สร้างสถิติยอดจัดส่งทีวีทั่วโลกสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท
ชิงเต่า, จีน--23 กุมภาพันธ์ 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
บรรดาบริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำของจีนกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถด้านการแข่งขันที่แข็งแกร่งขึ้นในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับโลก สิ่งนี้ได้รับการตอกย้ำด้วยข้อมูลล่าสุดจาก ออมเดีย (Omdia) บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ ซึ่งระบุว่า ยอดจัดส่งทีวีทั่วโลกของไฮเซ่นส์ (Hisense) ตลอดปี 2565 อยู่ที่ 24.5 ล้านเครื่อง ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในตลาดโลก และเติบโต 16.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ยอดส่งมอบทีวีปี 2565 นับว่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ของไฮเซ่นส์ และแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลระดับโลกที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมทีวี โดยอัตราการเติบโตต่อปีของไฮเซ่นส์ติด 5 อันดับแรกของอุตสาหกรรมทีวีทั่วโลก
นอกจากนี้ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเลเซอร์ทีวี ไฮเซ่นส์ครองส่วนแบ่งการจัดส่งเลเซอร์ทีวีทั่วโลกที่ 53.5% ในปี 2565 ส่งผลให้บริษัทครองอันดับ 1 ในธุรกิจเลเซอร์ทีวี
ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไฮเซ่นส์ให้ความสำคัญกับการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูง ตลอดจนเพิ่มส่วนแบ่งตลาดทีวีในประเทศพร้อมกับขยายส่วนแบ่งตลาดทีวีต่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการขายในต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ
ในฐานะที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของยุทธศาสตร์การเติบโตในอนาคต ไฮเซ่นส์จะตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งมอบโซลูชันระดับพรีเมียม เพื่อสร้างความมั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับความเพลิดเพลินในระดับที่สูงขึ้น
เกี่ยวกับไฮเซ่นส์
ไฮเซ่นส์ (Hisense) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองชิงเต่า ประเทศจีน ตลอดระยะเวลา 54 ปีที่ผ่านมา บริษัทยึดมั่นในค่านิยมหลัก ได้แก่ "ความซื่อสัตย์ นวัตกรรม การให้ความสำคัญกับลูกค้า และความยั่งยืน" รวมถึงยุทธศาสตร์การพัฒนา "รากฐานเทคโนโลยีที่มั่นคงและการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง" มาโดยตลอด ธุรกิจของบริษัทครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น มัลติมีเดีย เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เทคโนโลยีสารสนเทศอัจฉริยะ และอุตสาหกรรมบริการสมัยใหม่ ด้วยการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไฮเซ่นส์ได้ขยายธุรกิจครอบคลุมกว่า 160 ประเทศและดินแดนทั่วโลก โดยสมาร์ททีวีซึ่งเป็นธุรกิจ B2C หลักของไฮเซ่นส์ จัดได้ว่าอยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมโลกมาโดยตลอด นอกเหนือจากธุรกิจ B2C แล้ว ไฮเซ่นส์ยังเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรม B2B ซึ่งรวมถึงการขนส่งอัจฉริยะ การแพทย์แม่นยำ และการสื่อสารออปติคอล