- FISCO BCOS (ต่อไปนี้จะกล่าวถึงในชื่อ BCOS) เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบโอเพนซอร์ส ที่สร้างขึ้นโดยทีมเฉพาะกิจของสมาคม Financial Blockchain Shenzhen Consortium (FISCO) ซึ่งมีองค์กรทรงอิทธิพลอย่าง WeBank, Tencent Cloud และ Shenzhen Securities Communication เป็นสมาชิก
เซินเจิ้น, จีน—19 ต.ค.—พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ประเด็นที่ว่าบล็อกเชนแบบสมาคม หรือ Consortium Chain ควรจะเป็นสาธารณะหรือส่วนตัว (บล็อกเชนประเภท Permissionless หรือ Permissioned) นั้นเป็นที่ถกเถียงมานานแล้ว โดยในขณะที่เทคโนโลยี Distributed Ledger ที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง Hyperledger Fabric และ R3 Corda ได้เลือกที่จะเป็นบล็อกเชนแบบสมาคมประเภทส่วนตัวในลักษณะ Coinless แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ถือกำเนิด FISCO BCOS แพลตฟอร์มโอเพนซอร์สจากจีน ที่ได้เลือกว่าจะเป็นบล็อกเชนแบบ Coinless ที่เป็นสาธารณะ และในวันที่ 12-14 พฤศจิกายนนี้ BCOS เตรียมเปิดตัวสู่สายตาโลกเป็นครั้งแรกที่งาน Singapore Fintech Festival
FISCO BCOS : อิฐก้อนแรกของบล็อกเชนแบบสมาคมที่เปิดกว้าง
FISCO BCOS ดำเนินการโดย FISCO สมาคมบล็อกเชนที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของจีน โดยมีองค์กรชั้นนำเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น WeBank (ธนาคารดิจิทัลที่ริเริ่มขึ้นโดย Tencent) รวมถึง Tencent และ Huawei จากนั้นทางสมาคมก็มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นทะลุ 100 ราย ในจำนวนนี้มีธนาคารยักษ์ใหญ่รวมอยู่ด้วย คำว่าบล็อกเชนแบบสมาคมที่เปิดกว้างนั้นแรกเริ่มเป็นแนวคิดของ WeBank โดยไม่ได้เป็นบล็อกเชนแบบเดี่ยว แต่เป็นระบบนิเวศสำหรับการใช้งานบล็อกเชนในรูปแบบใหม่ นั่นคือกลุ่มการใช้งานบล็อกเชนที่มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของคนทั่วไป
FISCO BCOS เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนแรกที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับข้อกำหนดด้านการกำกับดูแล พร้อมตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมการเงินโดยเฉพาะ แม้เทคโนโลยีบล็อกเชนได้รับความนิยมเนื่องด้วยศักยภาพอันโดดเด่นในการสร้างฉันทามติเพื่อบันทึกรายการธุรกรรม แต่เทคโนโลยีนี้ไม่ค่อยมีศักยภาพในการทำงานพร้อมกัน ดำเนินการล่าช้า และความสำเร็จต้องอาศัยความน่าจะเป็น ปัจจุบันแวดวงธุรกิจมีการแข่งขันสูงมาก จุดอ่อนเหล่านี้จึงเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข
BCOS ทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นจริงได้ในหลายแนวทางด้วยกัน
การออกแบบแพลตฟอร์ม:
- สถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกระดับขึ้นนี้ ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับรายการธุรกรรม โดยหนึ่งเชนสามารถรองรับรายการธุรกรรมได้กว่าหลายพันรายการต่อวินาที (>1000 TPS) ซึ่งใช้เวลายืนยันเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น สิ่งนี้ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของบรรดาสถาบันการเงินที่ต้องดูแลการทำธุรกรรมเป็นจำนวนมาก
- การอัปเกรดสถาปัตยกรรมและปรับเชนให้เหมาะสมนั้น ทำให้เชนที่ว่านี้ประมวลผลพร้อมกันได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ขยายขนานควบคู่กันไปได้ด้วย ส่งผลให้นักพัฒนาสร้างเซิร์ฟเวอร์เพิ่มได้โดยง่าย เพื่อตอบรับความต้องการทางธุรกิจเฉพาะจุด
- การผสานกลไกการทนความผิดพร่องแบบไบแซนไทน์ (BFT) เข้ากับสถาปัตยกรรมแบบมัลติเชน และกลไกทำงานข้ามเชนนั้น เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในการเข้าถึงพร้อมกัน รวมถึงการจำกัดบัญชีความถี่สูงด้วย เพื่อกำจัดอุปสรรคที่ขัดขวางการแลกเปลี่ยนข้อมูลความถี่สูง
ความปลอดภัย:
- ฟีเจอร์ควบคุมโหนดการเข้าถึง การควบคุมดูแลการทำงานหลัก และการบริหารจัดการ CA นั้น ช่วยยกระดับความปลอดภัยให้ถึงขีดสุด ไม่ว่าจะในเรื่องการโฮสติ้ง วางเครือข่าย จัดเก็บข้อมูล ไปจนถึงการใช้งาน
- รองรับฟังก์ชั่นที่ช่วยคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ทั้งเทคนิคการพิสูจน์ตัวตนแบบ Zero-knowledge การเข้ารหัสแบบสาทิสสัณฐาน (Homomorphic) ไปจนถึงลายเซ็นแบบ Group และ Ring
รองรับการกำกับดูแล:
- เหล่าผู้กำกับดูแลและผู้ตรวจสอบเข้าถึงและติดตามข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ผ่านโหนดสังเกตการณ์
- มีอินเทอร์เฟซการพัฒนาหลายประเภท เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับเหล่านักพัฒนาในการเขียนและถ่ายโอนสัญญาอัจฉริยะ
นับตั้งแต่ที่ BCOS ได้เปิดตัวขึ้น ก็ได้มีการพัฒนากรณีการใช้งานแล้วกว่าหลายสิบกรณี ไม่ว่าจะในแวดวงการเงินและอนุญาโตตุลาการ ไปจนถึงลิขสิทธิ์และการสรรหาบุคลากร BCOS ได้เข้ามามีบทบาทเบื้องหลังแนวคิดและการริเริ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือแบบข้ามกลุ่มบริษัท ระบบนิเวศเชนแบบเปิด และโมเดลธุรกิจแบบกระจายตัว โดยนอกเหนือจากการริเริ่มจากฝั่งสมาชิกส่วนบุคคลแล้ว ภาคสาธารณะเองก็ได้มีการนำไปใช้งานในด้านห่วงโซ่อุปทาน การเงิน การเงินท่องเที่ยว การติดต่อเรื่องลิขสิทธิ์ การสรรหาบุคลากร และการเล่นเกม นับตั้งแต่ที่ BCOS เปิดตัวเป็นโอเพนซอร์ส
รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BCOS และศึกษากรณีการใช้งานจริงได้ที่ http://docs.fisco-bcos.org/FISCOBCOSFeaturedCases.pdf
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ BCOS ระหว่างการเปิดตัวที่งาน Singapore FinTech ได้ทางทวิตเตอร์ @FiscoBcos