ปักกิ่ง--17 พฤศจิกายน 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา แฮร์รี มอยเยอร์ (Harry Moyer) นักบินทหารผ่านศึกชาวอเมริกัน ซึ่งมีอายุครบ 103 ปี ได้เดินทางมายังประเทศจีนเพื่อปีนกำแพงเมืองจีนในกรุงปักกิ่ง
คุณมอยเยอร์เดินทางมายังประเทศจีนพร้อมคณะประมาณ 30 คน ซึ่งประกอบด้วยครอบครัวของทหารผ่านศึกกลุ่มฟลายอิง ไทเกอร์ส (Flying Tigers) หลังจากแปดทศวรรษที่แล้ว เขาได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญเคียงบ่าเคียงไหล่กับชาวจีน ในการต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
"สำหรับผม จิตวิญญาณของฟลายอิง ไทเกอร์ส คือมิตรภาพ" แจ็กสัน ลอง (Jackson Long) สมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของคณะ และเป็นเหลนของ คลิฟฟอร์ด อาร์. ลอง ซีเนียร์ (Clifford R. Long Sr.) ทหารผ่านศึกกลุ่มฟลายอิง ไทเกอร์ส กล่าว
"พอกลับถึงบ้านผมจะเล่าให้เพื่อนฟังเรื่องทริปที่จีน ผมจะเอารูปถ่ายให้เพื่อนดู" เด็กหนุ่มวัย 15 ปีกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและตื่นเต้นเป็นพิเศษที่ได้มาเยือนกำแพงเมืองจีน
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับ ณ นครซานฟรานซิสโกว่า เรื่องราวของฟลายอิง ไทเกอร์ส พิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพระหว่างชาวจีนและชาวอเมริกันที่ผ่านการทดสอบด้วยเลือดเนื้อและไกปืน จะถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ประชาชนคือความหวังในการสานสัมพันธ์จีน-อเมริกา
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า อนาคตของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาขึ้นอยู่กับประชาชนของทั้งสองประเทศ พร้อมกับเรียกร้องให้มีการสร้างสะพานและปูทางเพิ่มเติมเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อไป
ผู้นำจีนกล่าวว่า จีนและสหรัฐอเมริกาจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศ การจัดการเจรจาระดับสูงด้านการท่องเที่ยว และการปรับปรุงขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า เป็นต้น
"เราหวังว่าประชาชนของทั้งสองประเทศจะเดินทางไปมาหาสู่ ติดต่อ และแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น พร้อมกับบันทึกเรื่องราวมิตรภาพใหม่ ๆ ในยุคใหม่" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าว
ในปีนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ต้อนรับแขกจากสหรัฐอเมริกาหลายคน ซึ่งรวมถึง เฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ บิล เกตส์ ประธานร่วมของมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ ทั้งนี้ เขาได้เน้นย้ำว่าความหวังในการสานสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาขึ้นอยู่กับประชาชน รากฐานของความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับสังคม อนาคตของความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ และความมีชีวิตชีวาของความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนในประเทศ
งานเลี้ยงอาหารค่ำดังกล่าวมีแขกเข้าร่วมงานประมาณ 400 คน ในจำนวนนี้คือ ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิ้ล และ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา
นักธุรกิจใหญ่ทั้งสองคนได้เดินทางเยือนประเทศจีนในปีนี้เช่นกัน โดยในระหว่างการพบกับ หวัง เหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน เมื่อเดือนพฤษภาคม อีลอน มัสก์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนไม่ใช่เกมที่ต้องมีแพ้-ชนะ อีกทั้งยังแสดงความเชื่อมั่นในตลาดจีน และแสดงความเต็มใจที่จะกระชับความร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
"ผมยินดีต้อนรับผู้ว่าการ สมาชิกรัฐสภา ตลอดจนประชาชนชาวอเมริกันจากทุกสาขาอาชีพให้มาเยือนจีนกันมากขึ้น" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวเมื่อวันพุธ
"เพื่อยกระดับการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่" พร้อมกันนี้ เขาประกาศว่าจีนพร้อมที่จะเชิญเยาวชนชาวอเมริกัน 50,000 คนมายังจีนเพื่อเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนและการศึกษาตลอด 5 ปีข้างหน้า
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า จีนพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนและมิตรของสหรัฐอเมริกา
โอกาสมากมายในการสร้างความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า ความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ทั้งสองฝ่ายคือเนื้อแท้ของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่าทั้งสองประเทศมีโอกาสมากมายสำหรับความร่วมมือ และสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ประสบความสำเร็จและบรรลุผลลัพธ์ที่เอื้อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
ผู้นำจีนกล่าวว่า ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ตลอดจนข้อริเริ่มด้านการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative) ข้อริเริ่มด้านความมั่นคงระดับโลก (Global Security Initiative) และข้อริเริ่มด้านอารยธรรมระดับโลก (Global Civilization Initiative) ที่นำเสนอโดยจีนนั้น เปิดกว้างตลอดเวลาสำหรับทุกประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน
ในระหว่างการพบกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าวันพุธ ผู้นำของทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะจัดตั้งคณะทำงานด้านการปราบปรามยาเสพติด เพื่อพัฒนาความร่วมมือและช่วยเหลือสหรัฐอเมริกาในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนรู้สึกเห็นอกเห็นใจชาวอเมริกัน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากปัญหายาเสพติด
นอกจากนี้ ประมุขแห่งรัฐทั้งสองยังได้บรรลุฉันทามติที่สำคัญในการขยายการแลกเปลี่ยนระดับทวิภาคีทั้งในด้านการศึกษา นักเรียน เยาวชน วัฒนธรรม กีฬา รวมถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างชุมชนธุรกิจต่าง ๆ
"ภารกิจที่ยิ่งใหญ่จะประสบผลสำเร็จได้นั้น ต้องมีการหยั่งรากลึกลงในใจประชาชน ได้รับพลังสนับสนุนจากประชาชน และบรรลุผลสำเร็จโดยประชาชน ซึ่งการสานสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาก็เป็นหนึ่งในภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำ