อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 15 มกราคม 2568 /PRNewswire/ -- ในพิธีเปิดงาน Abu Dhabi Sustainability Week 2025 และพิธีมอบรางวัล Zayed Sustainability Prize ฯพณฯ ดร. Sultan Al Jaber รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประธานบริษัท Masdar ได้เรียกร้องแนวทางใหม่ในการปลดล็อกการเติบโต ขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยมีมาก่อน ฯพณฯ ดร. Sultan Al Jaber ได้กล่าวในงานระดับนานาชาติครั้งสำคัญครั้งแรกของปี 2568 นี้ว่า โลกกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญของความก้าวหน้า ซึ่งขับเคลื่อนโดยเทรนด์ระดับโลก ได้แก่การเติบโตของตลาดเกิดใหม่ การเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของปัญญาประดิษฐ์ และการเปลี่ยนแปลงของระบบพลังงาน แนวโน้มเหล่านี้จะต้องอาศัยแหล่งพลังงานที่หลากหลายเพื่อเสริมสร้างความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
ฯพณฯ ดร. Al Jaber ได้ขึ้นกล่าวต่อ His Highness Sheikh Mohamed bin Zayed Al Nahyan ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมผู้เข้าร่วมงานซึ่งประกอบด้วยผู้นำประเทศ 13 ท่าน และรัฐมนตรีรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลกว่า 140 ท่าน โดยได้เน้นย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่เต็มไปด้วยความสำเร็จระดับโลกและนวัตกรรมสำคัญในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานนิวเคลียร์ และปัญญาประดิษฐ์ โดยทั้งหมดนี้สำเร็จได้ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้นำแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมรดกตกทอดอันล้ำค่าจาก Shiekh Zayed Al Nahyan บิดาผู้ก่อตั้งประเทศ
โลกกำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญ
"ขณะที่เราก้าวเข้าสู่ไตรมาสที่สองของศตวรรษที่ 21 เราได้พบว่าตนเองอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ เรากำลังยืนอยู่ระหว่างสองโลก นั่นคือโลกตามที่เรารู้จัก และโลกที่เป็นไปได้ นี่คือช่วงเวลาที่ผมอยากเรียกว่า 'จุดเปลี่ยนแห่งอนาคต'" ฯพณฯ ดร. Al Jaber กล่าว
เขาเน้นย้ำว่าโลกกำลังอยู่ในจุดหักเหที่ได้รับการขับเคลื่อนจากสามปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การเติบโตของตลาดเกิดใหม่ การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของระบบพลังงานของเรา และการเติบโตอย่างทวีคูณของปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งมีศักยภาพไม่เพียงแค่เร่งความก้าวหน้า แต่ยังสามารถ "ผลักดันความก้าวหน้าไปสู่ระดับสูงสุด"
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในด้านพลังงาน อวกาศ และการทูตระหว่างประเทศ
ดร. Al Jaber กล่าวว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์คือตัวแทนแห่ง "จุดเปลี่ยนแห่งอนาคต" ในฐานะประเทศที่อยู่ในสถานะพิเศษที่ผสมผสานระหว่างประเพณีและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้มรดกตกทอดของบิดาผู้ก่อตั้งประเทศ Sheikh Zayed พร้อมกล่าวถึง His Highness Sheikh Mohamed bin Zayed Al Nahyan ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่า
"มรดกแห่งผู้นำนี้ยังคงได้รับการสานต่อในวันนี้ พระองค์ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้เราเดินหน้าผลักดันขอบเขตใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การนำของพระองค์ เราได้ทำลายสถิติในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ จากการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไซต์เดียวที่ใหญ่ที่สุดไปจนถึงโรงแยกเกลือทะเลระดับโลก เราได้สร้างมาตรฐานใหม่ในพลังงานลม ด้วยการสร้างฟาร์มลมที่สามารถทำงานในทะเลที่มีคลื่นแรงด้วยความเร็วต่ำ เราได้ตั้งมาตรฐานในพลังงานนิวเคลียร์ โดยโรงไฟฟ้า Barakah ทั้งสี่หน่วยได้เริ่มดำเนินงานอย่างเต็มที่ เราได้สร้างมาตรฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยมีมหาวิทยาลัย Mohamed bin Zayed University of Artificial Intelligence ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่มุ่งเน้นด้านเอไอโดยเฉพาะ รวมถึงการลงทุนเชิงกลยุทธ์อย่าง MGX เราได้ก้าวเข้าสู่วงการอวกาศ ส่งยานสำรวจไปยังดาวอังคาร และเราจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ เราจะดำเนินภารกิจบนแถบดาวเคราะห์น้อยด้วย MBR Explorer และจะทำแผนที่โลกของเราด้วยดาวเทียม MBZ-SAT ของเราเอง"
"การเรียกร้องความเป็นเอกภาพของพระองค์ยังส่งเสริมการทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย ช่วยให้ความมุ่งมั่นสามารถเอาชนะความสงสัย และนำพาโลกมารวมตัวกันเพื่อบรรลุฉันทามติแห่งประวัติศาสตร์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการประชุม COP28" ดร. Al Jaber กล่าวเพิ่มเติม
การเอาชนะอุปสรรคของความไม่แน่นอนด้านพลังงานหมุนเวียน
ฯพณฯ ดร. Sultan Al Jaber กล่าวว่า ความไม่แน่นอนได้กลายเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดประการหนึ่งมานานหลายทศวรรษในการใช้พลังงานหมุนเวียน นั่นคือความสามารถในการจัดหาพลังงานที่มีความต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงในแต่ละวัน แต่อุปสรรคเหล่านี้ได้ถูกเอาชนะด้วยโครงการที่สำคัญของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
"เป็นเวลากว่าหลายทศวรรษที่ความไม่แน่นอนคืออุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้านพลังงานหมุนเวียน นี่เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา เราจะสามารถจ่ายพลังงานให้กับโลกที่ไม่เคยหยุดพักด้วยแหล่งพลังงานที่สามารถทำเช่นนั้นได้อย่างไร? เราจะสามารถแปลงทรัพยากรหมุนเวียนให้กลายเป็นพลังงานที่น่าเชื่อถือได้อย่างไร? วันนี้เรามีคำตอบให้กับท่านผู้ทรงเกียรติ เพื่อนร่วมงาน และเพื่อน ๆ แล้ว เรามีความยินดีที่จะได้เปิดตัวสถานีพลังงานหมุนเวียนแห่งแรกของโลกที่สามารถจัดหาพลังงานหมุนเวียนจำนวนมากได้ตลอดทั้งวัน"
"Masdar ร่วมกับ Emirates Water and Electricity Company เพื่อรวมพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 5.2 กิกะวัตต์เข้ากับการเก็บพลังงาน 19 กิกะวัตต์ชั่วโมงเพื่อผลิตพลังงานสะอาด 1 กิกะวัตต์โดยไม่มีการหยุดชะงัก ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เราสามารถแปลงพลังงานหมุนเวียนให้กลายเป็นพลังงานฐานได้" ฯพณฯ ดร. Sultan Al Jaber กล่าวเสริม
ข้อเรียกร้องด้านทางพลังงานที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานในอนาคตของโลก
ฯพณฯ ดร. Sultan ได้เน้นย้ำถึงการเพิ่มขึ้นของพลังงานที่เกิดจากเทรนด์ระดับโลกทั้ง 3 และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเติบโตของเอไอ ซึ่งสร้างความต้องการด้านการผลิตพลังงานที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
"ก่อนที่เอไอจะกลายเป็นกระแสหลักทั่วโลก ความต้องการพลังงานคาดการณ์นั้นเพิ่มขึ้นจาก 9,000 กิกะวัตต์เป็นมากกว่า 15,000 กิกะวัตต์ภายในปี 2578 แต่ด้วยแอปพลิเคชันอย่าง ChatGPT ที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่าห้าพันล้านครั้งต่อเดือน และใช้พลังงานมากกว่าการค้นหาผ่าน Google ถึงสิบเท่า ความต้องการพลังงานในปี 2593 จึงอาจสูงถึง 35,000 กิกะวัตต์ ซึ่งเป็นคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 250 เปอร์เซ็นต์
ผมมั่นใจว่าคุณทุกคนคงเห็นด้วยว่าไม่มีแหล่งพลังงานใดเพียงแห่งเดียวที่สามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้อย่างเพียงพอ"
ฯพณฯ ดร. Al Jaber ได้กล่าวถึงความจำเป็นในการมีทางเลือกด้านพลังงานที่หลากหลายเพื่อให้มั่นใจในความมั่นคงด้านพลังงานและการเข้าถึงพลังงานสำหรับประชากรหลายพันล้านคน ในส่วนนี้ เขาได้กล่าวถึงการเพิ่มเข้ามาของ XRG ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอพลังงานที่หลากหลายของอาบูดาบี XRG คือบริษัทลงทุนด้านพลังงานที่จะช่วยตอบสนองความต้องการพลังงานที่เกิดขึ้นใหม่ทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่า รวมถึงก๊าซ เคมี เชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำ และโครงสร้างพื้นฐานพลังงานที่หลากหลาย เพื่อให้มั่นใจว่า พลังงานทุกประเภท ทั้งในระดับอิเล็กตรอนและโมเลกุล จะสามารถเข้าถึงผู้ใช้ปลายทางได้
"ในโลกที่ผู้คนราวพันล้านคนยังคงขาดการเข้าถึงพลังงาน เราจำเป็นต้องมีทางเลือกด้านพลังงานที่หลากหลาย และผมขอยืนยันว่า นโยบายและกฎระเบียบที่ลดทางเลือกเหล่านั้นลงก่อนเวลาอันควรคือการทำลายตนเองโดยไม่จำเป็น กล่าวสั้น ๆ คือเราจำเป็นต้องใช้หลักการที่มีตัวเลือกมากกว่าหนึ่ง"
รางวัล Zayed Sustainability Prize ที่ยกให้ผู้คนเป็นหัวใจสำคัญของความก้าวหน้า
ฯพณฯ ดร. Al Jaber เน้นย้ำถึงการยกให้ผู้คนเป็นหัวใจสำคัญของความก้าวหน้าเพื่อประโยชน์ของชีวิตและความเป็นอยู่ ซึ่งสะท้อนอยู่ในรางวัล Zayed Sustainability Prize
"จุดเชื่อมต่อแห่งอนาคตหมายถึงการวางผู้คนเป็นศูนย์กลางของความก้าวหน้า นั่นคือการรวมพลังกันเพื่อแก้ไขปัญหาระดับโลก"
"และนั่นหมายถึงการตระหนักรู้ว่าการค้นพบใด ๆ จะมีค่าก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นได้ช่วยเหลือมนุษยชาติและยกระดับชีวิตผู้คน นี่คือเหตุผลที่มีรางวัล Zayed Sustainability Prize ขึ้น เราขอบคุณรางวัลนี้ที่ทำให้หมู่บ้านที่ไหนสักแห่งบนโลกได้ดื่มน้ำสะอาดเป็นครั้งแรก ทำให้เด็กคนหนึ่งสามารถเรียนภายใต้แสงไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตจากที่ดินที่เคยแห้งแล้ง นี่คือการสานต่อมรดกของ Sheikh Zayed ที่เชื่อว่าอนาคตที่เรากำลังสร้างไม่ใช่แค่เรื่องของการสร้างพลังงาน แต่เป็นการมอบพลังให้แก่ผู้คน"
กำหนดเส้นทางใหม่เพื่อปลดล็อกการเติบโต ขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรือง และโอกาสทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในตอนท้าย ดร. Sultan ได้เรียกร้องความเป็นเอกภาพในการกำหนดเส้นทางและวิธีการใหม่ที่เชื่อมโยงการเข้าถึงพลังงานและความยั่งยืนเข้าด้วยกัน พร้อมเรียกร้องแนวทางและวิธีคิดแบบใหม่
"เราติดอยู่ในทางเลือกที่ผิดมานานเกินไประหว่างการเข้าถึงพลังงานและความยั่งยืน การคิดแบบ 'สิ่งนี้หรือสิ่งนั้น' ทำให้ความก้าวหน้าหยุดชะงัก ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนวิธีการ ในความเป็นจริงแล้ว พลังงานและความยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่ขัดแย้งกัน แต่เป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน การตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่การเลือกทางใดทางหนึ่ง แต่เป็นการสร้างเส้นทางใหม่ร่วมกัน เส้นทางที่ปลดล็อกการเติบโต ขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรือง และเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยมีมาก่อน เส้นทางที่นำไปสู่จุดเชื่อมต่อแห่งอนาคต"
เกี่ยวกับ Masdar
Masdar (บริษัท Abu Dhabi Future Energy) เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานหมุนเวียนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ในฐานะผู้บุกเบิกด้านพลังงานสะอาดระดับโลก Masdar กำลังพัฒนาและนำเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ ระบบกักเก็บแบตเตอรี่ และไฮโดรเจนสีเขียวมาใช้เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและช่วยให้โลกบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ Masdar ก่อตั้งขึ้นในปี 2549 และได้พัฒนาและลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในกว่า 40 ประเทศ โดยมีกำลังการผลิตรวมกันกว่า 31.5 กิกะวัตต์ (GW) มอบการเข้าถึงพลังงานสะอาดในราคาที่เหมาะสมให้แก่ผู้ที่ต้องการมากที่สุด และช่วยขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
Masdar เป็นเจ้าของร่วมกันโดย TAQA, ADNOC และ Mubadala และมีเป้าหมายที่จะขยายพอร์ตโฟลิโอพลังงานหมุนเวียนให้มีกำลังการผลิตที่ 100 กิกะวัตต์ภายในปี 2573 พร้อมตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ผลิตไฮโดรเจนสีเขียวชั้นนำภายในปีเดียวกัน
เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.masdar.ae และติดตามข่าวสารได้ที่: facebook.com/Masdar.ae และ twitter.com/Masdar
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2597828/ADSW_2025_Opening_Ceremony.jpg?p=medium600
PDF - https://mma.prnewswire.com/media/2597829/ADSW_Opening_Ceremony__Chairman_s_speech_Eng.pdf
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/2591075/5115193/Abu_Dhabi_Sustainability_Week_Logo.jpg?p=medium600
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/2514011/5115194/MASDAR_Logo.jpg?p=medium600