ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 16 ต.ค. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
ที่การประชุมบรอดแบนด์เคลื่อนที่ (MBBF) ประจำปี 2566 คุณหยาง เฉาบิน (Yang Chaobin) กรรมการและประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันไอซีทีของหัวเว่ย ได้เปิดตัวแลมป์ไซต์ เอ็กซ์ (LampSite X) ซึ่งเป็นโซลูชันผลิตภัณฑ์ดิจิทัลภายในอาคารบนเครือข่าย 5G ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการเปิดพื้นที่ธุรกิจใหม่ ๆ และก้าวไปสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัล
คุณหยาง กล่าวว่า "แลมป์ไซต์ เอ็กซ์ นำขีดความสามารถ 5.5G อันเหนือชั้นมาไว้ภายในอาคารเป็นครั้งแรก เพื่อยกระดับระบบดิจิทัลภายในอาคารอย่างครอบคลุม โซลูชันนี้ออกแบบมาให้มีความลีน ใช้งานได้ง่ายที่สุด และใช้พลังงานน้อยที่สุด ให้ประสบการณ์ระดับ 10 Gbps และมอบความสามารถที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์ภายในอาคารระดับพรีเมี่ยม และมอบประสิทธิภาพการผลิตทางดิจิทัลที่ทรงพลังยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ"
ปัจจุบันเครือข่าย 5G กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีการรับส่งข้อมูลบนมือถือเพิ่มขึ้นมาก โดย 80% เกิดขึ้นภายในอาคาร ซึ่งในสถานการณ์ในอาคารที่มีความหนาแน่นสูงและมีการสัญจรหนาแน่น เช่น ห้างสรรพสินค้า สนามบิน สถานีรถไฟ และสนามกีฬานั้น ความหนาแน่นของการสัญจรบริเวณฮอตสปอตจะมากกว่าความหนาแน่นโดยเฉลี่ยกว่า 100 เท่า สถานการณ์เช่นนี้จำเป็นต้องยกระดับความสามารถด้านดิจิทัลภายในอาคาร นอกจากนี้ เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลแล้ว อุตสาหกรรมต่าง ๆ จำเป็นต้องมีเครือข่ายเพื่อมอบความสามารถใหม่ ๆ ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เช่น การวางตำแหน่งที่มีความแม่นยำสูงและอัปลิงก์ที่สูงเป็นพิเศษ เพื่อรองรับการผลิต การจัดการคลังสินค้า และโลจิสติกส์อัจฉริยะ
การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอาคารกลายเป็นที่ยอมรับทั่วทั้งอุตสาหกรรม
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลภายในอาคารได้กลายเป็นหนึ่งในความสามารถหลัก ที่ต้องได้รับการปรับปรุงในยุค 5G และ 5.5G โดยการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลภายในอาคารเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ประการแรก เมื่อทุกย่านความถี่พัฒนาไปสู่ 5G นั้น ก็จำเป็นต้องบูรณาการและประสานงานเพื่อให้ได้การออกแบบและการใช้งานที่เรียบง่าย ประการที่สอง การรับส่งข้อมูลภายในอาคารนั้นกระจายตัวไม่สม่ำเสมอตลอดทั้งวัน ทำให้จำเป็นต้องมีการประหยัดพลังงานแบบไดนามิกตามปริมาณการรับส่งข้อมูล เพื่อช่วยผู้ปฏิบัติงานลดต้นทุนด้านพลังงาน ประการที่สาม เมื่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล จึงต้องพัฒนาขีดความสามารถใหม่ ๆ เพื่อให้ตอบสนองสถานการณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น
แลมป์ไซต์ เอ็กซ์ กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอาคาร
แลมป์ไซต์ เอ็กซ์ ตอบสนองความต้องการในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ภายในอาคารได้หลากหลาย ผลิตภัณฑ์ซีรีส์นี้มีขนาดให้เลือกมากมาย เล็กสุดได้ถึง 1 ลิตร และหนัก 1 กิโลกรัม ซึ่งเล็กที่สุดและเบาที่สุดในอุตสาหกรรม ช่วยให้ปรับใช้ได้อย่างยืดหยุ่นและง่ายดายในทุกสถานการณ์ แม้จะมีขนาดเล็ก แต่กล่องแลมป์ไซต์ เอ็กซ์ ก็มีพลังมหาศาล กล่องเดียวรองรับได้ทุกแบนด์ ทั้งยังรองรับเทคโนโลยีการเข้าถึงสัญญาณวิทยุ (RAT) ได้ทั้งหมด และย่านความถี่กว้างทั้งหมด ช่วยให้เครือข่ายมีสมรรถนะสูงเป็นพิเศษ ความสามารถหลากหลายเป็นพิเศษ และใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษ
แลมป์ไซต์ เอ็กซ์ เป็นผลิตภัณฑ์เดียวในอุตสาหกรรม ที่รวม mmWave และ sub-6 GHz เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ทรูพุตสูงสุดที่มากกว่า 10 Gbps และเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่นำ 5.5G ระดับ 10 Gbps มาใช้ในอาคารด้วย ผลิตภัณฑ์นี้ใช้เทคโนโลยี Massive MIMO แบบกระจายอันเป็นเอกลักษณ์ของหัวเว่ย เพื่อให้ได้ประสบการณ์ระดับ 10 Gbps กับยูสเซอร์เดียวทุกที่ และมอบประสบการณ์ระดับ 10 Gbps กับผู้ใช้หลายคนให้ทุกคน
เพื่อให้ตอบสนองความต้องการในการเชื่อมต่อของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แลมป์ไซต์ เอ็กซ์ จึงมาพร้อมความสามารถที่หลากหลาย รวมถึงอัปลิงก์สูงเป็นพิเศษในระดับ 10 Gbps การวางตำแหน่งที่มีความแม่นยำสูงจนถึงระดับ sub-meter เวลาแฝงต่ำในหลักมิลลิวินาที และ IoT แลมป์ไซต์ เอ็กซ์ ใช้โซลูชัน "0 บิต 0 วัตต์" อันเป็นเอกลักษณ์ของหัวเว่ย เพื่อปรับกำลังไฟตามบริการ พักตัวในช่วงนอกเวลาพีคโดยใช้กำลังไฟน้อยกว่า 1 วัตต์ และเปิดระบบตามความต้องการได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ฟีเจอร์ประหยัดพลังงานแบบไดนามิกตลอดเวลานี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ถึงขีดสุด
แลมป์ไซต์ เอ็กซ์ เพิ่มรูปแบบการใช้งานสำหรับผู้บริโภคและอุตสาหกรรม
แลมป์ไซต์ เอ็กซ์ ยกระดับขีดความสามารถดิจิทัลภายในอาคารอย่างครอบคลุม เพื่อนำ 5.5G ไปใช้ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์สำหรับผู้บริโภค และเชื่อมต่อสถานการณ์การใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ในกรณี toC นั้น ขีดความสามารถใหม่ ๆ ของแลมป์ไซต์ เอ็กซ์ จะเข้ามายกระดับประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคและโมเดลธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ที่ย่านธุรกิจความเร็ว 10 Gbps ของฮ่องกง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฮ่องกง เทเลคอม (Hong Kong Telecom) นั้น ความสามารถเหล่านี้ช่วยเพิ่มการรับส่งข้อมูลได้มากกว่า 20% ก่อให้เกิดโมเดลธุรกิจ toB และ toC ใหม่ ๆ ซึ่งผลักดันให้ผู้ให้บริการเปลี่ยนจากการให้บริการความสามารถด้านเครือข่ายไปเป็นการให้บริการแบบครบวงจร
ในกรณี toB นั้น ขีดความสามารถทางดิจิทัลแบบหลายมิติของแลมป์ไซต์ เอ็กซ์ ภายในอาคาร จะเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโรงงานที่เชื่อมต่อกันอย่างเต็มรูปแบบ ตัวอย่างเช่น ที่โรงงานอัจฉริยะของไมเดีย (Midea) ความสามารถเหล่านี้จะปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการต่าง ๆ ครอบคลุมทั้งการผลิต การตรวจสอบคุณภาพ โลจิสติกส์ และคลังสินค้า จนถึงจุดที่ผลิตผลิตภัณฑ์ได้ในเวลาเพียง 7 วินาที ซึ่งลดเวลาในการผลิตลงได้ถึงครึ่งหนึ่ง
คุณหยางกล่าวปิดท้ายว่า "แลมป์ไซต์ เอ็กซ์ เปิดโอกาสทางดิจิทัลใหม่ ๆ มากมายให้กับเรา เราควรคว้าโอกาสเหล่านี้เพื่อก้าวไปให้ไกลกว่านอกอาคาร และอัปเกรดระบบดิจิทัลภายในอาคารเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ ในขณะที่พวกเขาพัฒนาแอปพลิเคชันทางธุรกิจและก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลสมัยใหม่"
การประชุมโกลบอล โมบายล์ บรอดแบนด์ ประจำปี 2566 หัวข้อ "Bring 5.5G into Reality" จัดขึ้นโดยหัวเว่ย ร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมอย่างสมาคมจีเอสเอ็ม, จีทีไอ (GTI) และสภาโทรคมนาคมซามีนา (SAMENA) การประชุมประจำปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 10 และ 11 ตุลาคม ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยรวบรวมผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ผู้นำอุตสาหกรรมแนวดิ่ง และพันธมิตรระบบนิเวศจากทั่วโลก เพื่อเจาะลึกเรื่องราวความสำเร็จของการใช้ 5G ในเชิงพาณิชย์ และเร่งพัฒนาการใช้งาน 5.5G ในเชิงพาณิชย์ด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.huawei.com/en/events/mbbf2023