ปักกิ่ง--16 กันยายน 2563--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เมืองหนิงโปทางภาคตะวันออกของจีนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) และเป็นหนึ่งในเมืองนำร่องใช้แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติในการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศ โดยขณะนี้เมืองหนิงโปกำลังเร่งเครื่องพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างเต็มที่
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนปีนี้ เมืองหนิงโปได้ประกาศแผนปฏิบัติการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ในช่วงปี 2563-2565 โดยระบุว่าจะนำเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง, บิ๊กดาต้า, บล็อกเชน, IoT, 5G และ AI มาใช้ในหลากหลายภาคส่วน เช่น การบริหารจัดการ สุขภาพ และเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับการบริหารจัดการและการให้บริการสาธารณะในเมืองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา เมืองชายฝั่งแห่งนี้ได้ริเริ่มโครงการ City Brain ด้วยเงินลงทุน 460 ล้านหยวน โดยมุ่งปรับเปลี่ยนการดำเนินงานหลายส่วนให้เป็นระบบดิจิทัล เช่น การให้บริการของภาครัฐ การบังคับใช้กฎหมาย การจัดการความเรียบร้อยในสังคม และการให้บริการเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของการบริหารจัดการอย่างชาญฉลาดด้วยระบบดิจิทัลในเมืองหนิงโป
เฉิน เฉิงไห่ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเศรษฐกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศเมืองหนิงโป กล่าวในงาน 10th Smart City and Intelligent Economy Expo ว่า เมืองหนิงโปให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสร้างเครือข่าย 5G ซึ่งเป็นรากฐานของการสร้างเมืองอัจฉริยะ โดยมีการสร้างสถานีฐาน 5G รวม 9,458 จุดในเมืองหนิงโป ณ สิ้นเดือนสิงหาคม และสัญญาณ 5G ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในเมือง ท่าเรือ และอ่าวทั่วเมือง
เมืองหนิงโปนำเทคโนโลยี 5G มาทดลองใช้งานในหลายส่วน ทั้งท่าเรืออัจฉริยะ การขับขี่อัจฉริยะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอัจฉริยะ การผลิตอัจฉริยะ และอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น ท่าเรือหนิงโปโจวซาน ที่มีปริมาณสินค้าเข้าออกมากที่สุดในจีน ได้เริ่มใช้เทคโนโลยี 5G ในการควบคุมรถเครนมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นที่แรกในประเทศ
คุณเฉินกล่าวว่า หลังจากนี้เมืองหนิงโปจะเร่งใช้งานเครือข่าย 5G เพื่อผลักดันการสร้างเมืองอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง
ลิงก์ข่าวต้นฉบับ: https://en.imsilkroad.com/p/316215.html
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200916/2918803-1?lang=0