โซล, เกาหลีใต้--2 สิงหาคม 2564--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
AirCUVE ผู้นำระดับโลกด้านการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย เปิดตัว "V-FRONT" โซลูชันการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) อัจฉริยะ ซึ่งล็อกอินได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ โดยในช่วงที่คนจำนวนมากทำงานจากบ้านเพราะสถานการณ์โควิด-19 การรักษาความปลอดภัยเครือข่ายขององค์กรกลายเป็นส่วนที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และการยืนยันตัวตนแบบ 2FA ก็เป็นก้าวแรกของการปกป้องระบบภายในองค์กร ซึ่งแพลตฟอร์ม "V-FRONT" ของ AirCUVE ก็เป็นวิธีการที่ง่ายดายและชาญฉลาด โดยมียูสเซอร์อินเทอร์เฟซสำหรับบริหารจัดการและโทเคนล็อกอินอันทรงพลัง, ระบบสแกนลายนิ้วมือไบโอเมตริก, Yubikey, QR, PUSH, รหัส OTP ผ่าน SMS/อีเมล/มือถือ ซึ่งสามารถยืนยันตัวตนได้โดยไม่ต้องใช้พาสเวิร์ดเพื่อรักษาความปลอดภัยแบบ Zero Trust โดยช่วยให้ผู้ใช้งาน "ล็อกอินอย่างง่ายดาย" และช่วยให้ผู้ดูแลระบบ "บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ" ดังนั้น "V-FRONT" จึงสามารถตอบสนองลูกค้าที่ต้องการ "ทำงานจากบ้านอย่างปลอดภัยด้วยการล็อกอินแบบ 2FA ที่ง่ายดายและมีประสิทธิภาพ"
AirCUVE กำลังจัดงานสัมมนาออนไลน์เพื่อให้ความรู้ในหัวข้อ "รักษาความปลอดภัยบริษัทขณะทำงานทางไกล" ด้วยการนำเสนอ "พลังของการยืนยันตัวตนแบบ 2FA เพื่อพลิกโฉมองค์กรสู่ดิจิทัล" โดยงานสัมมนาจัดขึ้นตลอดเดือนสิงหาคมและมีการเชิญลูกค้ารายใหญ่เข้าร่วมงาน ทั้งจากองค์กร ธนาคาร โรงเรียน โรงแรม ผู้ให้บริการ BPO รัฐบาล และโรงพยาบาล "AirCUVE เดินหน้านำเสนอโซลูชัน 2FA ที่ง่ายดายและมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการให้บริการ การทำธุรกรรมทางธนาคาร เครือข่ายสาธารณะเสมือน โครงสร้างพื้นฐานเดสก์ท็อปเสมือน (VDI) และเว็บพอร์ทัลของลูกค้า" GS AHN รองประธานบริหารของ AirCUVE กล่าว "AirCUVE ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป"
บริษัทมากมายต้องทำงานทางไกลในสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งการล็อกอินเข้าสู่เครือข่ายด้วยไอดี/พาสเวิร์ดไม่ปลอดภัยมากพอ การยืนยันตัวตนแบบ 2FA จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในปี 2564 รัฐบาลหลายประเทศสั่งให้หน่วยงานรัฐทุกแห่งและแนะนำให้บริษัทเอกชนใช้การยืนยันตัวตนแบบ 2FA เพื่อรักษาความปลอดภัยในช่วงที่ต้องทำงานทางไกล นอกจากนี้ บริษัทส่วนใหญ่ยังเปลี่ยนมาใช้เครือข่ายไร้สาย แต่เครือข่าย WiFi ในสำนักงานไม่ปลอดภัยมากพอ ดังนั้น AirCUVE จึงนำเสนอ "AirFRONT" แพลตฟอร์มยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้งาน WiFi ซึ่งสามารถรักษาความปลอดภัยเครือข่าย WiFi ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ
AirCUVE มีความเชี่ยวชาญด้านการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้งานเครือข่าย และมีการอ้างอิงกว่า 1,120 ครั้งทั่วโลกตลอดระยะเวลากว่า 19 ปี ลูกค้าของบริษัทประกอบด้วยธนาคาร บริษัทโทรคมนาคม สายการบิน บริษัทโลจิสติกส์ รัฐบาล มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และอีกมากมาย ทุกวันนี้ ในสถานการณ์โรคระบาดที่คนจำนวนมากต้องทำงานทางไกล การยืนยันตัวตนแบบ 2FA และการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้งาน WiFi ที่ง่ายดายและมีประสิทธิภาพกำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมาก และ AirCUVE ก็เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมการยืนยันตัวตนทั่วโลก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.aircuve.com/wp_aircuve/
ติดต่อ
Sunny
sunho@aircuve.com