omniture

"วูส" จับมือ "แมคลาเรน เรซซิ่ง" เปิดตัวประติมากรรมนกกีวีเม็กซิกันขนาดยักษ์

Vuse
2022-10-26 16:29 177

ศิลปินเม็กซิกันร่วมมือกับวูส สร้างงานศิลปะพื้นบ้านรูปนกกีวีขนาดใหญ่ เพื่อแสดงความนับถือต่อรากเหง้าความเป็นนิวซีแลนด์ของทีมแม็คลาเรน เอฟวัน

ลอนดอน, 26 ตุลาคม 2565 /PRNewswire/ -- วันนี้ผู้เยี่ยมชมแมคลาเรน เรซซิ่ง (McLaren Racing) สามารถทักทาย "โอลา" กับงานประติมากรรมขนาดยักษ์รูปนกกีวี ที่ออกแบบโดยศิลปินชาวเม็กซิกันอย่างลูอิส ปาโบล (Luis Pablo) ที่ได้มอบงานศิลปะของเขาบนเวทีระดับโลก ก่อนการแข่งขันฟอร์มูลา วัน กรัน เปรมิโอ เดอ ลา ซิวดาด เดอ เม็กซิโก (FORMULA 1 GRAN PREMIO DE LA CIUDAD DE MÉXICO) ประจำปี 2565 จะเปิดฉาก

GIANT MEXICAN KIWI SCULPTURE SPOTTED OUTSIDE McLAREN RACING
GIANT MEXICAN KIWI SCULPTURE SPOTTED OUTSIDE McLAREN RACING

 

เพื่อเป็นเกียรติแก่ขนบธรรมเนียมของชาวเม็กซิกัน วูส (Vuse) แบรนด์เวปอันดับ 1 ของโลก* และพันธมิตรอย่างทีมแม็คลาเรน เอฟวัน (TheMcLaren F1) ได้เปิดตัวนกกีวีสูง 8 ฟุต สีสันสดใสอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในรูปแบบของอเลบริเฮ (alebrije) หรืองานศิลปะพื้นบ้านเม็กซิกันแบบดั้งเดิม โดยอิงตามการออกแบบโดยประติมากรจากเมืองโออาซากา ประเทศเม็กซิโก ซึ่งการลงสีอันโดดเด่นของลูอิส ปาโบล ได้ทำให้นกกีวีตัวนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของทีมแม็คลาเรน เอฟวัน ดูมีชีวิต รับกับช่วงฟอร์มูลา วัน กรัน เปรมิโอ เดอ ลา ซิวดาด เดอ เม็กซิโก พอดี

งานศิลปะอันยิ่งใหญ่นี้จะยังจัดแสดงต่อไปหลังสุดสัปดาห์เม็กซิกัน กรังด์ปรีซ์ ถือเป็นงานเลียนแบบกีวี อเลบริเฮ ขนาดเล็กกว่าที่คุณลูอิสเคยปั้นไว้ด้วยมือ และมอบเป็นของขวัญให้กับทีมแม็คลาเรน เอฟวัน ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งการตั้งงานศิลปะพื้นบ้านเม็กซิกันในช่วงเวลาของการแข่งขันที่บ้านเกิดของลูอิส ได้ทำให้คนสนใจในบทบาทของวัฒนธรรมและมรดกตกทอดในผลงานของเขา โดยเฉพาะการออกแบบที่สะดุดตา ที่สื่อถึงการรวมกันของสามโลก ได้แก่ แรงขับของวูสในการเป็นแชมป์งานสร้างสรรค์เกิดใหม่ ความหลงใหลและพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์ของคุณลูอิสในงานศิลปะแบบฉบับอเลบริเฮ และมรดกของทีมแม็คลาเรน เอฟวัน ในนิวซีแลนด์

ตามแนวคิดของวูสแล้ว การสร้างนกกีวีขนาดใหญ่คือการยกระดับผลงานศิลปะของลูอิสขึ้นไปอีกขั้น ด้วยความร่วมมือกับยาฮี แคมพ์เบลล์-เบรนแนน (Jahee Campbell-Brennan) ผู้อำนวยการของเววีย์ ไดนามิกส์ (Wavey Dynamics) กีวีตัวเล็กตัวเดิมของลูอิสได้ถูกสแกน 3 มิติ และทำออกมาเป็นงานประติมากรรม CNC ขนาด 8 ฟุต ที่ทำจากโฟมความหนาแน่นสูง ประเภทเดียวกับที่ใช้เป็นวัสดุหลักเพื่อเพิ่มความแข็งแรงภายในปีก พื้น ปีกนก และโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์อื่นๆ ในรถเอฟวัน โดยประติมากรรมกีวีตามสั่งนี้ ถือเป็นกิจกรรมล่าสุดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงของวูส ควบคู่ไปกับทีมแม็คลาเรน เอฟวัน ที่สนับสนุนชั้นเรียนที่สร้างสรรค์ ด้วยการเสนอโอกาสทางศิลปะ เพื่อแสดงออกถึงความกระตือรือร้นและการทำงานของพวกเขา บนหนึ่งในเวทีที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของโลก นั่นคือที่สุดแห่งมอเตอร์สปอร์ต

คุณลูอิสมีความหลงใหลอย่างลึกซึ้งในอเลบริเฮ ซึ่งเป็นรูปแบบดั้งเดิมของศิลปะพื้นบ้านเม็กซิกัน ที่ผสมผสานการแกะสลักอันซับซ้อน แสดงภาพสัตว์ ผู้คน สิ่งของ และสิ่งมีชีวิตในจินตนาการ ที่วาดด้วยสีสันฉูดฉาดและลวดลายที่มีชีวิตชีวา และด้วยแรงขับจากการแสวงหาความคิดสร้างสรรค์ของตนเองตลอดหลายปีที่ผ่านมา ลูอิสได้ฝึกฝีมือของเขาจนกลายเป็นผู้พิทักษ์ศิลปะพื้นบ้านเม็กซิกัน จัดแสดงเป็นคอลเล็กชันอเลบริเฮอันน่าประทับใจที่ออกแบบอย่างประณีต โดยเขาหวังที่จะให้งานประติมากรรมของเขาเป็นตัวแทนและฉายแสงให้กับศิลปะเม็กซิกันดั้งเดิมที่มีประวัติอันยาวนาน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นยอมรับและแบ่งปันวัฒนธรรมประเพณีของตนเอง

ลูอิส ปาโบล ให้ความเห็นว่า "วูสได้มอบโอกาสอันเหลือเชื่อ ผ่านการขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลง ให้ผมได้แสดงวัฒนธรรมของผม และได้แนะนำอเลบริเฮให้กับผู้คนมากมายที่ไม่เคยเห็นมันมาก่อน เราได้นำเม็กซิโก นิวซีแลนด์ วูส และทีมแม็คลาเรน เอฟวัน มาพบกัน ผ่านความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของพลังแห่งมรดก การที่ได้แสดงงานศิลปะและวัฒนธรรมของผมในเวทีโลกนั้นวิเศษมาก อยากให้งานศิลปะของผมถูกมองเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นต่อไป ในการสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขามีความเชื่อมั่นในตัวเอง"

เพื่อแสดงความนับถือต่อนักขับรถแข่งผู้ก่อตั้งทีมอย่างคุณบรูซ แม็คลาเรน (Bruce McLaren) นกกีวี ซึ่งเป็นนกประจำชาติของนิวซีแลนด์ ได้ถูกจารึกอยู่ในสโลแกนของทีมแม็คลาเรน เอฟวัน น้อมนำจิตวิญญาณ ความอุตสาหะ และการแสวงหาสิ่งที่ดีกว่า ลูอิสได้จินตนาการถึงนกที่บินไม่ได้ โดยตกแต่งด้วยสีมะละกอและสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของทีมแม็คลาเรน เอฟวัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความหลงใหลที่มาจากความภาคภูมิใจในภูมิหลังของตน ความพากเพียรที่มาพร้อมกับความเชื่อในความสามารถของตน และการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องเพื่อทำตามความฝันของคุณ

แมทท์ เดนนิงตัน (Matt Dennington) กรรมการบริหารด้านความร่วมมือและบ่มเพาะของแมคลาเรน เรซซิ่ง ให้ความเห็นว่า "ยินดีที่ได้ต้อนรับคุณลูอิส ปาโบล สู่ศูนย์เทคโนโลยีแม็คลาเรน (McLaren Technology Center) เพื่อฉลองให้กับผลงานอันน่าทึ่งของเขา ด้วยแคมเปญขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงของวูส เราภูมิใจที่ได้เฉลิมฉลองให้กับศิลปินที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก และช่วยให้พวกเขาได้รับการยอมรับในสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ"

วูสมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ความคิดริเริ่มขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนหนึ่งของมรดกและความทะเยอทะยานของวูส ในการเร่งการแสวงหาความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินที่ยังด้อยบทบาททั่วโลก การทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่างทีมแม็คลาเรน เอฟวัน ทำให้โปรแกรมขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงของวูสได้เปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการทำให้งานของพวกเขากลายเป็นจริง ช่วยนำงานสร้างสรรค์จากภูมิหลังอันหลากหลายสู่มวลชน งานอเลบริเฮกีวีขนาดใหญ่ของลูอิสจะจัดแสดงที่แมคลาเรน เรซซิ่ง ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงหลังสุดสัปดาห์ฟอร์มูลา วัน กรัน เปรมิโอ เดอ ลา ซิวดาด เดอ เม็กซิโก ประจำปี 2565 ในวันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม

จอห์น บีสลีย์ (John Beasley) หัวหน้ากลุ่มสร้างแบรนด์ของบีเอที (BAT) ให้ความเห็นว่า "จาก อาบู ดาบี ถึงโคลอมเบีย และตอนนี้คือเม็กซิโก การขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลง (Driven by Change) กำลังสร้างมรดกให้กับโลกอย่างแท้จริง เฉลิมฉลองให้กับศิลปินด้อยโอกาสจากทุกสาขาอาชีพ ความหลงใหลที่ชัดเจนของลูอิสต่อศิลปะพื้นบ้านเม็กซิกันแบบดั้งเดิมที่มีสีสัน โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของเขา ถือเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ และการมีอเลบริเฮที่สำนักงานใหญ่ของทีมแม็คลาเรน เอฟวัน ก็ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงสิ่งที่การขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงกล่าวถึง"

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวของคุณลูอิสและโครงการขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลง ได้ที่ช่องทางโซเชียลของวูสและลูอิส

*อิงตามส่วนแบ่งมูลค่าโดยประมาณของวูสจากราคาขายปลีกแนะนำ (RRP) ในการค้าปลีกสินค้าไอระเหย (เช่น มูลค่าหมวดหมู่ไอระเหยรวมในการขายปลีก) ในตลาดไอระเหยที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐ แคนาดา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี ณ เดือนพฤษภาคม 2565

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

เกี่ยวกับบีเอที บีเอที (BAT) เป็นธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า (A Better Tomorrow™) ด้วยการลดการก่อผลกระทบต่อสุขภาพ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สร้างความสำราญและมีความเสี่ยงน้อยกว่าให้กับผู้บริโภคที่เป็นผู้ใหญ่

บริษัทยังคงชัดเจนเสมอมาว่าบุหรี่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง และวิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ได้ก็คือการไม่เริ่มหรือหากเริ่มไปแล้วก็ให้เลิกเสีย บีเอทีสนับสนุนให้ผู้ที่ยังต้องสูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้ทางเลือกอื่นที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รับรองว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่า*† เพื่อการนี้ บีเอทีจึงกำลังเปลี่ยนตัวเองเป็นธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง

ความปรารถนาของบีเอทีคือการมีผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องจุดไฟให้ได้ 50 ล้านคนภายในปี 2573 และเพื่อทำรายได้ในหมวดหมู่ใหม่ให้ได้ 5 พันล้านปอนด์ภายในปี 2568 บีเอทีได้กำหนดเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยให้รวมถึงความเป็นกลางทางคาร์บอน ขอบเขต 1 และ 2 ภายในปี 2573 และลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งและทำให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ รีไซเคิล หรือย่อยสลายได้ ภายในปี 2568

บีเอทีมีพนักงานมากกว่า 52,000 คน และดำเนินงานในกว่า 175 ประเทศ กลุ่มบีเอทีสร้างรายได้ 1.287 หมื่นล้านปอนด์ในครึ่งแรกของปี 2565 และมีกำไรจากการดำเนินงาน 3.68 พันล้านปอนด์

กลุ่มผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์บุหรี่ระดับโลก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กำลังเติบโตอย่างยาสูบและผลิตภัณฑ์นิโคตินประเภทใหม่ และผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบที่ไม่ต้องจุดที่มีความเสี่ยงน้อยลง*† ซึ่งรวมถึงไอระเหย ผลิตภัณฑ์ให้ความร้อนยาสูบ ผลิตภัณฑ์ชนิดรับประทานแบบใหม่ ซึ่งรวมถึงแผ่นแปะนิโคตินที่ปราศจากยาสูบ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ในช่องปากแบบดั้งเดิม เช่น สนูส (snus) และยานัตถุเปียก (moist snuff) โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เรามีผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องจุด 20.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านคน เมื่อเทียบกับปี 2564 ทั้งปี

*อ้างอิงจากน้ำหนักของหลักฐานและสมมติฐานว่ามีการเลิกบุหรี่อย่างสิ้นเชิง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังมีความเสี่ยง และเสพติดได้
† ผลิตภัณฑ์ของเราที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ วูส, เวโล (Velo), กริซลี (Grizzly), โคดิแอค (Kodiak) และคาเมล สนูส (Camel Snus) อยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) และจะไม่อ้างว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีความเสี่ยงน้อยกว่าหากไม่ได้รับอนุมัติจาก FDA

เกี่ยวกับแมคลาเรน เรซซิ่ง แมคลาเรน เรซซิ่ง (McLaren Racing) ก่อตั้งโดยบรูซ แม็คลาเรน นักแข่งรถชาวนิวซีแลนด์ในปี 2506 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟอร์มูลา วัน (Formula 1) เป็นครั้งแรกในปี 2509 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแม็คลาเรนก็คว้าแชมป์ฟอร์มูลา วัน เวิลด์ แชมเปียนชิพ มาแล้ว 20 ครั้ง, ได้แชมป์ฟอร์มูลา วัน กรังด์ปรีซ์ มากกว่า 180 ครั้ง, คว้าแชมป์อินเดียนาโปลิส 500 (Indianapolis 500) 3 ครั้ง รวมถึงได้แชมป์เลอ มังส์ 24 ชั่วโมง (Le Mans 24 Hours) ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงแข่ง

ทีมลงแข่งขันในประเภทเอฟไอเอ ฟอร์มูลา วัน เวิลด์ แชมเปียนชิพ (FIA Formula 1 World Championship) โดยมีแลนโด นอร์ริส (Lando Norris) กับแดเนียล ริคคิอาร์โด (Daniel Ricciardo) เป็นผู้ขับ, ส่วนในประเภทเอ็นทีที อินดีคาร์ (NTT INDYCAR Series) นั้น ทีมแอร์โรว์ แม็คลาเรน เอสพี (Arrow McLaren SP) มีปาโต โอวาร์ด (Pato O'Ward) กับเฟลิกซ์ โรเซนควิสท์ (Felix Rosenqvist) ขณะที่ประเภทเอ็กซ์ตรีม อี แชมเปียนชิพ (Extreme E Championship) มีเอ็มมา กลิมอร์ (Emma Gilmour) กับแทนเนอร์ เฟาส์ท (Tanner Foust) ทั้งนี้ แม็คลาเรนจะลงแข่งขันในซีซันที่เก้าของเอฟไอเอ ฟอร์มูลา อี เวิลด์ แชมเปียนชิพ (FIA Formula E World Championship) ในฤดูกาล 2565/2566

แม็คลาเรนเป็นทีมเอฟวันทีมแรกที่ได้รับมาตรฐานคาร์บอน ทรัสต์ (Carbon Trust Standard) ในปี 2553 และยังคงได้มาตรฐานดังกล่าวปีละสองครั้ง โดยล่าสุดเพิ่งได้รับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และยังเป็นทีมแรกในเอฟวันที่ได้รับรางวัลการรับรองความยั่งยืนของเอฟไอเอ (FIA Sustainability Accreditation Award) ในระดับ 3 ดาว ในปี 2556 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรอบการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมของเอฟไอเอ ก่อนที่จะลงนามในข้อตกลงกีฬาเพื่อสภาพอากาศของสหประชาชาติ (UN Sports for Climate Action Commitment) ในปี 2564

สื่อมวลชนติดต่อ:
รีเบ็คกา บราวน์ (Rebecca Brown)
อีเมล: rebecca.brown@bcw-global.com
โทร: +44 (0)7464 999 459

รูปภสพ - https://mma.prnasia.com/media2/1928038/Kiwi_sculpture.jpg?p=medium600

Source: Vuse
Keywords: Art Auto Entertainment Sporting Events Sports