ปักกิ่ง--6 กันยายน 2564--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
จีนเตรียมบังคับใช้ "Negative List" (รายการข้อจำกัดและข้อห้าม) สำหรับการค้าภาคบริการข้ามพรมแดนทั่วประเทศ เพื่อยกระดับความโปร่งใสและการคาดการณ์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจในประเทศ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศในการประชุมสุดยอด Global Trade in Services Summit ระหว่างมหกรรม China International Fair for Trade in Services (CIFTIS) ประจำปีนี้ ผ่านทางวิดีโอลิงก์
Negative List มีการบังคับใช้เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคมในมณฑลไห่หนาน ซึ่งเป็นท่าเรือการค้าเสรีนำร่องแห่งเดียวของประเทศ โดยได้ระบุกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ต้องห้ามหรือจำกัดใน 11 สาขา ซึ่งหมายความว่ากิจกรรมที่ไม่ได้ระบุไว้ใน Negative List จะได้รับอนุญาต โดยผู้ให้บริการในจีนและต่างประเทศสามารถเข้าถึงตลาดได้อย่างเท่าเทียมในธุรกิจที่อยู่นอกเหนือ Negative List
"เราจะเปิดกว้างในระดับที่สูงขึ้น" นายสี จิ้นผิง กล่าว พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะยกระดับการสนับสนุนภาคบริการสำหรับผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างโครงการ Belt and Road Initiative (BRI)
เขากล่าวเสริมว่า จีนจะแบ่งปันผลลัพธ์ของการพัฒนาเทคโนโลยีกับทั่วโลก และแสดงความหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับทั่วโลกเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโรคระบาด
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า การค้าภาคบริการเป็นส่วนสำคัญของการทำธุรกิจระหว่างประเทศ และเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ของการค้าระหว่างประเทศ พร้อมกับเรียกร้องให้ปรับปรุงกฎระเบียบในภาคส่วนนี้
สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
นายสี จิ้นผิง ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม พร้อมกับระบุว่า "เราจะยกระดับการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน (NEEQ)"
NEEQ เปิดตัวในปี พ.ศ. 2556 เพื่อให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีช่องทางระดมทุนใหม่ที่ใช้ต้นทุนต่ำและมีขั้นตอนการจดทะเบียนที่เรียบง่าย โดยข้อมูลทางการแสดงให้เห็นว่า ราว 70% ของ SME ที่จดทะเบียนในตลาดสามารถทำกำไรได้ในปี 2563 ท่ามกลางผลกระทบอันรุนแรงจากสถานการณ์โควิด-19
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ประกาศจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ในปักกิ่ง โดยหวังให้เป็นแพลตฟอร์มหลักเพื่อรองรับธุรกิจ SME ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งที่สามของประเทศ เพิ่มเติมจากตลาดหลักทรัพย์สองแห่งในศูนย์กลางทางการเงินอย่างเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น
หลังการกล่าวสุนทรพจน์ของนายสี จิ้นผิง ทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่จะเชื่อมโยงตลาดทุนหลายระดับเข้าด้วยกัน
แถลงการณ์ระบุเพิ่มเติมว่า ตลาดดังกล่าวจะพุ่งเป้าไปที่รัฐวิสาหกิจ โดยให้ความสำคัญกับแนวโน้มการเติบโตเพื่อยกระดับความครอบคลุมและความแม่นยำ