ปักกิ่ง--25 สิงหาคม 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้นำกลุ่มบริกส์ (BRICS) เห็นพ้องต้องกันในการเชิญหกประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่ม
ข่าวดังกล่าวได้รับการประกาศในงานแถลงข่าวระหว่างการประชุมสุดยอดบริกส์ ครั้งที่ 15 ซึ่งมีนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และผู้นำกลุ่มบริกส์คนอื่น ๆ เข้าร่วม ได้แก่ นายซีริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ นายลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ขณะที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เข้าร่วมการประชุมผ่านทางออนไลน์
สมาชิกภาพของทั้งหกประเทศจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567
ในงานแถลงข่าว ประธานาธิบดีจีนได้เรียกร้องให้สมาชิกกลุ่มบริกส์ร่วมมือกันเขียนบทใหม่ของความสามัคคีและความร่วมมือในตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา เพื่อการพัฒนาเคียงบ่าเคียงไหล่กัน
พลังใหม่ แรงผลักดันใหม่
ในงานแถลงข่าว ผู้นำบริกส์ทั้งห้าได้แสดงความยินดีกับหกประเทศสมาชิกใหม่ และแสดงความเชื่อมั่นต่อการพัฒนาในอนาคตของกลุ่ม
"การขยายกลุ่มบริกส์ถือเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์และเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับความร่วมมือของกลุ่ม" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าว
ผู้นำจีนได้ยกย่องการขยายสมาชิกภาพในครั้งนี้ โดยกล่าวว่าจะช่วยเติมพลังใหม่ให้กับกลไกความร่วมมือของกลุ่มบริกส์ ตลอดจนเสริมสร้างสันติภาพและการพัฒนาทั่วโลก
นายสี จิ้นผิง แสดงความเชื่อมั่นว่า ตราบใดที่ประเทศสมาชิกกลุ่มบริกส์ร่วมมือกันก็จะสามารถบรรลุผลสำเร็จมากมายผ่านความร่วมมือของกลุ่ม และอนาคตที่สดใสกำลังรออยู่ข้างหน้า
นายซีริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประธานการแถลงข่าว กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประเทศสมาชิกกลุ่มบริกส์ได้บรรลุข้อตกลงว่าด้วยหลักการชี้นำในการขยายกลุ่มบริกส์ และ "เราให้ความสำคัญกับประเทศอื่น ๆ ที่สนใจสร้างความร่วมมือกับกลุ่มบริกส์"
เขากล่าวเสริมว่า การประชุมสุดยอดบริกส์ถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของการสร้างโลกที่ยุติธรรม เท่าเทียมทั่วถึง และเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
นายลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล ชี้ให้เห็นว่า การที่นานาประเทศสนใจเข้าร่วมกลุ่มบริกส์นั้น แสดงให้เห็นว่าความพยายามสร้างระเบียบเศรษฐกิจโลกใหม่ได้รับความสนใจมากเพียงใด
นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย แสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการขยายกลุ่มบริกส์ โดยกล่าวว่า "อินเดียเชื่อมาโดยตลอดว่าการเพิ่มสมาชิกใหม่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริกส์ในฐานะองค์กร และจะเป็นแรงผลักดันใหม่ให้กับความพยายามร่วมกันของเรา"
เขากล่าวเสริมว่า การขยายกลุ่มบริกส์ "จะช่วยตอกย้ำความเชื่อของหลายประเทศที่มีต่อระเบียบโลกแบบหลายขั้ว"
นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ให้คำมั่นว่าจะสร้างปฏิสัมพันธ์ในทางปฏิบัติกับสมาชิกใหม่ และทำงานต่อไปเพื่อขยายอิทธิพลของกลุ่มบริกส์บนเวทีโลก
เหตุผลที่นานาประเทศสนใจเข้าร่วมกลุ่มบริกส์
นายรามาโฟซาเปิดเผยว่า มีมากกว่า 40 ประเทศที่แสดงความสนใจเข้าร่วมกลุ่มบริกส์ และมี 22 ประเทศที่ขอเข้าร่วมกลุ่มอย่างเป็นทางการ
ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีจีนในงานแถลงข่าวช่วยสร้างความกระจ่างว่า เพราะเหตุใดการเข้าร่วมกลุ่มบริกส์จึงเป็นเป้าหมายที่น่าดึงดูดใจสำหรับบรรดาประเทศกำลังพัฒนา
"การขยายกลุ่มบริกส์สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มที่จะรวมตัวกันและร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ รวมถึงตอบสนองความคาดหวังของประชาคมโลก ตลอดจนมอบประโยชน์ร่วมกันให้กับตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา" นายสี จิ้นผิง กล่าว
แม้ว่าภูมิทัศน์ระหว่างประเทศจะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่กลุ่มบริกส์ซึ่งครอบคลุมประชากรโลกมากกว่า 40% และคิดเป็นหนึ่งในสี่ของเศรษฐกิจโลก ยังคงประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งในด้านความร่วมมือ โดยมีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันและจัดการกับความท้าทายระดับโลก เช่น ช่องว่างทางเศรษฐกิจที่กว้างขึ้นระหว่างซีกโลกเหนือกับซีกโลกใต้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และธรรมาภิบาลดิจิทัล
ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (New Development Bank หรือ NDB) ที่ก่อตั้งโดยกลุ่มบริกส์ และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ เป็นเครื่องสะท้อนภาพความพยายามของกลุ่มในการจัดการกับความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ต้องเผชิญ พร้อมกับผลักดันวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2573 ขององค์การสหประชาชาติ
ในฐานะสถาบันการเงินพหุภาคีระดับโลกแห่งแรกที่ริเริ่มโดยประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมด ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ได้อนุมัติโครงการ 98 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 3.32 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อรับประกันการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาที่ยั่งยืนในตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา ตลอดจนมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตทั่วโลก
นอกจากนี้ ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อม เห็นได้จากการที่โครงการประมาณ 40% ของทางธนาคารมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาผลกระทบและปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สำหรับในภาคส่วนดิจิทัลนั้น กลุ่มบริกส์ได้จัดทำกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัล โดยให้ความสำคัญกับการแสวงจุดร่วมและการเกื้อกูลกันของสมาชิกกลุ่มบริกส์ในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล
ทั้งนี้ จีนเป็นนักลงทุนและคู่ค้ารายสำคัญในกลุ่มบริกส์ โดยสำนักงานศุลกากรจีนรายงานว่า มูลค่าการนำเข้าและส่งออกระหว่างจีนกับสมาชิกบริกส์ประเทศอื่น ๆ ขยายตัว 19.1% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 2.38 ล้านล้านหยวน (ราว 3.3062 แสนล้านดอลลาร์) ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม
https://news.cgtn.com/news/2023-08-24/BRICS-announces-new-members-1mwR9byHOp2/index.html
