ปักกิ่ง—15 มิ.ย.—พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
แนวปฏิบัติที่เผยแพร่โดยคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและสภารัฐกิจจีนเมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่า มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน คาดว่าจะมีความคืบหน้าครั้งสำคัญในการสร้างเขตสาธิตเพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันผ่านการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ
แนวปฏิบัติดังกล่าวมาพร้อมกับมาตรการมากมาย เพื่อนำทางมณฑลเจ้อเจียงในการเป็นแบบอย่างสำหรับการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
ภายในปี 2568 มณฑลเจ้อเจียงน่าจะมีความคืบหน้าอย่างแข็งแกร่งในการสร้างเขตสาธิต โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อหัวเทียบชั้นกับประเทศพัฒนาแล้วระดับหนึ่ง ขณะที่โครงสร้างสังคมที่มีประชากรรายได้ปานกลางเป็นส่วนใหญ่ก็น่าจะพัฒนาขึ้นในกรอบเวลาดังกล่าวเช่นกัน
และในอีก 10 ปีหลังจากนั้น แนวปฏิบัติดังกล่าวระบุว่า มณฑลเจ้อเจียงจะประสบความสำเร็จในการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ โดยบรรลุความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันทั้งหมด
คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับแผนที่จีนมีต่อมณฑลเจ้อเจียงว่า การส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของชาวจีนทุกคนเป็นภารกิจระยะยาวอันหนักหน่วงอย่างยิ่ง ซึ่งทำให้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเลือกพื้นที่ที่มีภาวะรองรับเพียงพอเพื่อใช้เป็นพื้นที่นำร่อง
บทบาทบุกเบิกของมณฑลเจ้อเจียง
งานวิจัยจากสถาบันวิจัยของแบงก์ออฟไชน่า เปิดเผยว่า การสร้างเขตสาธิตในมณฑลเจ้อเจียงจะอำนวยความสะดวกในการส่งเสริมการประสานงานเพิ่มเติม ระหว่างการกระจายรายได้ในเขตเมืองและชนบท ยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรม และปรับปรุงบริการสาธารณะให้ดีขึ้น
ปัจจุบัน จีนเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก จึงควรให้ความสำคัญมากขึ้นกับการประสานงานเพื่อส่งเสริมการเติบโตของรายได้ในเมืองและชนบท รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อลดช่องว่างทางรายได้และเสริมให้กลุ่มรายได้ปานกลางมีความเข้มแข็งมากขึ้น เขตสาธิตมณฑลเจ้อเจียงจะขยายช่องทางรายได้ให้กว้างขึ้นสำหรับชาวเมืองและชาวชนบท และสำรวจหาวิธีการเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มรายได้ต่ำและปานกลาง พร้อมยกระดับนโยบายกระจายเงินเดือนสำหรับบุคลากรทักษะสูง
มณฑลเจ้อเจียงมีเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายการปฏิรูปและนวัตกรรม ทั้งยังมีพื้นฐานและข้อได้เปรียบดีในการสร้างเขตสาธิตด้วย โดยแนวปฏิบัติดังกล่าวระบุว่า มณฑลเจ้อเจียงควรยกระดับอุตสาหกรรมและการบริโภคอย่างกลมกลืน เพื่อให้ตอบรับกับความต้องการอันหลากหลายของผู้คนได้ดีขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างมีคุณภาพ ชาญฉลาด และเป็นไปตามตลาด พร้อมส่งเสริมความแข็งแกร่งของแรงงาน เทคโนโลยี เงินทุนของรัฐและของภาคเอกชน รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ
ทำไมถึงเลือกมณฑลเจ้อเจียง
มณฑลเจ้อเจียงประสบความสำเร็จในการสำรวจและแก้ปัญหาการพัฒนาอย่างไม่สมดุลและไม่เพียงพอ โดยผลลัพธ์จากการปฏิรูปจะเป็นแบบอย่างให้กับพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของจีนต่อไป
มณฑลเจ้อเจียงเป็นมณฑลที่ค่อนข้างร่ำรวย โดยมีรายได้สุทธิต่อหัวอยู่ที่ 52,400 หยวน (ประมาณ 8,199 ดอลลาร์) ในปี 2563 เป็นรองเพียงเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งเท่านั้น
การพัฒนาในมณฑลเจ้อเจียงก็มีสมดุลดีเช่นกัน เนื่องจากผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชนบทนั้นมีมากถึงครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งมณฑล แต่ค่าส่วนต่างของรายได้ระหว่างคนในเมืองและชนบทมีเพียง 1.96 ซึ่งต่ำกว่าค่าส่วนต่างทั้งประเทศซึ่งอยู่ที่ 2.56
พื้นที่ทุกส่วนของมณฑลเจ้อเจียงปรากฏให้เห็นกลิ่นอายการปฏิรูปและนวัตกรรมอย่างแข็งแกร่ง มอบประสบการณ์การปฏิรูปชั้นสูงมากมาย ซึ่งรวมถึงบริการแบบครบในที่เดียวที่ทั้งรวดเร็วและง่ายดาย แม้จะมีบริการเหล่านี้แล้ว แต่มณฑลเจ้อเจียงยังคงมีศักยภาพเติบโตและเจริญรุ่งเรืองต่อไปอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ในการบริหารจัดการเพื่อต่อต้านการผูกขาดและป้องกันไม่ให้หัวเมืองขยายตัวอย่างไม่เป็นระเบียบ
NDRC เปิดเผยว่า แนวปฏิบัติที่กำหนดตามปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ให้ความสำคัญกับจุดอ่อนที่สุดที่เป็นอุปสรรคต่อการเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน และได้กำหนดมาตรการสำคัญเพื่อลดช่องว่างระหว่างการพัฒนาเมืองและชนบท รวมถึงการกระจายรายได้ในกลุ่มต่าง ๆ