สิงคโปร์--7 มีนาคม 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
ฟลายอบิลิตี้ (Flyability) ผู้นำด้านโดรนตรวจสอบในพื้นที่อับอากาศ ได้เปิดตัวอุปกรณ์วัดความหนาแบบอัลตราโซนิค (UTM) ที่มีความล้ำหน้า สำหรับโดรนเอลิออส 3 (Elios 3) ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ ในเมืองโพเด็กซ์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โซลูชันอันล้ำสมัยนี้พัฒนาขึ้นด้วยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบโดยวิธีคลื่นเสียงความถี่สูง (UT) อย่างซิกนัส อินสตรูเมนต์ส (Cygnus Instruments) ช่วยให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วเอเชียแปซิฟิกตรวจสอบความหนาของเหล็กกล้าในสภาพแวดล้อมที่เข้าถึงยากหรืออันตรายรวมถึงพื้นที่อับอากาศต่าง ๆ เช่น ตัวเรือและถังเก็บ ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีทดสอบด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
"นับตั้งแต่โครงการแรก ๆ ที่เราทำร่วมกับลูกค้าในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ การเดินเรือ และเคมีนั้น ความสามารถในการวัดด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงเพิ่มเติมจากการตรวจสอบด้วยสายตา ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ถูกร้องขอมากเป็นอันดับต้น ๆ" แพททริก เตโว (Patrick Thévoz) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งฟลายอบิลิตี้ กล่าว "อุปกรณ์วัดความหนาแบบอัลตราโซนิคสำหรับโดรนชั้นนำในอุตสาหกรรมของเราอย่างเอลิออส 3 นี้ ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการมอบโซลูชันที่ล้ำหน้าเช่นนี้ให้กับลูกค้าของเรา เรามั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงและคำนึงถึงความปลอดภัยได้"
ตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่า 3.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 และคาดว่าจะแตะหลัก 4.102 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐได้ภายในปี 2573 โดยที่หุ่นยนต์ตรวจสอบคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ได้ปีละ 20% อุตสาหกรรมการต่อเรือ น้ำมันและก๊าซ และการผลิตไฟฟ้า ต่างต้องการโซลูชันตรวจสอบในพื้นที่อับอากาศ นอกจากนี้ กฎระเบียบด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ประกอบกับความต้องการลดเวลาเครื่องหยุดทำงานและต้นทุน ยังผลักดันให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมหันมาให้ความสำคัญกับแนวปฏิบัติในการตรวจสอบอย่างปลอดภัยด้วย
โดรนเอลิออส 3 พร้อมด้วยอุปกรณ์วัดความหนาแบบอัลตราโซนิคโฉมใหม่นี้ ช่วยให้ตรวจสอบผนังเหล็กได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และแม่นยำ โดยระบบวัดความหนาแบบอัลตราโซนิคนี้ใช้การส่งผ่านคลื่นเสียงความถี่สูง เพื่อให้วัดความหนาในตำแหน่งที่ท้าทายได้อย่างแม่นยำ นำไปใช้ตรวจวัดในพื้นที่ซับซ้อนและแคบได้อย่างง่ายดาย ทำให้ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเข้าไปในพื้นที่อับอากาศ ทั้งยังลดต้นทุนและระยะเวลาดำเนินการได้อย่างมาก อุปกรณ์ทดสอบด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเอ-สแกน (A-scan) นี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้วัดความหนาบนโครงสร้างต่าง ๆ เช่น ตัวเรือ ถัง และท่อ ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยให้เข้าถึงตำแหน่งในการวัดความหนา (TML) ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น ในขณะที่เอลิออส 3 เข้ามาทำหน้าที่ในพื้นที่อับอากาศหรือพื้นที่สูง เพื่อช่วยเร่งการสำรวจความหนาของผนังและการกัดกร่อนต่าง ๆ
ระบบนี้มีแขนอัจฉริยะพร้อมหัววัดแบบอัลตราโซนิคและตัวชี้เลเซอร์เพื่อให้กำหนดเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังมีตัวเลือกในการติดตั้งที่ปรับเปลี่ยนได้ ส่วนระบบแขนก็ปรับโครงแบบได้ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ได้ความคล่องตัวในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน นอกจากนี้ ยังมีเครื่องจ่ายสารนำคลื่น (couplant) ที่ควบคุมจากระยะไกล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งผ่านคลื่นเสียงความถี่สูงให้อ่านค่าได้อย่างน่าเชื่อถือ โดยการวัดแต่ละครั้งสามารถติดแท็กบนแฝดดิจิทัลของสินทรัพย์นั้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการวิเคราะห์ได้ เอลิออส 3 ยังมีโมดูลเตรียมพื้นผิวให้เลือกเสริม เพื่อให้ได้สภาวะในการทดสอบที่เหมาะสมที่สุด
อุปกรณ์นี้เป็นอุปกรณ์หน่วยที่สามสำหรับโดรนเอลิออส 3 ช่วยให้นำโดรนเอลิออสไปใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะในการทำแผนที่ สำรวจ และการทดสอบแบบไม่ทำลาย (NDT) โดยแสดงภาพข้อมูลแบบเรียลไทม์และปรับได้แบบแมนนวล เพื่อให้วัดความหนาบนโครงสร้างเหล็กได้แม่นยำ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการตรวจสอบจะมีคุณภาพมากที่สุด ทั้งยังปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด รวมถึงมาตรฐาน ISO 16809 เพื่อให้วัดความหนาได้อย่างแม่นยำ มีคุณภาพ และน่าเชื่อถือมากที่สุด
ลูลู่ คอสเวท-อายร์ (Lulu Costhwaite-Eyre) กรรมการผู้จัดการของซิกนัส อินสตรูเมนต์ส กล่าวว่า "บทบาทของซิกนัสในตลาดขนส่งรวมถึงตลาดน้ำมันและก๊าซตลอดหลายปีที่ผ่านมา เปิดโอกาสให้เราเข้าใจความต้องการของลูกค้า โดยความต้องการในการใช้โดรนตรวจสอบนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซิกนัสสังเกตเห็นว่า การนำระบบทดสอบโดยวิธีคลื่นเสียงความถี่สูงมาใช้ในอากาศยานไร้คนขับนั้นได้กลายเป็นการแข่งขันทางเทคโนโลยีไปแล้ว เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับฟลายอบิลิตี้ในด้านอุปกรณ์วัดความหนาแบบอัลตราโซนิคสำหรับเอลิออส 3 ซึ่งความสามารถด้านวิศวกรรมที่ฟลายอบิลิตี้สั่งสมมายาวนาน ประกอบกับการทดสอบภาคสนามที่ครอบคลุม และการตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวด จะช่วยให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดำเนินการทดสอบแบบไม่ทำลายได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น"
สัมผัสอนาคตการทำงานของโดรนพร้อมด้วยอุปกรณ์วัดความหนาแบบอัลตราโซนิคบนเอลิออส 3 ซึ่งจัดแสดงและสาธิตการทำงานที่บูธของฟลายอบิลิตี้ ในงานเอเชีย แปซิฟิก มาริไทม์ (Asia Pacific Maritime) ประจำปี 2567 ที่ประเทศสิงคโปร์ วันที่ 13-14 มีนาคม 2567 บูธ C-E42 และในงานซี เจแปน (SEA Japan) ประจำปี 2567 วันที่ 10-12 เมษายน 2567 บูธ 1A-12
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
เกี่ยวกับฟลายอบิลิตี้
ฟลายอบิลิตี้ (Flyability) เป็นผู้ผลิตโดรนสัญชาติสวิสที่มีเป้าหมายหนึ่งเดียว ในการทำให้มนุษย์ไม่ต้องทำงานอันตรายอีกต่อไป โดรนของฟลายอบิลิตี้สร้างขึ้นเพื่อใช้งานภายในอาคาร พื้นที่ซับซ้อนและพื้นที่อับอากาศ โดรนรุ่นล่าสุดของฟลายอบิลิตี้อย่างเอลิออส 3 (Elios 3) ได้เปิดตัวไปเมื่อปี 2566 โดยมาพร้อมอุปกรณ์ 2 รายการด้วยกัน ได้แก่ อุปกรณ์ตรวจจับรังสี และอุปกรณ์ LiDAR สำหรับการสำรวจ ทั้งนี้ ฟลายอบิลิตี้มีสำนักงานใหญ่ในเมืองโพเด็กซ์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีสำนักงานสาขาในจีน สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: media@flyability.com
เกี่ยวกับซิกนัส อินสตรูเมนต์ส
ซิกนัส (Cygnus) ก่อตั้งขึ้นในปี 2526 โดยเป็นผู้พัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทดสอบส่วนท้องเรือแบบไม่ทำลาย (NDT) ซิกนัสมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร และสำนักงานสาขาในสิงคโปร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีความเชี่ยวชาญในการผลิตอุปกรณ์ทดสอบโดยวิธีคลื่นเสียงความถี่สูง (UT) ที่แข็งแกร่งและใช้งานง่ายสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งนอกเหนือจากอุปกรณ์วัดความหนาแบบอัลตราโซนิคครบวงจรแล้ว ซิกนัสยังผลิตเครื่องตรวจจับการรั่วไหลที่ส่วนครอบปากระวางโดยวิธีคลื่นเสียงความถี่สูง และระบบตรวจจับองค์ประกอบที่ถูกน้ำท่วม (FMD) ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ช่วยให้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการตรวจวัดทั้งเหนือและใต้ผืนน้ำได้อย่างน่าเชื่อถือ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: sales@cygnus-instruments.com