ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 16 ต.ค. 2567/PRNewswire/ -- เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา Li Peng รองประธานอาวุโสฝ่ายองค์กรและประธานฝ่ายขายและบริการไอซีทีของหัวเว่ย ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงาน Huawei GITEX 2024 (2567) ภายใต้หัวข้อ "ก้าวหน้าด้วยกันในยุคอัจฉริยะ" ("Thriving Together in the Intelligent Era")
เศรษฐกิจดิจิทัลกำลังพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจอัจฉริยะ และจะกลายเป็นเครื่องยนต์หลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับโลกในไม่ช้า
ขณะนี้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างขีดความสามารถที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จในยุคใหม่นี้
Li Peng, Corporate Senior Vice President, President of ICT Sales & Service, Huawei
หลายองค์กรกำลังยกระดับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลไปอีกขั้น โดยเจาะลึกลงไปในสถานการณ์การผลิต และมองหาด้านที่เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถมอบคุณค่ามากขึ้นได้แม้แต่ในอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม
ยกตัวอย่างเช่น การผลิต ความสามารถในการเชื่อมต่อเต็มรูปแบบและแพลตฟอร์ม IoT เชิงอุตสาหกรรมช่วยให้ผู้ผลิตเก็บข้อมูลได้มากกว่าที่เคย และปูทางไปสู่ความอัจฉริยะแบบเรียลไทม์
การเปลี่ยนแปลงอัจฉริยะกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว หลายต่อหลายองค์กรกำลังใช้ AI เพื่อเพิ่มผลิตภาพและลดต้นทุนการดำเนินงาน เป็นการเปิดประตูสู่รูปแบบธุรกิจที่สร้างสรรค์มากขึ้นและประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น
ตัวอย่างเช่น ธนาคารกำลังใช้โมเดล AI ขนาดใหญ่เพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ซับซ้อนได้ภายในไม่กี่วินาที จึงทำให้ธนาคารสามารถทำการตลาดที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นและปล่อยสินเชื่อได้รวดเร็วขึ้น ธนาคารกำลังสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าและผลักดันการเติบโตรูปแบบใหม่
เมื่อเศรษฐกิจโลกพัฒนาไป การเข้าสู่ระบบดิจิทัลและอัจฉริยะคือหนทางไปต่อที่ชัดเจน และเป็นทางที่ดีที่สุดในการรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน
แต่เรื่องนี้พูดง่ายทำยาก องค์กร อุตสาหกรรม และภูมิภาคต่าง ๆ ล้วนอยู่ในขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน แล้วเราจะช่วยให้เขาสร้างขีดความสามารถที่ใช่ในแบบที่เหมาะสมที่สุดได้อย่างไร
นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะพูดคุยในวันนี้ ผมจะเล่าเกี่ยวกับงานที่หัวเว่ยกำลังทำเพื่อช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จ วิธีที่เราสนับสนุนพันธมิตรท้องถิ่น และการสร้างระบบนิเวศของบุคลากรด้านดิจิทัล
ที่หัวเว่ย เราผสานจุดแข็งด้านเครือข่าย การจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล คลาวด์ และพลังงาน เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอัจฉริยะใหม่ ๆ
เราให้บริการร่วมกับพันธมิตรแก่ลูกค้าชั้นนำในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ภาครัฐ การเงิน ไฟฟ้า การขนส่ง การผลิต น้ำมันและก๊าซ การทำเหมืองแร่ และอินเทอร์เน็ต
เราเจาะลึกสถานการณ์ทางธุรกิจของลูกค้า และค้นหาโซลูชันที่ดีที่สุดเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอัจฉริยะ ไม่ว่าจะอยู่จุดไหนในการเดินทางทางดิจิทัล เราก็สามารถร่วมมือกันเพื่อช่วยให้ทุกคนประสบความสำเร็จได้
ปีที่แล้วหัวเว่ยได้ประกาศกลยุทธ์ All Intelligence เรายังได้เปิดตัวสถาปัตยกรรมอ้างอิงเพื่อการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอย่างอัจฉริยะอีกด้วย โดยสถาปัตยกรรมดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือที่เปิดกว้าง คล่องตัว และเชื่อถือได้ และสามารถช่วยนำทางกระบวนการเปลี่ยนแปลงได้
ในทางปฏิบัติ สถาปัตยกรรมนี้เห็นผลแล้ว ในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้ใช้สถาปัตยกรรมดังกล่าวในการพัฒนาโซลูชันเฉพาะอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ เรายังได้เผยแพร่กรณีศึกษากว่า 100 กรณีให้กับองค์กรต่าง ๆ นำไปใช้ระหว่างกระบวนการเปลี่ยนแปลง
มีเรื่องราวความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อยู่มากมายเต็มไปหมด!
ตัวอย่างหนึ่งอยู่ในประเทศโกตดิวัวร์ เราช่วยให้กระทรวงคมนาคมของประเทศนี้สร้างแพลตฟอร์มวิเคราะห์การจราจรโดยใช้ระบบขนส่งอัจฉริยะของเรา ส่งผลให้ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยบนท้องถนนลดลงและการจราจรคล่องตัวขึ้นมากกว่า 10%
นอกจากนี้ โซลูชัน "One Cloud, One Network" ของหัวเว่ยยังช่วยให้ 33 ประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาสร้างความสามารถในการเชื่อมต่อที่เท่าเทียม ครอบคลุมหน่วยงานรัฐบาลมากกว่า 1,000 แห่ง ทั้งประสิทธิภาพและความพึงพอใจในการให้บริการดีขึ้นอย่างชัดเจน
นี่เป็นเพียงตัวอย่างความสำเร็จบางส่วนที่เราทำร่วมกัน
และทั้งหมดนี้จะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีพันธมิตรของเรา สิ่งที่พวกเขาทำมีความสำคัญ และเราอยากช่วยให้พันธมิตรเติบโตไปพร้อมกับการร่วมมือกันช่วยให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จ
ที่หัวเว่ย เรามุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศพันธมิตรที่เปิดกว้าง แข็งแกร่ง และเป็นประโยชน์ร่วมกัน ความร่วมมือของเราเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดองค์กร ปัจจุบัน มีพันธมิตรมากกว่า 47,000 รายเข้าจับมือกับเรา โดยในปีนี้ปีเดียว ความร่วมมือเติบโตขึ้นมากกว่า 18%
นอกจากนี้ เรายังได้สร้าง OpenLabs 14 แห่งทั่วโลกเพื่อรองรับนวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรด้านโซลูชันในท้องถิ่น ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เราได้พัฒนาโซลูชันมากกว่า 20 รายการร่วมกับพันธมิตรด้านโซลูชันกว่า 30 รายเพื่อตอบโจทย์ของอุตสาหกรรมในประเทศ
เราไม่ได้ทำงานร่วมกับองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น ยังมี SME จำนวนมากที่ต้องการก้าวสู่ระบบดิจิทัลอัจฉริยะเช่นกัน และเรากำลังทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราให้บริการแก่ SME เหล่านั้นได้อย่างเป็นอิสระ สะดวก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เราจัดหาโซลูชันที่ใช้งานง่ายตามสถานการณ์ผลิตภัณฑ์ที่วางตลาดได้มากขึ้น และแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพให้กับพันธมิตร นอกจากนี้ เรายังให้การสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนา การขาย การตลาด การจัดหา และการบริการ ช่วยให้พันธมิตรของเราสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างครบวงจร
เรายังช่วยให้พันธมิตรพัฒนารูปแบบธุรกิจและการให้บริการของตนด้วย ตัวอย่างเช่น หัวเว่ยและ BCX ได้สร้างแพลตฟอร์มการจัดการระบบคลาวด์เพื่อให้บริการแก่ SME มากกว่า 100 ราย รูปแบบคลาวด์ที่ยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ SME เช่าหรือซื้อบริการเครือข่าย ช่วยแก้ปัญหาด้าน O&M (การดำเนินงานและซ่อมบำรุง) และลด CAPEX (รายจ่ายด้านทุน) ได้มากกว่า 20%
ในด้านการบริการ เรากำลังพยายามร่วมกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านบริการในท้องถิ่น
Mastery House เป็นหนึ่งในพันธมิตรด้านบริการของเราในซาอุดีอาระเบีย ในช่วงแปดปีที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นถึง 16 เท่า และรายได้มากกว่า 90% มาจากโครงการร่วมกับหัวเว่ย
ด้วยการทำงานร่วมกัน Mastery House ไม่เพียงแต่ทำรายได้เติบโตอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังสร้างศักยภาพในการเป็นผู้ให้บริการไอซีทีชั้นนำในซาอุดีอาระเบียอีกด้วย
แน่นอนว่าไม่สามารถก้าวสู่ดิจิทัลหรือความอัจฉริยะได้หากไม่มีบุคลากรที่มีความรู้และทักษะที่เหมาะสม เราจึงพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยสร้างบุคลากรด้านดิจิทัลในท้องถิ่น โดยเราได้เปิดสถาบัน ICT Academies ขึ้นหลายแห่งร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วโลกเพื่อรองรับชุมชนในท้องถิ่น
สถาบันเหล่านี้ได้ฝึกอบรมวิศวกรไอซีทีแล้วมากกว่า 36,000 คนและนักพัฒนา 1,000 คนในอียิปต์ ในซาอุดีอาระเบีย นักศึกษากว่า 32,000 คนได้รับการฝึกอบรมด้านไอซีที และผู้เชี่ยวชาญ 6,500 คนได้รับการรับรองด้านไอซีทีจากหัวเว่ย
ในอนาคต เราจะยังคงใช้ผลประโยชน์เป็นสะพาน ความซื่อสัตย์เป็นรากฐาน และกฎเกณฑ์เป็นหลักประกันในการทำงานร่วมกับพันธมิตร การทำงานร่วมกันจะทำให้เราสามารถพัฒนาโซลูชันที่ตรงเป้าหมายและปรับขนาดได้มากขึ้น และผลักดันความสำเร็จในตลาดโลก
การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและอัจฉริยะไม่ควรเป็นสิทธิพิเศษสำหรับคนเพียงหยิบมือ แต่ควรเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน
หัวเว่ยพร้อมและยินดีที่จะร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรมากขึ้น หากร่วมมือกัน เราจะสามารถทำได้มากขึ้น สร้างได้มากขึ้น และใช้โอกาสอันยิ่งใหญ่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้
