กรุงเทพฯ—18 ส.ค. 2566—พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท ยูนนาน เติ้งจิน โลจิสติกส์ จำกัด (Yunnan Tengjin Logistics Co., Ltd.) ซึ่งต่อจากนี้จะเรียกว่า "เติ้งจิน โลจิสติกส์" ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานแสดงสินค้าโลจิสติกส์นานาชาติของไทยอย่างไทล็อก-โลจิสติกซ์ (TILOG-LOGISTIX) ประจำปี 2566 โดยทางบริษัทฯ ขอนำเสนอกระบวนการพัฒนา สถานะการดำเนินงาน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับการก่อสร้างเขตโลจิสติกส์นานาชาติเติ้งจิน (Tengjun International Land Port) พร้อมเชิญชวนให้นานาประเทศหันมากระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้น
Tengjin Logistics Appears at TILOG-LOGISTIX 2023
เติ้งจิน โลจิสติกส์ เป็นองค์กรโลจิสติกส์ระดับ 5A ในจีน ทั้งยังเป็นองค์กรดูแลการก่อสร้างและดำเนินการของเขตโลจิสติกส์นานาชาติเติ้งจิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ระดับประเทศที่เน้นการบริการในเมืองคุนหมิง ประเทศจีน เติ้งจิน โลจิสติกส์ วางกลยุทธ์การพัฒนาในการ "ส่งเสริมโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ผ่านช่องทางขนาดใหญ่ ยกระดับบริการขนาดใหญ่ผ่านโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ สนับสนุนการค้าขนาดใหญ่ผ่านบริการขนาดใหญ่ และสร้างอุตสาหกรรมอันเหนือชั้นผ่านการค้าขนาดใหญ่" เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการไทยอย่างจริงจัง และเร่งเชื่อมโยงกับตลาดในกลุ่มความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ผ่านมหกรรมนี้
เขตโลจิสติกส์นานาชาติเติ้งจินครอบคลุมพื้นที่ 3,669 เอเคอร์ และได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติว่าเป็นเขตโลจิสติกส์นานาชาติ เรามีรูปแบบการวางแผน ออกแบบ และดำเนินงานที่นับเป็นแถวหน้าในระดับสากล โดยมี "เขตการทำงานหลัก 5 เขต" ประกอบด้วยศูนย์การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบและศูนย์โลจิสติกส์ทางราง ศูนย์คลังสินค้าอัจฉริยะ ศูนย์โลจิสติกส์ทัณฑ์บน ศูนย์จัดซื้อจัดหาระหว่างประเทศ และศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ คอยให้บริการธุรกิจหลัก 3 ส่วน ได้แก่ "โลจิสติกส์ + บริการ + การค้า" เขตโลจิสติกส์นานาชาติเติ้งจินโดดเด่นด้วยข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ เพราะทางตะวันออกติดกับแถบเศรษฐกิจแม่น้ำฉางเจียง (Changjiang River Economic Belt) ทางใต้ติดเขตการค้าเสรีอาเซียน ตะวันตกติดกับช่องทางใหม่ จีน-เมียนมา และทางเหนือติดกับทางรถไฟจีนยุโรป เพื่อให้บริการตลาดโลก และเชื่อมโยงศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญในประเทศจีนอย่างราบรื่น ซึ่งในกรณีของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคนั้น เขตโลจิสติกส์นานาชาติเติ้งจินจะสร้างแพลตฟอร์มซัพพลายเชนที่มีขนาดใหญ่และมีมูลค่าการค้ามากที่สุดสำหรับธุรกิจของจีนในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้ประโยชน์จากทางรถไฟของจีนและลาว
