แคริง ฟาร์มาซี จับมือเอพพิเออร์ มอบประสบการณ์หลายช่องทางแบบเฉพาะบุคคลสำหรับชาวมาเลเซีย

ไทเป--14 เมษายน 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต

เอพพิเออร์ (Appier) (TSE: 4180) ประกาศความสำเร็จของแคมเปญจากการเป็นพันธมิตรกับเครือข่ายร้านขายยาชั้นนำในมาเลเซียอย่างแคริง ฟาร์มาซี (Caring Pharmacy) เพื่อยกระดับกลยุทธ์การตลาดหลายช่องทางโดยรวม แคริง ฟาร์มาซีช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวสูงในหลายช่องทางด้วยไอควา (AIQUA) แพลตฟอร์มการจัดการลูกค้าแบบครบวงจร ด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์การตลาดส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของเอพพิเออร์ ทำให้แคริง สามารถผสานรวมข้อมูลทั้งหมดของตนได้อย่างราบรื่นทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อปรับแต่งการใช้งานของลูกค้าตามพฤติกรรมและความชอบของพวกเขา ในขณะเดียวกันก็เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าและบรรลุวงจรการขายที่เป็นบวก

แคริง ฟาร์มาซีก่อตั้งขึ้นในปี 2537 และได้กลายเป็นเครือข่ายร้านขายยาชั้นนำที่มีร้านค้ามากกว่า 180 แห่งในมาเลเซีย พันธกิจของบริษัทคือการให้บริการร้านขายยาที่มีความเป็นมืออาชีพและมีนวัตกรรมใหม่ที่สุด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดแก่ลูกค้า แคริง ฟาร์มาซีมีเป้าหมายที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนและส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีในชุมชนที่ให้บริการ

เมื่อโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกในปี 2563 แคริงตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนากลยุทธ์ด้านดิจิทัล ในฐานะที่เป็นธุรกิจที่มีหน้าร้านเป็นหลัก แคริง ฟาร์มาซีจำเป็นต้องเชื่อมช่องว่างระหว่างการดำเนินงานออฟไลน์และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ตึงเครียดมากขึ้น หนึ่งในความสำคัญหลักคือการรวมข้อมูลที่มีอยู่แล้วมากมายผ่านร้านค้าออฟไลน์เข้ากับแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่จริงแล้ว แคริงไม่ได้เผชิญปัญหานี้อยู่เพียงบริษัทเดียว โควิด-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายปีในวิธีที่องค์กรทุกภาคส่วนและทุกภูมิภาคทำธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการเร่งการเปลี่ยนแปลงปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าให้เป็นดิจิทัลพร้อมกับการรับรู้ถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเทคโนโลยีในฐานะองค์ประกอบที่สำคัญของธุรกิจ^[1]

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของแคริงมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของลูกค้าผ่านกลยุทธ์ต่อไปนี้

1.ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้บนช่องทางดิจิทัล: ด้วยการรวมข้อมูลเชิงลึกแบบออฟไลน์ที่มีมากมายเข้ากับข้อมูลจากผู้ใช้งานและพฤติกรรมทางออนไลน์ แคริงสามารถนำเสนอข้อความทางการตลาดที่ปรับแต่งได้สูงให้กับลูกค้า

2.สร้างความภักดีต่อแบรนด์ด้วยประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวสูง: การใช้ไอควาทำให้แคริงสามารถสร้างกลุ่มเฉพาะสำหรับแคมเปญต่าง ๆ และใช้ประโยชน์จากโมเดลคำแนะนำของ AI ตามพฤติกรรมของผู้ใช้ที่แตกต่างกันเพื่อสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น ช่วยให้สามารถสร้างการมีส่วนร่วมส่วนบุคคลสำหรับลูกค้าได้

3.ขับเคลื่อนการโต้ตอบแบบเรียลไทม์กับลูกค้าผ่านเว็บแชท: ด้วยบอตบอนนี (BotBonnie) ของเอพพิเออร์ ทำให้แคริงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของลูกค้าตั้งแต่การหาผู้ใช้ไปจนถึงการจัดการความภักดีโดยการส่งเสริมแคมเปญการตลาดเฉพาะ ให้การสนับสนุนลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และตอบคำถามของลูกค้าเกี่ยวกับสมาชิกภาพได้แบบเรียลไทม์

"เอพพิเออร์เป็นพันธมิตรความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมในกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นดิจิทัลของเราเพื่อยกระดับชีวิตชาวมาเลเซีย เครื่องมือของเอพพิเออร์นั้นใช้งานง่าย และที่สำคัญคือมีทีมงานเชิงรุกที่ทำงานร่วมกัน ซึ่งไม่เพียงแต่แนะนำเราเกี่ยวกับกลยุทธ์โดยรวมของเราเท่านั้น แต่ยังเสนอแนวคิดเชิงกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดของเราให้ดียิ่งขึ้น เอพพิเออร์มีชุดฟีเจอร์ที่แข็งแกร่งซึ่งพิสูจน์ให้เห็นคุณค่าในการใช้งานแต่ละกรณี และเราได้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตัวชี้วัดการตลาดของเรานับตั้งแต่ใช้งานเครื่องมือของเอพพิเออร์" คุณหลู จุ๊ย เล้ง (Loo Jooi Leng) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของแคริง ฟาร์มาซีกล่าว

ใช้ข้อมูลออฟไลน์ที่หลากหลาย เพื่อมอบประสบการณ์หลายช่องทาง

แคริงตัดสินใจก้าวสำคัญในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าบนช่องทางดิจิทัล ด้วยการรวมข้อมูลออฟไลน์ที่หลากหลายจากระบบขายหน้าร้าน (POS) เข้ากับข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้งานออนไลน์ แคริงสามารถสร้างแคมเปญการตลาดส่วนบุคคลที่โดนใจลูกค้าได้ การผสานรวมนี้ทำให้แคริงสามารถเปิดใช้งานข้อมูลออฟไลน์ในโมเดลคำแนะนำ การทดสอบ A/B สำหรับฝ่ายครีเอทีฟ และเว็บแชท เพื่อให้ลูกค้าค้นหาผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ แคริงจึงบรรลุอัตราการเปิดอีเมลเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า (eDM) ที่น่าประทับใจที่ 87.3% พร้อมกับอัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น (CTR) ที่เพิ่มขึ้น 134% ด้วยการใช้ประโยชน์จากเว็บแชทของบอตบอนนี ทำให้แคริงเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของลูกค้าที่เข้ามา ตั้งแต่การได้มาซึ่งผู้ใช้ การมีส่วนร่วม และการจัดการความภักดีในแบบเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับการสนับสนุนที่ต้องการได้ตลอดเวลา

เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเฉพาะด้วยข้อมูลที่รวมเป็นหนึ่งเพื่อประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวสูง

แคริงยังได้สร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมส่วนบุคคลสำหรับลูกค้าโดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกเพื่อกรองและแบ่งกลุ่มผู้ชม ด้วยการใช้ข้อมูลที่รวมเป็นหนึ่ง ทำให้แคริงสามารถกรองลูกค้าตามตัวแปรพฤติกรรม เช่น การกดดู การซื้อ การค้นหาผลิตภัณฑ์ ข้อมูลประชากร และอื่น ๆ สิ่งนี้ทำให้แคริงสามารถสร้างกลุ่มลูกค้าเฉพาะได้อย่างง่ายดาย ทำให้สามารถมีส่วนร่วมกับลูกค้าในแบบที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ แคริงจึงมี CTR เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง 215% ในแคมเปญของตน

ความสำเร็จของแคริงในการกรองและแบ่งกลุ่มผู้ชมไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ด้วยการเพิ่มคุณค่าให้กลุ่มผลิตภัณฑ์มากขึ้น ทำให้แคริงสามารถปรับปรุงอัตราการตอบกลับได้ถึง 66% ตัวอย่างเช่น แคริงได้รวมลูกค้าที่ยังไม่ได้ตอบสนองต่อแคมเปญการตลาดในกลุ่มของตนและใช้การรีมาร์เก็ตติ้งเพื่อดึงดูดลูกค้าเหล่านี้อีกครั้ง แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในการแบ่งกลุ่มและรีมาร์เก็ตติ้งนี้ ช่วยให้แคริงสามารถมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นแก่ลูกค้า และส่งผลให้การมีส่วนร่วมและยอดขายเพิ่มขึ้น

โมเดลคำแนะนำที่ขับเคลื่อนด้วย AI มอบประสบการณ์ลูกค้าที่หลากหลาย

แคริงใช้โมเดลคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ปรับให้เหมาะกับพฤติกรรมของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 6.3% โมเดลคำแนะนำจะอิงตามพฤติกรรมการเรียกดูและการซื้อ ทำให้ลูกค้าสามารถค้นพบผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความสนใจของพวกเขาได้ อีกทั้งจะมีคำแนะนำการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกันโดยอ้างอิงจากผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าเพิ่มไปยังรถเข็น นอกจากนี้ แคริงยังใช้การเลือกโมเดล/ปริมาณผลิตภัณฑ์โดยอัตโนมัติตามพฤติกรรมของผู้ใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อ วิธีการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลนี้ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นและให้ประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับลูกค้า

การใช้ข้อมูลออฟไลน์ของแคริงในกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลเป็นตัวอย่างของวิธีที่บริษัทต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า ด้วยการทำความเข้าใจพฤติกรรมและความชอบของลูกค้าในทุกช่องทาง ธุรกิจต่าง ๆ จึงสามารถสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นและเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าของตนได้ ความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จกับเอพพิเออร์นี้ ทำให้แคริง ฟาร์มาซีตั้งตารอที่จะสร้างแคมเปญที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางมากขึ้นและมอบประสบการณ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นให้กับชาวมาเลเซียเพื่อสร้างมูลค่าแบรนด์ให้แข็งแกร่ง

เกี่ยวกับแคริง ฟาร์มาซี

แคริง ฟาร์มาซี (Caring Pharmacy) ก่อตั้งขึ้นในปี 2537 และได้กลายเป็นเครือข่ายร้านขายยาชั้นนำที่มีร้านค้ามากกว่า 180 แห่งในมาเลเซียตะวันตกและ 1 แห่งในมาเลเซียตะวันออก พันธกิจของบริษัทคือการให้บริการร้านขายยาที่มีความเป็นมืออาชีพและมีนวัตกรรมใหม่ที่สุด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดแก่ลูกค้า แคริง ฟาร์มาซีมีเป้าหมายที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนและส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีในชุมชนที่ให้บริการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://caring2u.com/

เกี่ยวกับเอพพิเออร์

เอพพิเออร์ (Appier) (TSE: 4180) เป็นบริษัทที่ให้บริการซอฟต์แวร์ (SaaS) ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อขับเคลื่อนการตัดสินใจทางธุรกิจ บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 ด้วยวิสัยทัศน์ในการทำให้สามารถเข้าถึง AI อย่างเท่าเทียมกัน ปัจจุบัน เอพพิเออร์มีสำนักงาน 17 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรป และสหรัฐ และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว

^[1]  แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (McKinsey & Company): โควิด-19 ช่วยผลักดันให้บริษัทต่าง ๆ ก้าวผ่านจุดเปลี่ยนทางเทคโนโลยีและเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปตลอดกาลได้อย่างไร