นิทรรศการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงานเฉลิมฉลองศิลปะแห่งนาฬิกาอย่างไทม์เลส ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน
มาเก๊า, 28 ก.ย. 2566/พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
แซนด์ ไลฟ์สไตล์ (Sands Lifestyle) ประสบความสำเร็จในการจัดงานไทม์เลส (TIMELESS) ขึ้นเป็นครั้งแรก ที่เดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า (The Londoner® Macao) ระหว่างวันที่ 25 ถึง 26 กันยายนที่ผ่านมา ไฮไลท์ของงานนี้อยู่ที่นิทรรศการกรังด์ ปรีซ์ ดอร์โลเฌรี เดอ เฌอเนฟ (Grand Prix d'Horlogerie de Genève) หรือ GPHG ซึ่งเป็นการจัดแสดงนาฬิกาที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในการประกวด GPHG ประจำปี 2566 ทั้ง 84 เรือน การประกวดดังกล่าวนี้มักได้รับการขนานนามว่าเป็นเสมือน "รางวัลออสการ์" ของวงการนาฬิกา ออกแบบมาเพื่อเชิดชูความเป็นเลิศด้านการทำนาฬิกาทั่วโลก งานระยะเวลา 2 วันดังกล่าวนี้ ซึ่งยังประกอบด้วยการอภิปรายกลุ่มที่มอบมุมมองเชิงลึกและมาสเตอร์คลาสนำโดยผู้เชี่ยวชาญ ได้ดึงดูดผู้หลงใหลและนักสะสมนาฬิกาจากทั่วทั้งเอเชีย
เดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า เป็นสถานที่แรกในโลกที่ได้จัดนิทรรศการนาฬิกาซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในการประกวด GPHG ประจำปี 2566 มอบโอกาสสุดพิเศษที่หายากให้ผู้ร่วมงานได้ชมนาฬิกาชั้นเลิศที่สุดในโลกซึ่งรวมกันอยู่ภายในที่เดียว ผลงานชิ้นเอกที่ได้รับการจัดแสดงมีมูลค่ารวมกันราว 36 ล้านปาตากามาเก๊า นิทรรศการดังกล่าวนี้จัดขึ้นในคริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) ของเดอะ ลอนดอนเนอร์ ซึ่งเป็นเอเทรียมอันโอ่อ่าที่สว่างไสว ก่อสร้างด้วยวัสดุกระจก เหล็ก และหินอ่อน เป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับให้ผู้หลงใหล นักสะสม และผู้สนใจได้เข้ามาชื่นชมสุดยอดผลงานชั้นเลิศของการประกวด GPHG ประจำปี 2566
นาฬิกาที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในการประกวด GPHG แข่งขันกันใน 14 ประเภท อย่างเช่น ความยอดเยี่ยมด้านจักรกล ศิลปกรรมงานฝีมือ ความซับซ้อน และนาฬิกากีฬา แต่ละประเภทมุ่งเน้นด้านที่จำเพาะของความเป็นเลิศในการทำนาฬิกา ทั้งการออกแบบ นวัตกรรมเชิงเทคนิค การเป็นงานฝีมือ และสมรรถนะโดยรวม ทั้งนี้จะมีการประกาศผู้ชนะแต่ละประเภทในพิธีมอบรางวัลที่จะจัดขึ้นในกรุงเจนีวาในเดือนพฤศจิกายนนี้
พิธีการเปิดงานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน โดยมีการเข้าร่วมอย่างอุ่นหนาฝาคั่งโดยสื่อ แขกวีไอพี ผู้เล่นในอุตสาหกรรม คนดัง และบุคคลในแวดวงสังคม แขกผู้ร่วมพิธีการ ไม่ว่าจะเป็นมาเรีย เฮเลนา เดอ เซนนา เฟอร์นันเดส (Maria Helena de Senna Fernandes) ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวของรัฐบาลมาเก๊า, ดร.วิลเฟร็ด หว่อง (Wilfred Wong) ประธานบริษัทแซนด์ส ไชนา ลิมิเต็ด (Sands China Ltd.), มิเชล ลามูนิแยร์ (Michel Lamunière) ประธานและซีอีโอของแทตเลอร์ เอเชีย (Tatler Asia), คารีน เมยาร์ (Carine Maillard) ผู้อำนวยการของ GPHG, ออสเตน ชู (Austen Chu) ผู้ก่อตั้งโฮโรลูป (Horoloupe) และโย หยาง (Yo Yang) นักแสดงชาวไต้หวันและผู้ได้รับรางวัลโกลเดน ฮอร์ส (Golden Horse)
ในการนี้ ดร.วิลเฟร็ด หว่อง กล่าวว่า "เดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า เป็นพื้นที่ที่ยอดเยี่ยม เราจึงทราบดีว่าที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการจัดงานอีเวนต์ระดับโลกอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งสอดคล้องอย่างลงตัวกับจุดมุ่งหมายของแซนด์ ไลฟ์สไตล์ อันได้แก่การมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นเกินความคาดหมายของแขกผู้มาเยือน ดังที่ได้คาดไว้จากคุณสมบัติของนาฬิกาที่จัดแสดงในสองวันนี้ ประกอบกับการอภิปรายกลุ่มที่ชวนให้คิด และมาสเตอร์คลาสนำโดยผู้เชี่ยวชาญ งานนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักสะสมนาฬิกาหรูจากนานาชาติ"
หลังจากพิธีการเปิดงาน มีการจัดปาร์ตี้แพรวพราวสุดพิเศษซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเดอะ เกรท แกทส์บี้ (The Great Gatsby) ในชื่อว่า ไทม์เลส ค็อกเทล (Timeless Cocktail) ที่เดอะ คลับ ออฟ ลอนดอนเนอร์ คอร์ท (The Club of Londoner Court) งานอีเวนต์ค็อกเทลดังกล่าวนี้ ประกอบด้วยรูปปั้นมีชีวิตที่ทำหน้าที่เสิร์ฟแชมเปญให้กับแขกผู้ร่วมงาน การแสดงดนตรีสด และค็อกเทลรังสรรค์ขึ้นพิเศษโดยเจย์ คาน (Jay Khan) จากโคอา (Coa) บาร์อันดับหนึ่งในรายชื่อ 50 บาร์ยอดเยี่ยมของเอเชีย
ช่วงเวลาอันน่าจดจำอื่น ๆ จากงานเฉลิมฉลองศิลปะแห่งเวลาครั้งนี้ มีทั้งการอภิปรายกลุ่มที่ให้ความรู้สำหรับแขกที่ได้รับเชิญ กิจกรรมดังกล่าวนี้จัดขึ้นในวันที่ 25 กันยายน โดยได้สำรวจผลกระทบที่มีนัยสำคัญที่ GPHG มีต่ออุตสาหกรรมการทำนาฬิกา
สำหรับวันที่ 26 กันยายน ได้มีการเปิดนิทรรศการ GPHG อันตระการตาแก่สาธารณชน เปิดโอกาสให้ได้ชื่นชมศิลปกรรมและความเป็นงานฝีมือของการทำนาฬิกาหรู
ในวันที่สองนี้ยังมีซีรีส์มาสเตอร์คลาสที่ประเมินค่ามิได้ ซึ่งมอบโอกาสที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนในการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกา มาสเตอร์คลาส "การสะสมนาฬิกา" (Watch Collecting) ซึ่งเจาะเน้นเรื่องวิวัฒนาการและเทรนด์ในการสะสมระดับโลกนั้น นำโดยหวิง ไหง ฟ่ง (Wing Ngai Fong) ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์นาฬิกามาเก๊า (Macau Timepiece Museum) และนักสะสมรายสำคัญ และออสเตน ชู สมาชิกสถาบัน GPHG และผู้ก่อตั้งโฮโรลูป
ส่วนในมาสเตอร์คลาส "ศิลปะแห่งการทำนาฬิกา" (Art of Watchmaking) ที่ชวนให้ดื่มด่ำนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำนาฬิกา จอห์น อึ๊ง (John Ng) และฟรานซิสโก การ์เซีย (Francisco Garcia) ได้แสดงระดับทักษะที่ต้องใช้ในการประกอบจักรกลการเคลื่อนที่ให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน กิจกรรมให้ความรู้เหล่านี้ปิดท้ายด้วยคลาสไทม์เลส กับเพียเจต์ และไซมอน เชีย (TIMELESS X Piaget X Simon Shia) ในคลาสดังกล่าวนี้ เชีย ซึ่งเป็นผู้หลงใหลในนาฬิกา อธิบายความสำคัญของคอลเล็กชันเพียเจต์อันลือชื่อ
Sands Lifestyle was the event partner for TIMELESS, a prestigious two-day event held at The Londoner Macao, dedicated to the world’s finest luxury timepieces.
Sands Lifestyle was the event partner for TIMELESS, a prestigious two-day event held at The Londoner Macao, dedicated to the world’s finest luxury timepieces.
Sands Lifestyle was the event partner for TIMELESS, a prestigious two-day event held at The Londoner Macao, dedicated to the world’s finest luxury timepieces.
Sands Lifestyle, as event partner for TIMELESS, held the officiating ceremony at Crystal Palace of The Londoner Macao on Sept. 25. (left to right) Officiating guests included Austen Chu, Founder of Horoloupe; Michel Lamunière, Chairman & CEO of Tatler Asia; Maria Helena de Senna Fernandes, Director, Macao Government Tourism Office; Dr. Wilfred Wong, President, Sands China Ltd.; Carine Maillard, Director of GPHG; Taiwanese actor and Golden Horse award winner Yo Yang.
ดาวน์โหลดภาพความละเอียดสูงได้ที่
https://we.tl/t-R2pXHVy8Rl (ลิงก์เข้าถึงได้จนถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2566)
เกี่ยวกับเดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า
เดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า (The Londoner® Macao) คือรีสอร์ตครบวงจรที่เชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนท่องไปในประวัติศาสตร์และสัมผัสวัฒนธรรมบริติชชั้นเลิศ ประกอบด้วยแบรนด์โรงแรมที่มีชื่อเสียง 5 แบรนด์ ได้แก่ เดอะ ลอนดอนเนอร์ โฮเทล (The Londoner Hotel) และลอนดอนเนอร์ คอร์ท (Londoner Court) แห่งใหม่ และที่มีอยู่เดิม ได้แก่ คอนราด มาเก๊า (Conrad Macao) เชอราตัน แกรนด์ มาเก๊า (Sheraton Grand Macao) และเดอะ เซนต์ รีจิส มาเก๊า (The St. Regis Macao) ทั้งนี้ เดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า จะนำแขกผู้มาเยือนไปสัมผัสกับโคไท สตริป (Cotai Strip) พร้อมด้วยนานาบริการระดับลักชูรีในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งหาจากที่อื่นใดไม่ได้แล้วในมาเก๊า โดยมีห้องพักและห้องสวีทของโรงแรมกว่า 6,000 ห้อง ประกอบกับพื้นที่ค้าปลีก ความบันเทิง ร้านอาหาร และการประชุมและงานประชุมอีก 1.2 ล้านตารางฟุต (111,000 ตารางเมตร) ยิ่งไปกว่านั้นยังมีชอปเปส (Shoppes) ณ ลอนดอนเนอร์ ประกอบด้วยด้วยร้านค้าปลีกกว่า 150 แห่ง ซึ่งร่วมทัพกับชอปเปสที่เวเนเชียน (Venetian) โฟร์ซีซันส์ (Four Seasons) และปารีเซียน (Parisian) ในการมอบร้านค้าหรูระดับลักชูรีปลอดภาษีรวมกันราว 850 แห่ง ซึ่งรวมกันอยู่ในที่เดียวเป็นจำนวนมากที่สุดในมาเก๊า นอกจากนี้ เดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า มีสปา 3 แห่ง คลับสุขภาพ 4 แห่ง และพื้นที่เกมมิงที่มีธีมพิเศษกว่า 365,000 ตารางฟุต (34,000 ตารางเมตร) พร้อมมอบความหรูหราและการเข้าถึงโคไท สตริปในอีกระดับใหม่