ไถ่หลิงเปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่โซเดียมไอออนอันล้ำหน้าในประเทศจีน

ปักกิ่ง, 18 ธ.ค. 2566/พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ไถ่หลิง (TAILG) ผู้นำระดับโลกด้านรถสองล้อไฟฟ้า ได้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่โซเดียมไอออนใหม่ล่าสุดที่บริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้น นับเป็นการเปิดยุคใหม่ของรถสองล้อไฟฟ้า เทคโนโลยีนี้ช่วยให้รถวิ่งได้ไกลเป็นพิเศษ พร้อมขยายเวลารับประกัน ทนทานต่ออุณหภูมิต่ำได้เหนือกว่า ทั้งยังปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม โดยจักรยานไฟฟ้าสุดหรูของไถ่หลิงจะนำแบตเตอรี่โซเดียมไอออนใหม่นี้มาใช้เป็นกลุ่มแรก และจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนก่อนในช่วงแรก

รถสองล้อไฟฟ้ารุ่นแรกของไถ่หลิงที่นำเทคโนโลยีแบตเตอรี่โซเดียมไอออนมาใช้ พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ว

ปัจจุบัน ตลาดรถสองล้อไฟฟ้าทั่วโลกนั้นเติบโตในอัตราปีละกว่า 20% แม้จะมีความก้าวหน้าเช่นนี้ แต่ความกังวลเรื่องระยะทางขับยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมนี้ไม่เติบโตเท่าที่ควร

โซลูชันแบตเตอรี่โซเดียมไอออนของไถ่หลิง ซึ่งเปิดตัวให้ทั่วโลกได้เห็นกันแล้วที่งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเบาของจีน (ปักกิ่ง) ถือเป็นหลักชัยสำคัญในภาคส่วนรถสองล้อ ซึ่งถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของแบตเตอรี่โซเดียมไอออน แบตเตอรี่โซเดียมไอออนตัวแรกของไถ่หลิงนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของไถ่หลิงในด้านโซลูชันระยะวิ่งไกลด้วย

คุณซุน มู่ชู (Sun Muchu) ประธานบริหารของไถ่หลิง กรุ๊ป ได้ชูจุดแข็งของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ว่านี้ไว้ 4 ข้อด้วยกัน ดังนี้

• แบตเตอรี่ช่วยให้มีระยะทางวิ่งได้ไกลเป็นพิเศษ โดยวิ่งได้ไกลถึง 115 กิโลเมตร แม้ในอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส เมื่อรักษาความเร็วไว้ที่ 25 กม./ชม.
• อายุการใช้งานเกิน 2,000 รอบ นานกว่าแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดที่ใช้กันทั่วไปถึง 5-7 เท่า
• แบตเตอรี่รักษาความจุไว้ได้ประมาณ 93% แม้ในอุณหภูมิเย็นจัดถึง -20 องศาเซลเซียส จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในฤดูหนาว
• นอกจากนี้ สมรรถนะด้านความปลอดภัยของแบตเตอรี่ยังสูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม ด้วยเทคโนโลยีกันน้ำระดับ IPX7 ที่ครอบคลุมทั้งชุด

ไถ่หลิงเตรียมนำแบตเตอรี่โซเดียมไอออนมาใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์จักรยานไฟฟ้าสุดหรูสำหรับตลาดผู้บริโภคระดับกลางถึงพรีเมียม

ไถ่หลิงเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมที่เปิดตัวรถสองล้อไฟฟ้าที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่โซเดียมไอออน โดยหวังที่จะใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบในการเป็นผู้บุกเบิก เพื่อสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ กลยุทธ์ที่ว่านี้จะมุ่งพัฒนาระบบนิเวศที่ครอบคลุมทั้งการวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ และการตลาด เพื่อให้ไถ่หลิงมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันอย่างเป็นระบบในตลาดแบตเตอรี่โซเดียมไอออน

ขึ้นแท่นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันระยะวิ่งไกล

เนื่องในโอกาสที่ไถ่หลิงครบรอบ 20 ปี ทางคณะกรรมการของบริษัทได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า พร้อมยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ในวันข้างหน้า นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการยังได้ประกาศความตั้งใจที่จะขยายการเข้าถึงทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับความทะเยอทะยานของบริษัทฯ ที่จะก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก

คุณเฉิน หยิงเซิง (Chen Yingsheng) รองประธานและประธานกลุ่มธุรกิจต่างประเทศของไถ่หลิง ได้ประกาศตั้งทีมปฏิบัติการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการทำธุรกิจโดยปรับให้เข้ากับท้องถิ่น ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างมาตรฐานระดับโลก โดยไถ่หลิงมีชื่อเสียงอยู่แล้วในด้านศูนย์วิจัย พัฒนา และออกแบบระดับโลก ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ และเสริมสร้างสมรรถนะ ไถ่หลิงหวังใช้ประโยชน์จากศักยภาพในการผลิตและซัพพลายเชนที่แข็งแกร่งของกลุ่ม และได้ฝากผลงานในด้านการผลิตอัจฉริยะไว้ในระดับสากล

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ไถ่หลิงได้รับเลือกจากบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การเติบโตที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน (Frost & Sullivan) ให้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกระดับโลกด้านรถสองล้อไฟฟ้าระยะวิ่งไกล หลังจากที่ไถ่หลิงได้รับการรับรองตามมาตรฐานรถไฟฟ้าระยะไกลของจีนเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยไถ่หลิงได้รับการรับรองว่าวิ่งได้ไกลถึง 100 กม. โดยใช้ไฟฟ้าเพียง 1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ความสำเร็จนี้ทำให้ ไถ่หลิงเป็นแบบอย่างอันดีของอุตสาหกรรม โดยเป็นหัวหอกในการนำมาตรฐานนวัตกรรมมาใช้และดำเนินการ

ไถ่หลิงเป็นผู้นำระดับโลกในด้านรถสองล้อไฟฟ้าระยะวิ่งไกล โดยอยู่ในแนวหน้าของโซลูชันการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่ยั่งยืน ไถ่หลิงยังได้ร่วมมือกับโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังในโครงการยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก นอกจากนี้ ไถ่หลิงยังเป็นซัพพลายเออร์รถสองล้อไฟฟ้าแต่เพียงผู้เดียวให้กับสหประชาชาติ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในระดับสากล

ไถ่หลิงได้เข้ามาปรับปรุงเทคโนโลยีระยะวิ่งไกลอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขีดความสามารถจากเดิม 50 กม. เป็น 75 กม. และในรอบล่าสุดนี้ก็ดันได้ถึง 100 กม. ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง โดยความก้าวหน้าเช่นนี้ถือเป็นการพาบริษัทฯ ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของรถสองล้อไฟฟ้าระยะวิ่งไกล