การประชุมนานาชาติว่าด้วยความยุติธรรม เปิดฉากขึ้นแล้วในกรุงริยาด

• การประชุมนานาชาติว่าด้วยความยุติธรรม (ICJ) ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงยุติธรรมซาอุดีอาระเบีย (MOJ) มอบเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับอนาคตและการใช้ระบบดิจิทัลในกระบวนการยุติธรรมสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางกฎหมายทั่วโลก
• เปิดฉากวันแรกโดยวิทยากร 12 ท่าน ในการประชุมที่เน้นการมีส่วนร่วม 3 ช่วง ชูประเด็นด้านการพัฒนาที่สำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลของกระบวนการยุติธรรมทั่วโลก
• การประชุมวันแรกของ ICJ นำเสนอใบอนุญาตว่าความสำหรับบริษัทต่างประเทศเป็นครั้งแรกในซาอุดีอาระเบีย

 ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย, 7 มีนาคม 2566 /PRNewswire/ -- กระทรวงยุติธรรมซาอุดีอาระเบีย (MOJ) เปิดฉากการประชุมนานาชาติว่าด้วยความยุติธรรม (International Conference on Justice) วันแรกในกรุงริยาด โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรระดับนานาชาติจำนวน 12 ท่านขึ้นอภิปรายและนำการประชุมเชิงปฏิบัติการภายใต้หัวข้อหลักว่าด้วย 'การอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมผ่านนวัตกรรมดิจิทัล' (Facilitating Access to Justice Through Digital Innovation) รวมถึงบอกเล่าความเชี่ยวชาญของตนเกี่ยวกับผลของเทคโนโลยีที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในด้านกระบวนการยุติธรรมทั่วโลก

Saudi Minister of Justice, H.E. Walid Muhammad Al-Samaani, and Saudi Minister of Investment, H.E. Khalid Al Falih, issue the first licenses enabling foreign law firms Herbert Smith Freehills, Latham & Watkins, and Clifford Chance to practice in Saudi Arabia at the International Conference on Justice

ฯพณฯ ดร. วะลีด อัล-ซามานี (H.E. Dr. Walid Al-Samaani) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของซาอุดีอาระเบีย ได้กล่าวถึงการที่กระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัล พร้อมเน้นถึงความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรม ซึ่งไม่เพียงแต่จัดการกับความท้าทายในปัจจุบัน แต่ยังช่วยให้กระบวนการยุติธรรมมีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในระยะยาว "หากกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกอย่างรวดเร็วในด้านต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงด้านกระบวนการยุติธรรมแล้ว เราจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับการพัฒนาเหล่านี้ และใช้โอกาสนี้ในการพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของเทคโนโลยีที่สนับสนุนและส่งเสริมการปกป้องตุลาการ"

ในการนี้ ฯพณฯ ดร. วะลีด อัล-ซามานี ร่วมกับ ฯพณฯ คาลิด อัล-ฟาลิฮ์ (H.E. Khalid Al-Falih) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนของซาอุดีอาระเบีย  มอบใบอนุญาตว่าความให้แก่สำนักงานทนายความต่างประเทศสามแห่ง ประกอบด้วย เฮอร์เบิร์ธ สมิธ ฟรีฮิลส์ (Herbert Smith Freehills LLP), ลาแธม แอนด์ วัตกินส์ (Latham and Watkins LLP) และคลิฟฟอร์ด ชานซ์ (Clifford Chance LLP) โดยเป็นครั้งแรกที่ทางการได้ออกใบอนุญาตให้แก่บริษัทด้านกฎหมายจากต่างประเทศที่ดำเนินงานในซาอุดีอาระเบีย ตอกย้ำจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือระหว่างประเทศของการประชุมครั้งนี้

ในการประชุมช่วงแรกภายใต้หัวข้อ 'อนาคตของกระบวนการยุติธรรมหลังการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัล' (Future of the Justice System in Light of Digital Transformation) ฯพณฯ ดร. วะลีด อัล-ซามานี ได้อธิบายถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีในแวดวงตุลาการแก่รัฐมนตรีและบุคคลสำคัญระดับสูงจากสหภาพยุโรป, สิงคโปร์, โมร็อกโก และตูนิเซีย ขณะที่ในการประชุมช่วงที่สองว่าด้วย 'ประสบการณ์ระดับนานาชาติในการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลของภาคตุลาการ' ('International Experiences in the Digital Transformation of the Justice Sector) ได้รับเกียรติจากตัวแทนจากอาเซอร์ไบจานและจีน ร่วมกับ ฯพณฯ มะเญ็ด อัล-ซัลลูม (H.E. Majed Al-Salloom) รัฐมนตรีช่วยด้านการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลและไอซีทีประจำกระทรวงยุติธรรมซาอุดีอาระเบีย ร่วมกันอธิบายเกี่ยวกับวิธีที่เขตอำนาจศาลของตนรับมือกับคลื่นของกระบวนการดิจิทัลที่กำลังเปลี่ยนภูมิทัศน์กระบวนการยุติธรรมทั่วโลก ปิดท้ายด้วยการประชุมในช่วงสุดท้ายของวันแรกในหัวข้อ 'มิติทางกฎหมายสำหรับปัญญาประดิษฐ์' (The Legal Dimension of Artificial Intelligence) ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในด้านกฎหมายและเทคโนโลยี ร่วมกันอภิปรายประเด็นเกี่ยวกับ AI และความยุติธรรม ครอบคลุมความท้าทายและแนวทางที่เป็นไปได้ต่าง ๆ

การประชุมในวันแรกซึ่งครอบคลุมหัวข้อที่หลากหลาย ตั้งแต่การประยุกต์ใช้ AI ในอนาคต ไปจนถึงการปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ต่างมีประเด็นหนึ่งร่วมกันคือ ความต้องการสร้างความสมดุลระหว่างข้อดีที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่กับข้อกำหนดด้านความยุติธรรมเพื่อดำรงไว้ซึ่งความเป็น 'มนุษย์'

การแลกเปลี่ยนความรู้และความเชี่ยวชาญการประชุมนานาชาติว่าด้วยความยุติธรรม ช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วทั้งภาคส่วนกระบวนการยุติธรรมทั่วโลกได้เรียนรู้และตระหนักเกี่ยวกับประโยชน์ของการเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัล

ซาอุดีอาระเบียได้เข้าสู่กระบวนการดิจิทัลอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประชากรของซาอุดีอาระเบียสามารถเข้าถึงบริการอิเล็กทรอนิกส์ตุลาการได้มากกว่า 150 รายการผ่านพอร์ทัลนาญีซ (Najiz) ของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งครอบคลุมความสามารถในการออกทะเบียนสมรสออนไลน์ และการโอนสิทธิในทรัพย์สินทางออนไลน์ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ความก้าวหน้าในการกำกับดูแลด้วยระบบดิจิทัลและกระบวนการยุติธรรมช่วยให้ซาอุดีอาระเบียอยู่ในตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในภูมิภาค และอันดับสามทั่วโลกในดัชนีความสมบูรณ์ด้านเทคโนโลยีภาครัฐซึ่งจัดทำโดยธนาคารโลก (GovTech Maturity Index) ทำให้ซาอุดีอาระเบียเป็นผู้นำด้านโซลูชันรัฐบาลดิจิทัล

รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2016265/MOJ_1.jpg?p=medium600
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2016266/MOJ_2.jpg?p=medium600
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2016267/MOJ_3.jpg?p=medium600
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2016268/MOJ_4.jpg?p=medium600
โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/2016291/MOJ_Logo.jpg?p=medium600

The International Conference on Justice "aims to build judicial partnerships and enable the transfer of knowledge and expertise to enhance justice around the world," said Saudi Minister of Justice, H.E. Dr. Walid Al-Samaani.

A panel session on the Future of the Justice System in Light of Digital Transformation featured insights from Saudi Arabia, Morocco, Singapore, Tunisia and the EU, highlighting ways in which we can enable and accelerate the uptake of technology in the field of justice.

Ministers, legal experts, thought leaders, and academia gather at the inaugural International Conference on Justice to exchange knowledge on how technology is transforming the field of justice across the globe.