ลอนดอน--21 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เมื่อเร็วๆ นี้ Kantar และ Google ได้เปิดตัวรายงาน "50 อันดับผู้สร้างแบรนด์จีนระดับโลกประจำปี 2564 จาก BrandZ" จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคกว่า 860,000 คนทั่วโลก โดย Hisense สามารถคว้าอันดับ 7 ไปครอง ควบด้วยอันดับ 1 ในฐานะแบรนด์ชั้นนำแห่งอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งทางบริษัทรักษาตำแหน่งท็อป 10 ไว้ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 และสำหรับรายชื่อ "20 อันดับแบรนด์จีนดาวรุ่งในตลาดเกิดใหม่" Hisense ติดโผอยู่ในอันดับที่ 8 และอันดับที่ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
แม้จะเผชิญกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 Hisense ยังคงเดินหน้าลงทุนในด้านการสร้างแบรนด์เพื่อรุกขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยในปี 2563 รายได้จากต่างประเทศของ Hisense พุ่งขึ้นถึง 18.2% เทียบรายปี แตะที่ 7.93 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 40% ของรายได้ทั้งหมด ทั้งนี้ ข้อมูลไตรมาสแรกของปี 2564 แสดงให้เห็นว่า ส่วนแบ่งรายได้ในต่างประเทศของ Hisense พุ่งขึ้น 42% สำหรับเป้าหมายกลยุทธ์โลกาภิวัตน์ของ Hisense ทางแบรนด์ตั้งเป้าที่จะทำรายได้ให้แตะ 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 โดยมีตลาดต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 50% ของทั้งหมด
"กลยุทธ์โลกาภิวัตน์ของ Hisense ต้องครอบคลุมทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์, การผลิต, การสร้างแบรนด์ และการทำการตลาด" Jia Shaoqian ประธานคณะกรรมการบริหารของ Hisense Group กล่าว
Hisense เริ่มต้นธุรกิจในต่างประเทศเมื่อปี 2528 และก่อตั้งบริษัทในแอฟริกาใต้อย่างเป็นทางการในปี 2539 เพื่อสร้างฐานการผลิตในต่างประเทศแห่งแรก จนถึงปัจจุบัน Hisense มีพนักงาน 90,000 คนใน 54 บริษัททั่วโลก และมีศูนย์วิจัยและพัฒนา 16 แห่ง รวมถึงฐานการผลิต 16 แห่ง ทั้งนี้ Hisense ได้เร่งกระบวนการปรับกลยุทธ์สู่ท้องถิ่นและโลกาภิวัตน์ ด้วยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่นวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัย ไปจนถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการในแต่ละท้องถิ่น
การเข้าซื้อแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่นถือเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์โลกาภิวัตน์ของ Hisense ที่ท้าทายความสามารถในด้านการบริหารจัดการข้ามวัฒนธรรมขององค์กร ยกตัวอย่างเช่น การเข้าซื้อกิจการ Toshiba Visual Solutions Corporation ("TVS") ซึ่ง Hisense ได้ใช้หลักการบริหารจัดการแบบปรับสู่ท้องถิ่น โดยทางบริษัทได้ยกตำแหน่งในแผนกทั้งหมดให้อยู่ภายใต้ความดูแลของผู้จัดการชาวญี่ปุ่น ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยจะได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานใหญ่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นขวัญกำลังใจในการทำงานของพนักงานด้วย
นอกจากนี้ Hisense ยังได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์ที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น โดยโครงการสวนอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า Hisense ในแอฟริกาใต้ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าทึ่งจน UNOSSC ได้กล่าวถึง เนื่องจาก Hisense ไม่เพียงแค่ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน แต่ยังได้สร้างโอกาสในการทำงาน ซึ่งช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวแอฟริกาใต้ทั้งในด้านการเงินและสังคม
ในแง่ของการสร้างแบรนด์ Hisense ได้เดินหน้าสร้าง Sport IP ซึ่งจะใช้กีฬาเป็นตัวเชื่อมโยงไปยังผู้บริโภคอันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารทางอารมณ์ ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา Hisense ได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมกีฬาชั้นนำมากมาย เช่นยูโร 2020 และการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA World Cup นอกจากนี้ Hisense ยังได้เร่งกลยุทธ์โลกาภิวัตน์และการฟื้นฟูแบรนด์ รวมถึงประสบความสำเร็จในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและความเสมอภาคของแบรนด์ ด้วยการจับมือกับสโมสรฟุตบอลระดับโลกอย่าง PSG และองค์กร eSports อย่าง FNATIC
ปัจจุบัน Hisense ได้พัฒนาจากแบรนด์ผู้ผลิตทีวีไปสู่ผู้ให้บริการระบบโซลูชันการแสดงผลแบบหลากหลาย นอกจากอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านแล้ว Hisense ยังได้พัฒนาอุปกรณ์ด้านการดูแลสุขภาพอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ และการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีคุณค่าที่สุดในโลก