กว่างโจว, จีน--26 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
โครงการ Belt and Road ช่วยกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวทั้งขาเข้าและขาออกของจีนอย่างมหาศาล ส่งผลให้อุตสาหกรรมโรงแรมมีโอกาสมากมายในการพัฒนาธุรกิจ โดยข้อมูลสถิติเผยให้เห็นว่า Plateno Group ได้เปิดโรงแรมไปแล้วกว่า 1,300 แห่งตามแนวเส้นทางสายไหม ทั้งยังมีอัตราการเข้าพักสูงและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
Plateno Group มีโรงแรมนับพันแห่งที่เปิดให้บริการแล้วหรือกำลังก่อสร้างตามแนวเส้นทางสายไหม
Belt and Road เป็นชื่อย่อของโครงการเส้นทางสายไหมทางบกและทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งครอบคลุมมณฑล เขตปกครองตนเอง และเขตเทศมณฑล 18 แห่งในจีน ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนได้ทำข้อตกลงงดเว้นวีซ่ากับ 46 ประเทศและเขตแดนตลอดแนวเส้นทางสายไหม สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนประเมินว่า ผู้คนมากกว่า 25 ล้านคนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวระหว่างจีนและประเทศตามแนวเส้นทางสายไหม พร้อมกับคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศตามแนวเส้นทางสายไหมมากถึง 85 ล้านคน เดินทางมาท่องเที่ยวในจีนในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 13 (ปี 2559-2563) และจะมีเงินสะพัดราว 1.10 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นโอกาสในการพัฒนาครั้งใหม่สำหรับอุตสาหกรรมโรงแรม
ปัจจุบัน โรงแรมในเครือ Plateno Group ได้แก่ Portofino Hotels & Resorts, Xana Hotelle, James Joyce Coffetel, ZMAX Hotels, Lavande Hotels, Chonpines Hotel, Hampton by Hilton, 7 Days Inn, 7 Days Premium Hotel, IU Hotel และ PAI Hotels ได้เปิดให้บริการในประเทศต่างๆตามแนวเส้นทางสายไหม เช่น จีน อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย กัมพูชา และศรีลังกา เป็นต้น โดยมีจำนวนโรงแรมรวมกันมากกว่า 1,300 แห่ง โรงแรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสากรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรมในประเทศเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวตามแนวเส้นทางสายไหมด้วย ทั้งนี้ แบรนด์โรงแรมในเครือ Plateno Group มีการเชื่อมโยงถึงกันหมด แต่ทุกแบรนด์ก็มีบริการที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งจะสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวอันเหนือชั้นให้แก่ลูกค้าอย่างแน่นอน
นอกเหนือจากการส่งมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้าแล้ว Plateno Group ยังได้รุกขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศด้วย โดยนับตั้งแต่ปี 2557 Plateno Group ได้เปิดสำนักงานสาขากรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ตามมาด้วยสำนักงานสาขากรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปจนถึงแอฟริกา นอกจากนั้นยังได้เปิดสำนักงานสาขากรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกด้วย
ในส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น Plateno Group ได้ลงนามในโครงการพัฒนาโรงแรมกว่า 15 แห่งในอินโดนีเซีย ไทย และกัมพูชาเมื่อช่วงต้นปี ส่วนในยุโรป Plateno Group ได้ลงนามในโครงการพัฒนาโรงแรมในเยอรมนี ออสเตรีย และอิตาลี ทั้งยังมีความก้าวหน้าในการเจรจาสร้างโรงแรมในเบลารุส โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก และฮังการีด้วย จนถึงขณะนี้ Plateno Group มีโรงแรมในเครือกว่า 400 แห่งตามแนวเส้นทางสายไหมที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
ศักยภาพโดยรวมของ Plateno Group สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน
ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งขาเข้าและขาออกของจีนที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้การท่องเที่ยวในประเทศและเมืองต่างๆตามแนวเส้นทางสายไหมเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามไปด้วย ภายใต้บรรยากาศที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้สร้างโอกาสอันดีในการพัฒนาและการลงทุนในโรงแรม Plateno Group จึงขอเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนด้วยศักยภาพอันครอบคลุมทั้งในด้านขนาด จำนวนสมาชิก ห่วงโซ่อุปทาน และอื่นๆ
ในปี 2558 Plateno Group ได้ร่วมมือกับ Ctrip เพื่อลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน eLong จนกลายเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดกันมากที่สุดในอุตสาหกรรมโรงแรมจีน และในปีเดียวกัน สองยักษ์ใหญ่อย่าง Plateno Group และ Jinjiang International Group ได้ผนึกกำลังกันก้าวขึ้นเป็นกลุ่มโรงแรมสัญชาติจีนที่ติด 1 ใน 5 กลุ่มโรงแรมระดับโลก จากนั้นในเดือนมกราคม 2560 การบูรณาการฐานข้อมูลสมาชิกของ Plateno และ Jinjiang สำเร็จในเบื้องต้น ก่อเกิดเป็นเครือข่ายสมาชิกร่วมที่มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 100 ล้านราย โดยสมาชิกต่างได้รับสิทธิพิเศษจากแบรนด์โรงแรมมากมายในเครือ Plateno ทั้งยังสามารถใช้แพลตฟอร์มสมาชิกเพื่อเป็นช่องทางในการรวมรวมข้อมูลสมาชิก ส่วนในแง่ของห่วงโซ่อุปทาน Plateno ได้สร้างแพลตฟอร์มจัดซื้อแบบครบวงจรในจุดเดียว และพยายามสร้างความแตกต่างด้วยข้อได้เปรียบด้านผลิตภัณฑ์ โลจิสติกส์ การจัดส่ง และราคา เพื่อตอบสนองความต้องการของบรรดานักลงทุนอย่างตรงจุด
Plateno Group ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการเติบโตระดับโลก (Global Growth Companies) จากที่ประชุม Summer Davos Forum ปี 2557 และหนึ่งใน 50 บริษัทที่มีนวัตกรรมโดดเด่นที่สุดในจีน (The 50 Most Innovative Companies in China) ในปี 2557 และ 2558 จาก Fast Company นิตยสารเกี่ยวกับการค้าของอเมริกัน
ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกของปี 2560 Plateno Group มีรายได้เพิ่มขึ้น 79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 และมี RevPAR เพิ่มขึ้น 12.1% ขณะที่อัตราการเข้าพักในโรงแรมก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว
ติดต่อ
Plateno Group
ฮอตไลน์: +86 20 89115109
อีเมล: international@platenogroup.com
เว็บไซต์: www.platenogroup.com
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20170621/1881511-1-a
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20170621/1881511-1-b
