกับผู้นำประเทศสมาชิก SCO รายอื่น ๆ และพันธมิตรรายสำคัญทั่วทวีปยูเรเชีย
นับจนถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประมุขแห่งรัฐและผู้นำประเทศอื่น ๆ ที่ปธน.สีได้พบปะในการเดินทางครั้งนี้ มีทั้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประธานาธิบดีคาสซิม โจมาร์ต โทคาเยฟ ของคาซัคสถาน ประธานาธิบดีชาฟคาต มีร์ซิโยเยฟ ของอุซเบกิสถาน ประธานาธิบดีซาดีร์ จาปารอฟ แห่งสาธารณรัฐคีร์กีซ ประธานาธิบดีเอมอมาลี ราห์มอน ของทาจิกิสถาน ประธานาธิบดีเซร์ดาร์ เบร์ดือมูฮาเมดอว์ ของเติร์กเมนิสถาน ประธานาธิบดีอุคนา คูเรลซูค ของมองโกเลีย ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุส และประธานาธิบดีอิลฮัม แอลีเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน โดยพันธมิตรระดับภูมิภาคและสมาชิกรายสำคัญของกลุ่ม SCO ได้ออกตัวสนับสนุนโครงการริเริ่มต่าง ๆ ที่จีนเสนอไว้ในเรื่องการพัฒนาและความมั่นคงของโลก พร้อมย้ำเสียงสนับสนุนหลักการจีนเดียว
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า เหตุผลที่จีนเลือกเอเชียกลางเป็นจุดหมายในการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของผู้นำจีนนับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เป็นเพราะจีนให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศกำลังพัฒนา และองค์กรระดับพหุภาคีหรือนานาชาติเช่น SCO
นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า จีนกำลังใช้ความพยายามอย่างมากผ่านการทูตระดับประมุขแห่งรัฐ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่มั่นคงและมีเสถียรภาพ ไม่เพียงเพื่อความก้าวหน้าของจีนเองเพียงเท่านั้น แต่ยังเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของภูมิภาคและชุมชนระหว่างประเทศส่วนใหญ่ด้วย
ความนิยมและเสน่ห์แพรวพราว
ในระหว่างการพบปะกับปธน.ปูติน ปธน.สีกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัสเซียในการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อกันและกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักของตน นอกจากนี้ จีนยังเต็มใจที่จะกระชับความร่วมมือเชิงปฏิบัติในด้านต่าง ๆ เช่น การค้า เกษตรกรรม และการเชื่อมต่อ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การสื่อสารแบบตัวต่อตัวอย่างล้ำลึกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาระหว่างผู้นำจีนและรัสเซีย ซึ่งเป็นมหาอำนาจสองประเทศที่อยู่ใกล้เคียงและสมาชิก SCO คนสำคัญที่มีอิทธิพลทั่วโลก ไม่เพียงมีความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีให้มั่นคงเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อย่างมากเพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคด้วย
ในปี 2556 ปธน.สีได้ริเริ่มแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ระหว่างการเยือนคาซัคสถาน ความคิดริเริ่มนี้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของหลายประเทศทั่วโลกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คราวนี้ ความเคลื่อนไหวทางการทูตครั้งสำคัญของปธน.สีในเอเชียกลาง จะนำมาซึ่งอิทธิพลใหม่ในระยะยาวไม่เพียงแต่ในภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโลกด้วย
เติ้ง ห่าว (Deng Hao) เลขาธิการศูนย์การศึกษา SCO ของจีน เปิดเผยกับโกลบอล ไทม์ส (Global Times) เมื่อวันพฤหัสบดีว่า จีนและประเทศในเอเชียกลางเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรและเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิด สถานการณ์ของภูมิภาคนี้จะส่งผลโดยตรงต่อเสถียรภาพและการพัฒนาในแถบดินแดนตะวันตกของจีน นอกจากนี้ ยังมีความสำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานของจีนและการสร้างโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ดังนั้น การที่จีนเลือกภูมิภาคนี้ในการส่งผู้นำประเทศเดินทางเยือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 พิสูจน์ให้เห็นว่าจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์กับพันธมิตรระดับภูมิภาค
นับตั้งแต่ที่เกิดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน และความวุ่นวายทางการเมืองของคาซัคสถานเมื่อต้นปีนี้ สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคจึงอยู่ภายใต้การคุกคาม และความขัดแย้งระหว่างอาเซอร์ไบจานกับอาร์เมเนียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมายังเพิ่มความเสี่ยงและความกังวลให้กับภูมิภาคอีกด้วย มหาอำนาจที่มากด้วยความเข้มแข็งและศักยภาพทางเศรษฐกิจอย่างจีน จึงจำเป็นต้องเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการส่งเสริมความร่วมมือและส่งเสริมการเชื่อมต่อระหว่างกัน เพื่อให้เชื่อมโยงเอเชียตะวันออก เอเชียกลาง ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้ได้ดียิ่งขึ้น
คุณเติ้ง ตั้งข้อสังเกตว่า "นี่คือเหตุผลที่ประธานาธิบดีจีนได้รับความนิยมในระดับภูมิภาคและประเทศจากภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีความสนใจอย่างมากในการขอเป็นสมาชิกหรือพันธมิตรกับ SCO เนื่องจากการประชุมระดับทวิภาคีและพหุภาคีที่มีบ่อยครั้งเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์อันยิ่งใหญ่ของการทูตแบบฉบับประมุขแห่งรัฐของจีน"
ปธน.สีได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยความเคารพอย่างสูงสุดทั้งในคาซัคสถานและอุซเบกิสถาน โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันพุธ ปธน.สีได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์อินทรีทองคำ หรือ "Altyn Qyran" ซึ่งมอบให้โดยประธานาธิบดีโทคาเยฟของคาซัคสถาน ณ ทำเนียบประธานาธิบดีอัค ออร์ดา ในกรุงนูร์-ซุลตัน เครื่องอิสริยาภรณ์อินทรีทองคำเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ระดับสูงสุดที่คาซัคสถานมอบให้บุคคล เพื่อยกย่องคุณูปการที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศของคาซัคสถานและความสัมพันธ์ต่างประเทศที่เป็นมิตร
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานาธิบดีโทคาเยฟได้มีถ้อยแถลงก่อนมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดังกล่าวว่า การที่ปธน.สีเดินทางเยือนถือเป็นเกียรติอย่างมากสำหรับคาซัคสถาน
ปธน.สีได้ผลักดันโครงการริเริ่มต่าง ๆ รวมถึงความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ และมีส่วนสนับสนุนอย่างโดดเด่นในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโทคาเยฟยังเสริมว่า โครงการริเริ่มเพื่อการพัฒนาโลก (Global Development Initiative) และโครงการริเริ่มเพื่อความมั่นคงของโลก (Global Security Initiative) ที่ปธน.สีนำเสนอนั้น มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์เป็นพิเศษในการแก้ไขปัญหาความเสี่ยงและความท้าทายที่โลกปัจจุบันเผชิญอยู่
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ปธน.สีได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ระดับสูงสุดอย่างเครื่องอิสริยาภรณ์รัฐมิตรภรณ์ (Friendship Order) จากประธานาธิบดีมีร์ซิโยเยฟของอุซเบกิสถาน โดยเป็นครั้งแรกที่อุซเบกิสถานมอบเครื่องราชดังกล่าวนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม 2563 ตามรายงานของไชนา เซนทรัล เทเลวิชัน (China Central Television)
ประธานาธิบดีมีร์ซิโยเยฟจัดพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ให้ปธน.สีที่สนามบินในเย็นวันพุธ ธงชาติจีนและอุซเบกิสถานเกือบร้อยผืนโบกไปมาตามสายลม พรมยาวร้อยเมตรถูกขนาบด้วยกองเกียรติยศผู้กล้าหาญ
การทูตประมุขแห่งรัฐ
การประชุม SCO เป็นการประชุมนานาชาติระดับพหุภาคีรายการสำคัญที่ผู้นำสูงสุดของจีนเข้าร่วมก่อนการประชุมผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) แห่งชาติครั้งที่ 20 จะเปิดฉากในเดือนตุลาคม และการประชุมสุดยอด G20 ในปลายปีนี้
หวัง อี้เหว่ย (Wang Yiwei) ผู้อำนวยการสถาบันวิเทศสัมพันธ์แห่งมหาวิทยาลัยเริ่นหมิ่นของจีน กล่าวกับโกลบอล ไทม์ส เมื่อวันพฤหัสบดีว่า SCO เป็นองค์กรระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ที่สนับสนุนแนวคิดและมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับความมั่นคง การพัฒนา และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
SCO มีบทบาทสำคัญสำหรับประเทศสมาชิกในการแก้ปัญหาชายแดน เพื่อร่วมกันต่อต้านการก่อการร้าย การแบ่งแยกดินแดน และลัทธิสุดโต่งทางศาสนา หรือที่เรียกว่า "ความชั่วร้ายสามประการ" และเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงระหว่างกัน จึงเป็นสาธารณประโยชน์สำหรับประชาคมโลกที่จีนและสมาชิกผู้ก่อตั้งประเทศอื่น ๆ มีส่วนร่วม
"ในขณะนี้ โลกยังคงเผชิญกับภัยคุกคามจากแนวคิดเก่า ๆ เช่น ความคิดในยุคสงครามเย็น การเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มต่าง ๆ และการแยกตัวระหว่างเศรษฐกิจหลัก ดังนั้น SCO จึงเสนอทางเลือกสำคัญเพื่อสร้างระเบียบระหว่างประเทศในอนาคต และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจ" คุณหวัง กล่าว พร้อมสังเกตว่านี่เป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมผู้นำระดับสูงของจีนจึงเลือกช่วงเวลาของการประชุมสุดยอด SCO เพื่อเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563
การประชุมสุดยอดแบบต่อหน้าช่วยให้ผู้นำประเทศสมาชิกโต้ตอบได้โดยตรงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสมาชิกในการบรรลุฉันทามติและดำเนินการร่วมกันในประเด็นสำคัญระดับโลกและระดับภูมิภาค เมื่อสถานการณ์ระหว่างประเทศยังคงไม่แน่นอนอยู่ในทุกวันนี้
คุณเติ้ง กล่าวว่า "ความนิยมในตัวผู้นำจีนระหว่างทริปนี้ยังแสดงให้เห็นว่า หลาย ๆ ประเทศเชื่อมั่นในความก้าวหน้าของจีน และหวังว่าจีนจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการเป็นผู้นำอนาคตในการพัฒนาภูมิภาค"