เดนปาซาร์, อินโดนีเซีย—21 ธ.ค. 2565—พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Hikvision จัดการประชุมสุดยอดเชปปิง อินเทลลิเจนซ์ ซัมมิต (Shaping Intelligence Summit) ประจำปี 2565 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 29-30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยในการประชุมดังกล่าว Hikvision ลูกค้า พันธมิตรทางเทคโนโลยีและโซลูชัน และผู้นำอุตสาหกรรมรายอื่น ๆ ได้มารวมตัวกันเพื่อส่องอนาคตวงการ AIoT และสำรวจเส้นทางสู่ความสำเร็จร่วมกัน
Hikvision จัดการประชุมสุดยอดประจำปี 2565 ส่องอนาคตอุตสาหกรรม AIoT
คุณ Keen Yao รองประธานบริษัท Hikvision ได้กล่าวขณะเปิดการประชุมนี้ว่า "ในแถวหน้าของเทคโนโลยี AI, IoT และเทคโนโลยีอื่น ๆ เราเห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการคิดค้นนวัตกรรม AIoT และความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อช่วยหน่วยงานบริการสาธารณะและธุรกิจองค์กรต่าง ๆ มีโซลูชันที่สนับสนุนการตัดสินใจและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน"
แนวทางใหม่ในการคิดค้นนวัตกรรม กระชับความร่วมมือ และเปิดกว้างวงการ AIoT
ในงานดังกล่าว Hikvision ได้เผยโครงสร้างสถาปัตยกรรม AIoT แบบใหม่ โดยมีความชาญฉลาดแบ่งออกเป็น 4 ขั้น ประกอบด้วย เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ความร่วมมือลักษณะระบบนิเวศแบบเปิดกว้าง ไปจนถึงโซลูชันและการนำ AIoT ไปใช้
การประชุมเชปปิง อินเทลลิเจนซ์ ซัมมิต ประจำปี 2565 ของ Hikvision
"แนวทางในการสนับสนุน AIoT ของเราเปรียบได้กับต้นไม้ ซึ่งมีนวัตกรรมเทคโนโลยีเป็นรากต้นไม้ นวัตกรรมที่ว่านี้ช่วยหล่อเลี้ยงผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ AIoT ในลำต้น กิ่งก้านของต้นไม้เปรียบได้กับระบบนิเวศพันธมิตรและการทำงานด้วยกันอย่างเปิดกว้าง ที่ช่วยให้เติบโตและนำเสนอแอปพลิเคชันอัจฉริยะ ซึ่งเปรียบเสมือนใบและผลของต้นไม้" คุณ Frank Zhang รองประธานบริษัท Hikvision กล่าว "เราหวังที่จะตอบสนองความต้องการของตลาดที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วร่วมกับพันธมิตรของเราได้ดียิ่งขึ้น ลูกค้าของเราจะได้รับประโยชน์จากการที่นำ AI ไปใช้ได้ง่ายขึ้น และประสบความสำเร็จด้วยการแปลงการดำเนินงานของลูกค้าเป็นดิจิทัล"
การประชุมเชปปิง อินเทลลิเจนซ์ ซัมมิต ประจำปี 2565 ของ Hikvision
ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ พันธมิตรด้านเทคโนโลยีและลูกค้าหลายรายได้นำเสนอวิธีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและโซลูชัน AIoT ของ Hikvision เพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมของตน
ยกตัวอย่างเช่น สถาบันการศึกษาทางเทคนิค (ITE) ในสิงคโปร์ ได้พูดถึงโครงการ "Classroom of the Future" (ชั้นเรียนแห่งอนาคต) ที่พัฒนาขึ้นร่วมกับ Hikvision โดยได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับชั้นเรียนและการแบ่งปันสื่อการเรียนการสอนออนไลน์ ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่รายหนึ่งที่มีร้านค้าในการดูแลกว่า 5,000 สาขาในไทย ได้แบ่งปันประสบการณ์ในการนำโซลูชัน HikCentral ไปใช้ในการรวมศูนย์การบริหารจัดการ ทำให้ต้นทุนลดลงและดำเนินงานแบบดิจิทัลได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ในอุตสาหกรรมพลังงาน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเวียดนาม ประสบความสำเร็จในการใช้แอปพลิเคชันรักษาความปลอดภัยของระบบวิดีโอ Hikvision อัจฉริยะ พร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน เพื่อรองรับการทำงานจากระยะไกลและทำงานได้ตลอดเวลาในทุกสภาพอากาศ
สำหรับข่าวสารอื่น ๆ ในงานนี้ มีทั้งการประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม Hikvision Embedded Open Platform (HEOP) 2.0 ซึ่งเปิดโอกาสให้พันธมิตรของ Hikvision มีสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างแบบรวมศูนย์เพื่อดำเนินการและบริหารจัดการแอปพลิเคชัน ทำให้รันแอปพลิเคชันภายนอก อัลกอริทึม หรือองค์ประกอบต่าง ๆ บนผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ AIoT ของ Hikvision ได้
เทคโนโลยีเพื่อโลกที่ดีกว่า
ในการประชุมดังกล่าว Hikvision ยังได้เปิดตัวโครงการ STAR ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงผลกำไรต่าง ๆ ทั่วโลก พร้อมสำรวจแนวทางแปลกใหม่ในการใช้เทคโนโลยีสุดล้ำของ Hikvision ในการยกระดับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม
คุณ Zhang กล่าวว่า "ที่ Hikvision เรามีความมุ่งมั่นในการผสานความรับผิดชอบต่อสังคมและปรัชญาการพัฒนาอย่างยั่งยืนเข้ากับธุรกิจของเรา และเราเชื่อมั่นมาเสมอว่า นวัตกรรมทางเทคโนโลยีช่วยสร้างโลกที่ดีกว่าได้" โครงการ STAR จะโฟกัสใน 3 ส่วนหลักด้วยกัน ได้แก่ การเฝ้าระวังและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การเฝ้าระวังและปกป้องสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม
การประชุมเชปปิง อินเทลลิเจนซ์ ซัมมิต ประจำปี 2565 ของ Hikvision
พันธมิตรของ Hikvision กว่า 400 รายจากทั่วโลก ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ โดยได้มาแลกเปลี่ยนแนวคิด ข้อมูลเชิงลึก ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติต่าง ๆ ในเรื่องเทรนด์ยักษ์ใหญ่ในแวดวงเทคโนโลยี AIoT
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมเชปปิง อินเทลลิเจนซ์ ซัมมิต ประจำปี 2565 ได้ทางเว็บไซต์
