ปักกิ่ง--13 ธันวาคม 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
การประชุมสุดยอดจีน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ได้นำพาผู้นำจีนและกลุ่มประเทศ GCC มารวมตัวกันเป็นครั้งแรก ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ส่งผลให้มิตรภาพดั้งเดิมระหว่างทั้งสองฝ่ายได้รับการผลักดันไปข้างหน้า และยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ก็ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสุดยอดเมื่อวันศุกร์ว่า จีนและกลุ่มประเทศ GCC เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือโดยธรรมชาติ พร้อมกับเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายเป็นหุ้นส่วนในการส่งเสริมเอกภาพ การพัฒนา ความมั่นคง และอารยธรรม
ที่ประชุมสุดยอดตัดสินใจที่จะสร้างและกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศ GCC ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ผลักดันยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์จีน-GCC
กลุ่มประเทศ GCC ก่อตั้งขึ้นในปี 2524 มีสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กลุ่มประเทศ GCC เป็นพันธมิตรที่สำคัญของจีนในด้านความร่วมมือกับตะวันออกกลาง โดยจีนสานสัมพันธ์กับ GCC อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ก่อตั้ง
ในการกล่าวสุนทรพจน์ นายสี จิ้นผิง ได้ยกย่องความสำเร็จที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่ายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พร้อมกับกล่าวว่าจีนและกลุ่มประเทศ GCC ควรสานต่อมิตรภาพดั้งเดิม และใช้ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เป็นโอกาสในการส่งเสริมยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์จีน-GCC
เขากล่าวว่าทั้งสองฝ่ายควรเป็นหุ้นส่วนในการส่งเสริมเอกภาพ เสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองซึ่งกันและกัน และสนับสนุนผลประโยชน์หลักของกันและกันอย่างเต็มที่
ทั้งสองฝ่ายควรประสานกลยุทธ์การพัฒนา สร้างความมั่นคงร่วมกัน และเรียนรู้จากความสำเร็จทางวัฒนธรรมของกันและกัน ผู้นำจีนกล่าวเสริม
ส่งเสริมความร่วมมือในอนาคต
ประธานาธิบดีจีนเสนอให้มีการสร้างความร่วมมือจีน-GCC ใน 5 ส่วนสำคัญ ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ได้แก่ พลังงาน การเงินและการลงทุน นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ การบินและอวกาศ รวมถึงภาษาและวัฒนธรรม
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะนำเข้าน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลวจากกลุ่มประเทศ GCC มากขึ้น รวมถึงสร้างกลไกการทำงานเพื่อรองรับการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจทวิภาคี และกระชับความร่วมมือด้านสกุลเงินดิจิทัลให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างศูนย์บิ๊กดาต้าและคลาวด์คอมพิวติ้งร่วมกับกลุ่มประเทศ GCC
ข้อมูลจากกรมศุลกากรจีนระบุว่า จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของ GCC และเป็นตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขนาดใหญ่ที่สุด ขณะที่การค้าทวิภาคีมีมูลค่ามากกว่า 2.30 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2564 เมื่อจีนนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจากซาอุดีอาระเบีย โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มากถึง 4.49 หมื่นล้านดอลลาร์, 2.54 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 2.13 หมื่นล้านดอลลาร์ตามลำดับ
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างทั้งสองฝ่ายได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 19 กันยายน นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกลุ่ม GCC นอกรอบการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) ที่นิวยอร์ก โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะ "พยายามร่วมกันเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีจีน- GCC โดยเร็วที่สุด เพื่อส่งสัญญาณบวกและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการบรรลุการพัฒนาที่ดีขึ้น"
บรรดาผู้นำจากกลุ่มประเทศ GCC ต่างชื่นชมความสัมพันธ์ GCC-จีน และการประชุมสุดยอดครั้งนี้ พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าการประชุมสุดยอดครั้งแรกนี้ถือเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ GCC-จีน และเป็นหมุดหมายที่สำคัญยิ่ง
กลุ่มประเทศ GCC สนับสนุนหลักการจีนเดียวอย่างแน่วแน่ และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับจีนเพื่อดำเนินการตามผลสรุปของการประชุมสุดยอด ตลอดจนกระชับความร่วมมือทวิภาคีในประเด็นสำคัญ ๆ และนำประโยชน์มาสู่ประชาชนของทั้งสองฝ่ายมากขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ออกแถลงการณ์ร่วมและรับรองแผนปฏิบัติการปี 2566-2570 สำหรับการหารือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศ GCC