เอดจ์คอนเน็กซ์คว้าเงินทุน 403.8 ล้านดอลลาร์ ในการระดมทุนที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจในเอเชีย

บริษัทฯ ระดมเงินทุนได้เกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ตลอดระยะเวลา 1.5 ปีที่ผ่านมา เพื่อขับเคลื่อนการขยายธุรกิจระดับโลก การจัดหาเงินทุนครั้งล่าสุดนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของแคมปัสศูนย์ข้อมูลระดับไฮเปอร์สเกลขนาด 120 เมกะวัตต์ ในกรุงจาการ์ตา

บริษัทฯ เฉลิมฉลองการบรรลุเป้าหมายการระดมเงินทุน ด้วยการเปิดตัวแผนขยายศูนย์ข้อมูลที่กรุงจาการ์ตาในพิธีเปิดซึ่งมีรัฐมนตรี ลูฮัต บินซาร์ ปันด์ใจตัน และเหล่าผู้นำชุมชนท้องถิ่น ร่วมเป็นสักขีพยาน

เฮิร์นดอน, เวอร์จิเนีย, 13 กันยายน 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต

เอดจ์คอนเน็กซ์ (EdgeConneX^®) ผู้บุกเบิกโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์โลคอลไปจนถึงไฮเปอร์สเกลทั่วโลก ประกาศความสำเร็จในการดำเนินงานตามข้อตกลงมูลค่า 403.8 ล้านดอลลาร์ในศูนย์ข้อมูลที่มีส่วนเชื่อมโยงกับความยั่งยืน ซึ่งช่วยเร่งแผนการขยายธุรกิจและโครงการริเริ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ สำหรับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย การดำเนินการในครั้งนี้เปิดโอกาสในการยกระดับศักยภาพด้านความยั่งยืน ทั้งในด้านประสิทธิภาพของพลังงาน แหล่งพลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ และมาตรการความปลอดภัยที่ได้รับการยกระดับให้ดีขึ้นของเอดจ์คอนเน็กซ์ ในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลมากมายในภูมิภาค ที่จะทำให้แคมปัสระดับไฮเปอร์สเกลของอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตามีขนาดใหญ่กว่า 120 เมกะวัตต์

Left to right: Dr. H Dani Ramdan MT, Acting Regent of Bekasi; Mr. Sung Kim, Ambassador of the United States to Indonesia; Mr. Randy Brouckman, Chief Executive Officer and Co-Founder, EdgeConneX; Mr. Luhut Binsar Pandjaitan, Coordinating Minister of Maritime and Investment Affairs, Indonesia; Mr. Pandu Sjahrir, Managing Partner of Indies; Mr. John Riady, CEO, PT Lippo Karawaci Tbk

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเปิดตัวแผนขยายแคมปัสศูนย์ข้อมูลประจำกรุงจาการ์ตาในพิธีเปิด พร้อมต้อนรับแขกผู้ทรงเกียรติต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงคุณลูฮัต บินซาร์ ปันด์ใจตัน (Luhut Binsar Pandjaitan) รัฐมนตรีประสานงานประจำกระทรวงกิจการทางทะเลและการลงทุนของอินโดนีเซีย และแขกผู้มีเกียรติท่านอื่น ๆ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคและผู้นำจากชุมชนท้องถิ่น รวมถึงคุณแรนดี บร็อคแมน (Randy Brouckman) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของเอดจ์คอนเน็กซ์ และคุณเคลวิน ฟง (Kelvin Fong) กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

กรุงจาการ์ตาเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย และมีประชากรมากกว่า 33 ล้านคน ถือเป็นประตูสำคัญสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับการพาณิชย์ การค้า และเทคโนโลยี กรุงจาการ์ตามีเครือข่ายไฟเบอร์กว้างขวาง มีความหนาแน่นของพลังงาน การเชื่อมต่อความหน่วงต่ำ และทางเลือกด้านการเชื่อมต่อไร้สายระดับโลก ถือเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงซึ่งเป็นโอกาสที่สำคัญของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านคลาวด์ ในการเร่งการเข้าถึงคลาวด์ การนำเสนอคอนเทนต์ และบริการการเชื่อมต่อ

ข้อตกลงดังกล่าวใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของเอดจ์คอนเน็กซ์ (EdgeConneX Sustainability Strategy) และมีการกู้ยืมดอลลาร์จากต่างประเทศ ซึ่งเปิดโอกาสให้ปรับมาร์จินได้ เมื่อเอดจ์คอนเน็กซ์ทำผลงานได้ตามดัชนีบ่งชี้ประสิทธิภาพสำคัญ (KPI) ที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ของศูนย์ข้อมูล การใช้ไฟฟ้าหมุนเวียน และการบรรลุเป้าหมายด้านความปลอดภัย โดยดัชนีบ่งชี้ประสิทธิภาพสำคัญเหล่านี้มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ลูกค้า ผู้คน โลก (Customer, People, Planet) ของเอดจ์คอนเน็กซ์ ซึ่งรวมถึงนโยบายด้านความยั่งยืนแบบองค์รวมที่สนับสนุนเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลที่เป็นกลางทางคาร์บอน ของเสีย และน้ำ ภายในปี 2573 แผนงานที่รองรับอนาคตเช่นนี้ยังกำหนดให้เอดจ์คอนเน็กซ์มุ่งพัฒนาและดำเนินงานแพลตฟอร์มศูนย์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียนแบบ 100% ด้วย

บทสัมภาษณ์

• ลูฮัต บินซาร์ ปันด์ใจตัน รัฐมนตรีประสานงานประจำกระทรวงกิจการทางทะเลและการลงทุนของอินโดนีเซีย
  "อินโดนีเซียมีวาระที่ล้ำหน้าในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม ลดการปล่อยคาร์บอน การศึกษาที่มีคุณภาพสูงแต่ไม่เป็นภาระด้านค่าใช้จ่าย ความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น สิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยเช่นที่พัฒนาโดยเอดจ์คอนเน็กซ์ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดึงดูดและส่งเสริมการเชื่อมต่อ การประมวลผลบนคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแอปพลิเคชันไอทีที่สำคัญอื่น ๆ จากบริษัทชั้นนำ การส่งเสริมระบบนิเวศของเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เศรษฐกิจของอินโดนีเซียเติบโตอย่างรวดเร็วต่อไป ที่สำคัญ ความก้าวหน้านี้จะบรรลุผลสำเร็จได้ด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้าต่อความยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีอนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น"
  
  
• แรนดี บร็อคแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งเอดจ์คอนเน็กซ์
  "เรารู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งต่อลูกค้าของเรา ที่ผลักดันความต้องการในการขยายความจุของศูนย์ข้อมูล ซึ่งจำเป็นต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของอินโดนีเซีย นอกจากนี้เรายังรู้สึกขอบคุณสำหรับการสนับสนุนจากพันธมิตรในพื้นที่ของเราในกรุงจาการ์ตา เราจะไม่สามารถปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ของเราในการเป็นผู้ดำเนินการศูนย์ข้อมูลชั้นนำของอินโดนีเซียได้เลย หากปราศจากความสามารถ ความสัมพันธ์ในท้องถิ่น และความเชี่ยวชาญทางการตลาดที่พวกเขามอบให้แก่เรา"
  
  
• โจ ฮาราร์ (Joe Harar) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเอดจ์คอนเน็กซ์
  "การระดมทุนครั้งนี้ปลดล็อกความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้น และมอบความสามารถในการระดมทุนที่รวดเร็วให้กับเอดจ์คอนเน็กซ์ เพื่อสนับสนุนโซลูชันศูนย์ข้อมูลที่ลูกค้ากำหนดเองได้ทั่วโลก และด้วยการระดมทุนเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา เราพร้อมที่จะดำเนินการขยายศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่ของเรา และอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งในการหาพื้นที่และทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อรองรับความต้องการศูนย์ข้อมูลของลูกค้าของเราในอนาคต"
  
  
• เวเวิน วิลยานี ซาลิม (Wewoen Willyani Salim) ผู้อำนวยการของบริษัทอินดีส์ แคปิตอล พาร์ตเนอร์ส (Indies Capital Partners)
  "ในขณะที่เราเปิดรับยุคดิจิทัล อินโดนีเซียกำลังมีการเปลี่ยนแปลงในแง่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลบนคลาวด์และศูนย์ข้อมูลที่ขยายตัว เช่น ในสิ่งอำนวยความสะดวกของเอดจ์คอนเน็กซ์นั้น ทำให้เรากำลังปลดล็อกประตูแห่งโอกาสใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจ และขับเคลื่อนภูมิภาคของเราไปสู่อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น"
  
  
• ฟิลเบิร์ต ซือ (Philbert Shih) ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของสตรักเจอร์ รีเสิร์ช (Structure Research)
  "การบุกตลาดอินโดนีเซียทำให้เอดจ์คอนเน็กซ์มีสถานะอยู่ใน 3 ประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกนอกดินแดนสหรัฐ อินโดนีเซียมีลักษณะทางประชากรศาสตร์ที่แข็งแกร่ง มีภาคเทคโนโลยีภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์สเกลในประเทศ ซึ่งขณะนี้อินโดนีเซียกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นใช้บริการโครงสร้างพื้นฐานจากภายนอก เช่น คลาวด์และศูนย์ข้อมูล นอกจากนี้ อินโดนีเซียมีข้อดีในระยะยาวอย่างมาก และกรุงจาการ์ตาก็เป็นศูนย์กลางของการเติบโตครั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นที่ตั้งของคลาวด์ไฮเปอร์สเกลรายใหญ่ทุกแห่งในสหรัฐและจีน เช่นเดียวกับกลุ่มโซเชียลมีเดียและเว็บสเกลที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งจะรวมกันเพื่อสร้างความต้องการศูนย์ข้อมูลไฮเปอร์สเกลในปริมาณมหาศาล"

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศูนย์ข้อมูลเอดจ์คอนเน็กซ์ในกรุงจาการ์ตา สามารถดาวน์โหลดเอกสารข้อมูลได้ที่นี่

เกี่ยวกับเอดจ์คอนเน็กซ์ 
เอดจ์คอนเน็กซ์ (EdgeConneX) ได้รับการสนับสนุนจากอีคิวที อินฟราสตรักเจอร์ (EQT Infrastructure) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอีคิวที (EQT) บริษัทด้านการลงทุนระดับโลก เอดจ์คอนเน็กซ์ให้บริการโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์ที่ยั่งยืนอย่างเต็มรูปแบบทั่วโลก เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อนำเสนอทางเลือกทั้งในส่วนของทำเลที่ตั้ง ขนาด และประเภทของดาต้าเซ็นเตอร์ ตั้งแต่ระดับไฮเปอร์โลคอลไปจนถึงไฮเปอร์สเกล เอดจ์คอนเน็กซ์เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการดาต้าเซ็นเตอร์ทุกขนาด ทุกที่ ทุกเวลา สำหรับหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น คอนเทนต์, คลาวด์, เครือข่าย, เกม, ยานยนต์, บริการซอฟต์แวร์ (SaaS), อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT), ระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (HPC), ความมั่นคงปลอดภัย และอื่น ๆ ทั้งนี้ เอดจ์คอนเน็กซ์มีพันธกิจในการดูแลลูกค้าของเรา พนักงานของเรา และโลกของเรา จึงมุ่งมั่นที่จะเสริมศักยภาพเอดจ์ของคุณ (Empower Your Edge) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ edgeconnex.com

From Left: Mr. Sung Kim, Ambassador of the United States to Indonesia; Dr. H Dani Ramdan MT, Acting Regent of Bekasi; Mr. Randy Brouckman, Chief Executive Officer and Co-Founder, EdgeConneX; Mr. Luhut Binsar Pandjaitan, Coordinating Minister of Maritime and Investment Affairs, Indonesia

ภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2209656/DENN5218_Jakarta_Event_Group_Photo.jpg?p=medium600 

ภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2209657/DENN5162_Jakarta_Event_Ribbon_Cutting.jpg?p=medium600 

โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/810989/EdgeConneX_Logo.jpg?p=medium600