ดีภัค โอหริ ประกาศลาออกจากเลอบัว โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท

ผู้บุกเบิกในแวดวงโรงแรมก้าวลงจากการเป็นซีอีโอหลังดำรงตำแหน่งมานาน 20 ปี เพื่อเริ่มเส้นทางใหม่

กรุงเทพฯ--4 ก.ย. 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต

ในวันนี้ คุณดีภัค โอหริ (Deepak Ohri) ผู้บริหารธุรกิจบริการมากวิสัยทัศน์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของเลอบัว โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท (lebua Hotels and Resorts) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เขาก่อตั้งขึ้นในฐานะโรงแรมหรูชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งซีอีโอนั้น คุณโอหริได้อุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่ และประสบความสำเร็จในการทำให้โรงแรมเลอบัวมีชื่อเสียงในด้านโรงแรมที่ให้บริการหรูหราระดับโลก โดยเขาจะยังคงอยู่ในตำแหน่งซีอีโอไปจนถึงสิ้นปีนี้

"เราขอขอบคุณคุณดีภัคสำหรับการอุทิศตนและการสนับสนุนที่มีต่อเลอบัว" คุณนราวดี บัวเลิศ ประธานของเลอบัว กล่าว "ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งนั้น เลอบัวกลายเป็นผู้นำในด้านโรงแรมหรูหรา ด้วยความมุ่งมั่นและสัญชาตญาณตามธรรมชาติของเขา คุณดีภัคทำให้บริษัทของเรามีจุดยืนในระดับโลก และได้รับการยกย่องไปทั่วโลกจากแขกผู้มาเยือนและบรรดาผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรม เราเฝ้ารอที่จะสานต่อมรดกของเขา และขออวยพรให้คุณดีภัคประสบความสำเร็จในความพยายามในอนาคต"

ระหว่างดำรงตำแหน่งซีอีโอของเลอบัว ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นแบรนด์โรงแรมหรูหราที่ก่อตั้งขึ้นในท้องถิ่นแบรนด์แรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณโอหริได้เข้ามากำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม และสร้าง "จุดหมายปลายทางแบบแนวตั้ง" เป็นแห่งแรก จนทำให้เลอบัวเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในด้านแนวคิดด้านอาหารและเครื่องดื่มที่หรูหรา และบริการที่ไม่มีใครเทียบได้ คุณโอหริยังฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดร้านอาหารบนดาดฟ้าสูดหรูที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งก็คือ ซีรอคโค (Sirocco) ที่โรงแรมเลอบัว กรุงเทพฯ และยังได้เปิดร้านอาหารชั้นสูงเพิ่มเติมอีกสองแห่ง ซึ่งต่างได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 2 ดาว ทั้งสองร้าน

ภายใต้การนำของคุณโอหริ โรงแรมเลอบัวซึ่งในขณะนี้มีสาขา 5 แห่งทั่วโลก ทั้งอินเดีย ไทย และนิวซีแลนด์ ก็ได้รับรางวัลโรงแรมห้องชุดชั้นนำของโลก (World's Leading All-Suite Hotel) จากเวิลด์ ทราเวล อวอร์ด (World Travel Award) และยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 1 เปอร์เซ็นต์แรกของบริษัททั่วโลกอย่างต่อเนื่องในด้านความพึงพอใจของลูกค้า

คุณโอหริได้วางแผนสิ่งที่จะทำหลังจากนี้แล้ว นั่นคือแบรนด์โรงแรมแบบ "ไฮบริด" สุดหรู ซึ่งเตรียมเปิดตัวในสหรัฐอเมริกา "นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเลอบัวตลอด 20 ปีที่ผ่านมา" คุณโอหริ กล่าว "ผมภาคภูมิใจกับความสำเร็จของเรา และนั่นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากทีมงานทั้งหมด ผมตื่นเต้นสำหรับบทบาทหน้าที่ครั้งใหม่ต่อจากนี้"

นับตั้งแต่ก่อตั้งเลอบัวในปี 2546 คุณโอหริได้กลายเป็นผู้นำในด้านการบริหารจัดการและบริการโรงแรมหรูหราด้วย ซึ่งมีข้อมูลเชิงลึกที่เป็นที่ต้องการทั่วโลก คุณโอหริได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในผู้บริหารที่สร้างแรงบันดาลใจสูงสุดระดับโลกด้านการเดินทางและการโรงแรม (Global Top Most Inspirational Executives in Travel and Hospitality) จากสถาบันการโรงแรมนานาชาติ (International Hospitality Institute) และเป็นหนึ่งใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในธุรกิจการโรงแรมระดับโลก คุณโอหริยังเคยบรรยายในสถาบันการศึกษาชั้นนำ เช่น มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย โรงเรียนธุรกิจสเติร์นของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และโรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ด นอกจากนี้ คุณโอหริยังดำรงตำแหน่งผู้บริหารพิเศษ (Executive in Residence) ด้านผู้ประกอบการและนวัตกรรม และเป็นประธานคณะกรรมการบริหารที่ศูนย์ผู้ประกอบการระดับโลกปิโน (Pino Global Entrepreneurship Center) ตลอดจนสมาชิกคณะกรรมการของศูนย์การศึกษาและวิจัยธุรกิจระหว่างประเทศ (CIBER) ณ วิทยาลัยธุรกิจ มหาวิทยาลัยนานาชาติฟลอริดา

เกี่ยวกับคุณดีภัค โอหริ

คุณดีภัค โอหริ (Deepak Ohri) เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง ผู้ประกอบการ และผู้นำทางความคิด เขาก่อตั้งแบรนด์โรงแรมเลอบัว โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท (lebua Hotels and Resorts) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นแบรนด์โรงแรมหรูหราที่ก่อตั้งขึ้นในท้องถิ่นแบรนด์แรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีสาขา 5 แห่งทั่วโลก ทั้งอินเดีย ไทย และนิวซีแลนด์ มุมมองที่ไม่เหมือนใครของคุณโอหริด้านการโรงแกรม ซึ่งมุ่งเน้นการเชื่อมโยงทางอารมณ์ความรู้สึกสำหรับแขกผู้เข้าพัก กลายเป็นเทรนด์ไปทั่วทั้งอุตสาหกรรม คุณโอหริยกระดับการโรงแรมที่หรูหราและจุดประกายความคลั่งไคล้การรับประทานอาหารบนดาดฟ้าของกรุงเทพฯ ด้วยห้องอาหารสุดหรูของเลอบัวอย่างเดอะ โดม แอท เลอบัว (The Dome at lebua) ภายใต้การนำของคุณโอหริ เลอบัวคว้ารางวัลโรงแรมห้องชุดชั้นนำของโลกจากเวิลด์ ทราเวล อวอร์ด และยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 1% แรกของบริษัททั่วโลกอย่างต่อเนื่องในด้านความพึงพอใจของลูกค้า นอกจากนี้ สถาบันการโรงแรมนานาชาติยังเลือกให้คุณโอหริเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่สร้างแรงบันดาลใจสูงสุดระดับโลกด้านการเดินทางและการโรงแรม และเป็นหนึ่งใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในธุรกิจการบริการระดับโลก

คุณโอหริเป็นผู้เขียนหนังสือ A Bridge Not Too Far - Where Creativity Meets Innovation ซึ่งเล่าถึงชีวิตที่เขาเติบโตมาจากเส้นทางแห่งการหมั่นเพียรศึกษาในกรุงนิวเดลี สู่จุดสูงสุดของธุรกิจหรูหราระดับโลก ความเฉียบแหลมและมุมมองที่ลึกซึ้งของคุณโอหริกลายเป็นที่ต้องการไปทั่วโลก และเขาได้รับการยอมรับในฐานะผู้ประกอบการระดับรางวัล วิทยากรที่มีชื่อเสียง และได้รับการยกย่องจากองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งในเรื่องความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ของเขา

คุณดีภัค โอหริ เป็นผู้ก่อตั้งและประธานของลักซูรี อาเตอลิเย่ เมซง แฮปปีเนส (Luxury Atelier Maison Happiness หรือ LAMH) ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในสหรัฐ โดยเชี่ยวชาญด้านประสบการณ์ การให้ความรู้ คำปรึกษา และการสร้างแบรนด์ที่หรูหรา

เกี่ยวกับเลอบัว

เลอบัว (Lebua) เป็นกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ดำเนินแนวทางที่ไม่เหมือนใครในอุตสาหกรรมบริการ ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ความรู้สึก เพื่อเข้าถึงการมีปฏิสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับแขก บรรดาที่พักระดับรางวัลของเลอบัวประกอบด้วย ทาวเวอร์คลับ แอท เลอบัว (Tower Club at lebua) และเลอบัว แอท สเตททาวเวอร์ (lebua at State Tower) ในกรุงเทพฯ รวมถึงโรงแรมอันงดงาม 2 แห่งในอินเดีย ได้แก่ เลอบัว ลัคเนา (lebua Lucknow) และเลอบัว คอร์เบตต์ (lebua Corbett) และที่พักสุดพิเศษในนิวซีแลนด์ อย่างเลค โอคาเรกา ลอดจ์ บาย เลอบัว (Lake Okareka Lodge by lebua)

เดอะ โดม แอท เลอบัว (The Dome at lebua) รวบรวมสุดยอดห้องอาหารชั้นเลิศบนโรงแรมเลอบัวในกรุงเทพฯ ที่มาพร้อมกับทิวทัศน์สุดตระการตาและความสามารถด้านการผสมเครื่องดื่มและอาหารที่ดึงดูดนักชิมจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ซีรอคโค (Sirocco), บรีซ (Breeze), เมซซาลูน่า (Mezzaluna) ที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 2 ดาว, สกาย บาร์ (Sky Bar), ฟลูต (Flute), อัลเฟรสโก 64 (Alfresco 64) เลอบัว นัมเบอร์ 3 (lebua No. 3), พิงก์ (Pink) และเชฟส์ เทเบิล (Chef's Table)