ซานอันโตนิโอ--21 กันยายน 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ภาพถ่ายสถานีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินขนาด 60 เมกะวัตต์ของเอสอีจี โซลาร์ ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
เอสอีจี โซลาร์ (SEG Solar) ประกาศแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตต่อปีมากกว่า 2 กิกะวัตต์
คาดว่าโรงงานแห่งนี้จะเริ่มก่อสร้างในช่วงสิ้นปี 2565 และจะเปิดดำเนินงานเต็มรูปแบบภายในกลางปี 2566
โรงงานแห่งใหม่นี้จะมีสายการผลิตสุดทันสมัย 3 สายการผลิต ซึ่งสามารถผลิตโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ N type Topcon ประสิทธิภาพสูงที่ประกอบด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 182 มม. หรือ 210 มม.
การพัฒนาโรงงานแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าภายใต้ยุทธศาสตร์ระยะยาวของเอสอีจีในการผลิตสินค้าในท้องถิ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในสหรัฐอเมริกาให้ดียิ่งขึ้น
คุณจิม วู้ด (Jim Wood) ซีอีโอของเอสอีจี กล่าวว่า เอสอีจีรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เข้าสู่ตลาดการผลิตของสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานี้ พร้อมกับเสริมว่าการสร้างโรงงานในตอนนี้มีความเหมาะสมในหลายระดับ เนื่องจากเพิ่งมีการประกาศมาตรการจูงใจต่าง ๆ สำหรับผู้ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งรวมถึงกฎหมายว่าด้วยการปรับลดเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act) และกฎหมายว่าด้วยสภาพภูมิอากาศ
เขากล่าวว่า โรงงานแห่งนี้จะช่วยให้เอสอีจีสามารถควบคุมห่วงโซ่อุปทานได้มากขึ้นและขนส่งสินค้าได้สะดวกสบายมากขึ้น ทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าในราคาที่แข่งขันได้และได้รับสินค้าตรงตามเวลาที่กำหนด
เอสอีจีตั้งใจว่าจะจัดซื้อส่วนประกอบและวัสดุต่าง ๆ จากซัพพลายเออร์ในสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาใช้ผลิตโมดูลในโรงงานแห่งนี้
ดังนั้น เอสอีจีคาดการณ์ว่าโมดูลที่ผลิตในโรงงานแห่งนี้จะมีคุณสมบัติตามที่ระบุในมาตรการจูงใจต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถหลีกเลี่ยงหรือลดภาษีและข้อบังคับอื่น ๆ ที่ผู้ผลิตนอกสหรัฐอเมริกาต้องเผชิญ
โมดูลที่ผลิตในโรงงานแห่งนี้จะได้รับตรา "ประกอบในสหรัฐอเมริกา" (Assembled in the U.S.) และอาจได้รับการรับรองอื่น ๆ ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น คาดว่าโรงงานแห่งนี้จะสร้างงานใหม่มากถึง 500 ตำแหน่งในฮิวสตัน
เอสอีจีก่อตั้งขึ้นในปี 2559 ในรัฐเท็กซัส และจัดหาโมดูลให้แก่โครงการต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริการวมกว่า 1.2 กิกะวัตต์
เอสอีจีได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ระดับเทียร์ 1 (Tier 1) โดยบลูมเบิร์ก (Bloomberg) โดยบริษัทจัดหาโมดูลประสิทธิภาพสูงและเชื่อถือได้สำหรับการใช้งานทั้งในระดับสาธารณูปโภค พาณิชย์ และครัวเรือน ทั้งนี้ ภายในสิ้นปี 2566 คาดว่าเอสอีจีจะส่งมอบโมดูลได้มากกว่า 2 กิกะวัตต์ต่อปี
