ปักกิ่ง--26 เมษายน 2564--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
นายเกา จีฟ่าน ประธานและซีอีโอบริษัท ทรินา โซลาร์ จำกัด (Trina Solar) ผู้นำระดับโลกด้านโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์และโซลูชันพลังงานอัจฉริยะ กล่าวว่า พลังงานอัจฉริยะและอินเทอร์เน็ตพลังงานจะเป็นทิศทางสำคัญของการพัฒนาพลังงานในอนาคต ในระหว่างการประชุม Boao Forum for Asia (BFA) ประจำปี 2564 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 เมษายนที่ผ่านมา
อุตสาหกรรมพลังงานกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า การปล่อยคาร์บอนต่ำ รวมถึงการใช้ระบบอัจฉริยะ และภายหลังการเปลี่ยนแปลงมากมาย ในที่สุด ทรินา โซลาร์ ก็เริ่มสำรวจการใช้งานอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม
นายเกาเปิดเผยว่า ในแง่ของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลนั้น บริษัทเป็นผู้นำในการเปิดตัวแบรนด์ Energy IoT นั่นคือ TrinaIoT ในปี 2561 โดยเป็นการใช้เทคโนโลยี IoT Sensing และเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตบิ๊กดาต้าเพื่อช่วยเหลือองค์กรต่าง ๆ ในการยกระดับการดำเนินงานเชิงดิจิทัลและประสิทธิภาพการจัดการ
เมื่อปีที่แล้ว ทรินา โซลาร์ ได้จัดตั้งกลุ่มความร่วมมือ 600W+ Photovoltaic Open Innovation Ecological Alliance เพื่อผนึกกำลังบริษัทและองค์กรทั้งต้นน้ำและปลายน้ำของห่วงโซ่อุตสาหกรรมให้มาทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย และภายในสิ้นปี 2563 กลุ่มความร่วมมือนี้ก็มีสมาชิกกว่า 60 ราย
นายเกากล่าวเสริมว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์จะก้าวหน้ายิ่งกว่านี้ หากต้นทุนที่ไม่ใช่ต้นทุนทางเทคนิคของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ลดลง ขณะเดียวกัน การส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมการกักเก็บพลังงานและการผลิตไฮโดรเจน จะผลักดันให้พลังงานแสงอาทิตย์อัจฉริยะมีบทบาทเด่นในระบบพลังงาน
นายเการะบุว่า ทรินา โซลาร์ จะยกระดับความพยายามในการเพิ่มกำลังของโมดูลให้สูงเกิน 50GW ภายในสิ้นปี 2564 และจะเป็นผู้นำของโลกด้านการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างสรรค์องค์กรระดับโลกที่พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงาน ไฮโดรเจน และอินเทอร์เน็ตพลังงานอัจฉริยะ ตลอดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2564-2568) ของจีน
นายเกายังเปิดเผยด้วยว่า บริษัทขานรับโครงการ Belt and Road Initiative อย่างกระตือรือร้น และมุ่งสร้างความร่วมมือเชิงลึกกับประเทศต่าง ๆ ในโครงการ
ทั้งนี้ ทรินา โซลาร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 โดยอุทิศตนให้กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การใช้งาน และบริการเกี่ยวกับเซลล์แสงอาทิตย์มาโดยตลอด เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วโลก นับจนถึงปัจจุบัน บริษัทส่งมอบโมดูลเซล์แสงอาทิตย์ไปแล้วกว่า 66GW และเชื่อมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 3GW กับโครงข่ายไฟฟ้าทั่วโลก โดยบริษัทดำเนินธุรกิจในกว่า 100 ประเทศและดินแดน
ลิงก์ข่าวต้นฉบับ: https://en.imsilkroad.com/p/321087.html