เซินเจิ้น, จีน--23 มีนาคม 2564--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Amazfit แบรนด์ชั้นนำระดับโลกในตลาดอุปกรณ์สวมใส่ เปิดตัวสมาร์ทวอทช์สำหรับกีฬาเอาท์ดอร์รุ่นใหม่ล่าสุด "Amazfit T-Rex Pro" ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นภายใต้สโลแกน Explore Your Instinct โดยผ่านการทดสอบทางการทหาร 15 รายการ จึงรับสภาพการใช้งานสุดโหดได้เกือบทุกรูปแบบ มาพร้อมฟังก์ชันติดตามสุขภาพและความฟิตของร่างกายครบวงจร รวมถึงโหมดกีฬาเอาท์ดอร์ยอดนิยมรองรับการทำกิจกรรมโลดโผนต่าง ๆ ช่วยให้ผู้สวมใส่ออกจากคอมฟอร์ตโซนได้ง่ายขึ้น
Amazfit T-Rex Pro พัฒนาต่อเนื่องมาจากสมาร์ทวอทช์รุ่นยอดนิยม Amazfit T-Rex ที่เปิดตัวครั้งแรกในมหกรรม CES 2020 โดยอาศัยความสำเร็จของรุ่นแรกและต่อยอดด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในรุ่นล่าสุด ส่งผลให้ Amazfit T-Rex Pro แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม และผ่านการทดสอบทางการทหารเพิ่มอีก 3 รายการ รวมเป็น 15 รายการ [2] นอกจากนั้นยังสามารถกันน้ำระดับ 10 ATM [3] พร้อมระบบวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด ระบบดาวเทียมนำทางทั่วโลก 4 ระบบ ระบบวัดระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล และโหมดกีฬากว่า 100 โหมด [4]
แกร่งจากภายในสู่ภายนอก
ผู้สวมใส่ Amazfit T-Rex Pro สามารถดูข้อมูลที่ต้องการทั้งหมดเพียงแค่ชำเลืองมองหน้าจอ AMOLED แบบ always-on ขนาด 1.3 นิ้ว ที่มาพร้อมกรอบตัวเรือนพ่นโลหะดีไซน์สวยงามและน้ำหนักเบา
รองรับกิจกรรมเอาท์ดอร์
Amazfit T-Rex Pro มาพร้อมระบบดาวเทียมนำทางทั่วโลก 4 ระบบ [5] ซึ่งสามารถนำทางในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน
นอกจากนี้ ไม่ว่าจะออกกำลังกายอย่างหนักในยิมหรือปีนเขา ผู้สวมใส่ก็สามารถวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด [6] เพื่อดูว่ารับมือกับความสูงได้ดีแค่ไหน [7]
ขณะเดียวกัน ความสามารถในการกันน้ำระดับ 10 ATM ยังเปิดโอกาสให้ผู้สวมใส่สามารถทำกิจกรรมทางน้ำมากมาย เช่น ว่ายน้ำ เล่นเซิร์ฟ และล่องเรือ พร้อมแบตอึดทนนานสูงสุด 18 วัน
ออกกำลังกายให้เต็มที่
Amazfit T-Rex Pro มีโหมดกีฬามากกว่า 100 โหมดให้เลือกใช้งาน พร้อมอัลกอริทึม Firstbeat™ ที่ช่วยประเมินข้อมูลพิเศษอย่างอัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุดของผู้สวมใส่ [8] ระยะเวลาในการฟื้นร่างกายอย่างเต็มที่ และปริมาณการฝึกซ้อม นอกจากนั้นยังมีอัลกอริทึม ExerSense™ [9] ที่สามารถจดจำโหมดกีฬา 8 โหมดและบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
เชื่อมโยงกับธรรมชาติ
ผู้สวมใส่สามารถเชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบตัวด้วยระบบติดตามสภาพอากาศ ระบบตรวจสอบพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก [10] และระบบแสดงข้างขึ้นข้างแรม [11]
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง
Amazfit T-Rex Pro มาพร้อม BioTracker™ 2 PPG Bio-Tracking Optical Sensor ที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง [12] และแจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินไป
นอกจากนี้ Amazfit T-Rex Pro ยังมีระบบประเมินสุขภาพ Personal Activity Intelligence (PAI) [13] ซึ่งเก็บข้อมูลการออกกำลังกาย อัตราการเต้นของหัวใจ และข้อมูลอื่น ๆ จากนั้นเปลี่ยนเป็นคะแนนเพื่อให้ผู้สวมใส่ประเมินสุขภาพของตนเองได้ง่ายขึ้น
ตรวจสอบคุณภาพการนอน
ระบบตรวจสอบคุณภาพการนอน SomnusCare™ [14] สามารถตรวจจับการนอนระดับต่าง ๆ ทั้งช่วงหลับไม่สนิท ช่วงหลับลึก และช่วงหลับที่มีการกลอกตาอย่างรวดเร็ว (REM) หรือแม้แต่ช่วงนอนกลางวัน ตลอดจนตรวจจับปัญหาการหายใจที่อาจเกิดขึ้น [15]
ในสหรัฐอเมริกา Amazfit T-Rex Pro วางจำหน่ายในราคา 179.99 ดอลลาร์ ผ่านทาง https://us.amazfit.com/ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม
ในสหราชอาณาจักร Amazfit T-Rex Pro วางจำหน่ายในราคา 139 ปอนด์ ผ่านทาง https://argos.co.uk/ และ https://Amazon.co.uk ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม
อ้างอิง
[1] อายุการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า เงื่อนไขการใช้งาน และปัจจัยอื่น ๆ ดังนั้น ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการทดลองในห้องปฏิบัติการ |
[2] ข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาจากรายงาน H202005252293-01EN-G2 ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้ใช้งานสมบุกสมบันต่อเนื่องนานเกินไป เพราะอาจสร้างความเสียหายต่อนาฬิกาหรือส่วนประกอบของนาฬิกา |
[3] Amazfit T-Rex Pro กันน้ำลึก 100 เมตร ระดับ 10 ATM ตามมาตรฐาน GB/T 30106-2013 / ISO 22810:2010 ดังนั้นจึงสามารถกันน้ำกระเด็น หิมะ การอาบน้ำฝักบัว การว่ายน้ำ การดำน้ำตื้น หรือกีฬาทางน้ำที่ไม่ใช้ความเร็วสูง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ support.amazfit.com |
[4] ดูโหมดกีฬาที่มีมากกว่า 100 โหมดได้ที่เว็บเพจผลิตภัณฑ์ Amazfit T-Rex Pro: https://www.amazfit.com/en/t-rex-pro.html |
[5] GPS+GLONASS, GPS+BeiDou, GPS+Galileo แต่ไม่รองรับบริการระบุพิกัดภายในอาคาร |
[6] ความแม่นยำของข้อมูลอาจคลาดเคลื่อนหากเซ็นเซอร์สัมผัสกับผิวที่มีขนหรือรอยสัก และอาจผันผวนตามลักษณะทางกายภาพ |
[7] เมื่อผู้สวมใส่อยู่ที่ระดับความสูงเกิน 3,000 เมตร นาฬิกาจะเตือนให้วัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดเมื่อขึ้นไปต่อเกิน 400 เมตร ภายใน 24 ชั่วโมง |
[8] ระบบตรวจจับอัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุดใช้ได้ในโหมดวิ่งกลางแจ้งเท่านั้น |
[9] ความแม่นยำและความไวในการจดจำการออกกำลังกายจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล นอกจากนั้นยังมีความสัมพันธ์กับท่าทางและความคล่องแคล่วของผู้สวมใส่ในระหว่างออกกำลังกาย |
[10] การเก็บข้อมูลสภาพอากาศ รวมถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ต้องเชื่อมต่อกับแอปมือถือ |
[11] การดูข้อมูลข้างขึ้นข้างแรมต้องตั้งค่าหน้าจอนาฬิกาแบบเฉพาะเจาะจง |
[12] ในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง ผู้สวมใส่ต้องตั้งค่าและเปิดฟีเจอร์ "ตรวจสุขภาพหัวใจ" ในแอป โดยค่าต่ำสุดสามารถตั้งได้ 1 นาที ฟีเจอร์นี้ไม่สามารถใช้ในวัตถุประสงค์ทางการแพทย์หรือใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานเพื่อการวินิจฉัยทางการแพทย์ และไม่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจในขณะว่ายน้ำ |
[13] ผลการศึกษา HUNT Fitness Study ระบุว่า ผู้ที่มีคะแนน PAI ตั้งแต่ 100 คะแนนขึ้นไป มีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 |
[14] ระบบตรวจสอบคุณภาพการนอนสามารถบันทึกการนอนหลับตอนกลางคืนและการงีบหลับที่นานกว่า 20 นาที |
[15] ระบบตรวจสอบคุณภาพการหายใจขณะนอนหลับต้องเปิดใช้งานแยกต่างหาก |