- รายได้ปี 2565 อยู่ที่ 1.28998 แสนล้านหยวน นับเป็นครั้งแรกที่ทะลุระดับ 1 แสนล้านหยวน
- กำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 1.4812 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 63.02% เมื่อเทียบเป็นรายปี
- ลอนจีคาดการณ์ว่ารายได้ปี 2566 จะสูงกว่า 1.6 แสนล้านหยวน
ซีอาน, จีน--8 พฤษภาคม 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
ลอนจี กรีน เอเนอร์จี เทคโนโลยี (LONGi Green Energy Technology) บริษัทพลังงานหมุนเวียนชั้นนำระดับโลก เผยแพร่รายงานทางการเงินประจำปี 2565 และไตรมาส 1 ปี 2566 โดยบริษัทมีรายได้ 1.28998 แสนล้านหยวนในปี 2565 เพิ่มขึ้น 60.03% เมื่อเทียบเป็นรายปี และนับเป็นครั้งแรกที่รายได้ต่อปีของลอนจีอยู่เหนือระดับ 1 แสนล้านหยวน
ส่วนในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 นั้น ลอนจีมีรายได้ 2.8319 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 52.35% เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ ลอนจียังคาดการณ์ว่ารายได้ปี 2566 จะสูงกว่าระดับ 1.6 แสนล้านหยวน
ด้านกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นในปี 2565 อยู่ที่ 1.4812 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 63.02% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นหลังหักกำไรและขาดทุนที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ (non-recurring gains and losses) อยู่ที่ 1.4414 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 63.31% เมื่อเทียบเป็นรายปี
รายงานยังเผยให้เห็นว่า ในปี 2565 ลอนจีผลิตแผ่นเวเฟอร์โมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนได้รวม 85.06 กิกะวัตต์ ประกอบด้วย 42.52 กิกะวัตต์สำหรับส่งขายภายนอก และ 42.54 กิกะวัตต์สำหรับใช้งานภายใน โดยรั้งอันดับ 1 ในการจัดส่งแผ่นเวเฟอร์ทั่วโลกเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน นอกจากนี้ ในปี 2565 ลอนจียังผลิตโมดูลโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนได้ 46.76 กิกะวัตต์ ประกอบด้วย 46.08 กิกะวัตต์สำหรับส่งขายภายนอก และ 0.68 กิกะวัตต์สำหรับใช้งานภายใน โดยรั้งอันดับ 1 ในการจัดส่งโมดูลทั่วโลก และครองส่วนแบ่งตลาดโลกสูงสุดเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
ในช่วงเวลาที่รายงานนั้น กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานของลอนจีอยู่ที่ 2.437 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 97.77% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่กองทุนการเงินของบริษัทอยู่ที่ 5.4372 หมื่นล้านหยวน คิดเป็น 38.96% ของสินทรัพย์ทั้งหมด และเพิ่มขึ้น 86.38% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในปี 2563, 2564 และ 2565 อัตราส่วนสินทรัพย์-หนี้สินของลอนจีอยู่ที่ 59.38%, 51.31% และ 55.39% ตามลำดับ โดยบริษัทยึดมั่นในหลักปรัชญาการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบและรักษาอัตราส่วนสินทรัพย์-หนี้สินที่เหมาะสมมาตลอด ขณะที่ผลตอบแทนจากสินทรัพย์สุทธิถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 27.23%, 21.45% และ 26.95% ตามลำดับ
นับตั้งแต่เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในปี 2555 จนถึงเดือนกันยายน 2565 ลอนจีได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาไปแล้วกว่า 1.8 หมื่นล้านหยวน โดย ณ สิ้นปี 2565 บริษัทได้รับสิทธิบัตร 2,132 ฉบับ ปัจจุบัน ลอนจีมีบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนารวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีรวมทั้งสิ้น 4,036 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 6.66% ของพนักงานทั้งหมดทั่วโลก
ในช่วงเวลาที่รายงานนั้น ลอนจีได้สร้างสถิติใหม่ระดับโลกในด้านประสิทธิภาพของเซลล์แสงอาทิตย์แบบซิลิคอนเฮเทอโรจังก์ชัน (HJT) ชนิดพีไทป์ (p-type) ที่ระดับ 26.81% ซึ่งผ่านการรับรองโดยสถาบันวิจัยพลังงานแสงอาทิตย์เมืองฮาเมลน์ (Institut für Solarenergieforschung in Hameln หรือ ISFH) ประเทศเยอรมนี ขณะที่ประสิทธิภาพสูงสุดของโมดูลซีรีส์ Hi-MO 6 ที่ผลิตในปริมาณมากก็สูงกว่า 23.2% นอกจากนี้ ลอนจียังมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในส่วนของการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ประสิทธิภาพสูงระดับอุตสาหกรรม การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีโมดูลด้วยตนเอง และการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไปสู่ความสำเร็จมากมาย
ณ สิ้นปี 2565 กำลังการผลิตแผ่นเวเฟอร์ เซลล์ และโมดูลโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนของลอนจี เพิ่มขึ้นเป็น 133 กิกะวัตต์, 50 กิกะวัตต์ และ 85 กิกะวัตต์ตามลำดับ
รายงานดังกล่าวยังเผยให้เห็นว่า ลอนจีได้ดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและพัฒนาการผลิตอัจฉริยะอย่างรวดเร็ว โดยการเปลี่ยนแปลงและอัปเกรดหน่วยการผลิตและสายการผลิตส่งผลให้บริษัทสามารถลดต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนี้ ลอนจีได้ประกาศเป้าหมายสำหรับปี 2566 โดยคาดว่ากำลังการผลิตแผ่นเวเฟอร์โมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนจะเพิ่มขึ้นเป็น 190 กิกะวัตต์ เซลล์โมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนจะเพิ่มขึ้นเป็น 110 กิกะวัตต์ และโมดูลโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนจะเพิ่มขึ้นเป็น 130 กิกะวัตต์
ในส่วนของการจัดส่งสินค้านั้น ลอนจีคาดว่าจะจัดส่งแผ่นเวเฟอร์โมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนได้ 130 กิกะวัตต์ (รวมการใช้งานภายใน) และโมดูลโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอน 85 กิกะวัตต์ (รวมการใช้งานภายใน)
ลอนจีระบุว่า บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงด้วยการสร้างความมั่นใจในการจัดส่งสินค้า นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินการเชิงรุกเพื่อรับมือกับแรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตและผลผลิตวัสดุซิลิคอน ส่งผลให้ราคาวัสดุซิลิคอนในห่วงโซ่อุตสาหกรรมกลับสู่ระดับปกติ และบริษัทคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีในปี 2566 นี้
สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น ลอนจีได้เพิ่มการลงทุนรวมถึงเร่งก่อสร้างและอัปเกรดสายการผลิตประสิทธิภาพสูงในจีน เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายมากขึ้นของลูกค้า ขณะเดียวกัน บริษัทยังเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มการลงทุนในฐานการผลิตที่เมืองกูชิง ประเทศมาเลเซีย และการอัปเกรดฐานการผลิตในประเทศเวียดนามให้เสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ บริษัทกำลังเดินหน้ายกระดับความสามารถในการผลิตและการดำเนินงานในระดับสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดนอกประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เกี่ยวกับลอนจี
ลอนจี (LONGi) ก่อตั้งขึ้นในปี 2543 โดยมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำระดับโลก ลอนจีมุ่งเน้นไปที่การสร้างคุณค่าโดยมีความต้องการของลูกค้าเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเต็มรูปแบบ
พันธกิจของลอนจีคือ "การนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดเพื่อสร้างโลกสีเขียว" บริษัทอุทิศตนเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี โดยได้ก่อตั้งธุรกิจขึ้นมาห้าภาคส่วน ประกอบด้วยเซลล์และโมดูลเวเฟอร์โมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอน โซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายศูนย์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม โซลูชันพลังงานสีเขียว และอุปกรณ์ไฮโดรเจน ทั้งนี้ บริษัทได้ขยายขีดความสามารถในการจัดหาพลังงานสีเขียวอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อไม่นานมานี้ได้นำโซลูชันและผลิตภัณฑ์ไฮโดรเจนสีเขียวมาประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนเป้าหมายคาร์บอนเป็นศูนย์ทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.longi.com/en