ปักกิ่ง--13 กันยายน 2564--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
BRICS กลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 และได้แสดงให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่า ประเทศสมาชิกพร้อมที่จะผนึกกำลังกันเพื่อสร้างฉันทามติใหม่อันจะนำไปสู่ความร่วมมือที่มีพลวัตยิ่งขึ้น
การประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 13 ภายใต้หัวข้อ "Intra-BRICS cooperation for continuity, consolidation and consensus" ผ่านทางวิดีโอลิงก์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาด การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เหลื่อมล้ำกันมากขึ้น รวมถึงความท้าทายด้านความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วโลก
ประเทศจีน ซึ่งสนับสนุนความร่วมมือในกลุ่ม BRICS อย่างต่อเนื่อง และจะเป็นประธาน BRICS ในปี 2565 เป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างความร่วมมือด้านวัคซีนระหว่างประเทศ ด้วยการประกาศบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อีก 100 ล้านโดสให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา ในระหว่างการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
BRICS พร้อมต่อสู้กับโรคระบาด
ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาด ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS ยังคงเดินหน้าแลกเปลี่ยนข้อมูลและสร้างความร่วมมือระหว่างกัน โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BRICS และกล่าวสุนทรพจน์เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านวัคซีน
เขากล่าวว่า จีนได้ให้คำมั่นบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 2 พันล้านโดสให้ทั่วโลกตลอดปีนี้ และบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้โครงการ COVAX พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS ร่วมกันสนับสนุนการกระจายวัคซีนอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมทั่วโลก
นับตั้งแต่นายสี จิ้นผิง ประกาศให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจีนเป็นสินค้าสาธารณะในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 73 เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว จีนก็มอบวัคซีนราว 800 ล้านโดสให้กว่า 100 ประเทศทั่วโลก ณ เดือนสิงหาคม โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนา จากการรายงานของกระทรวงต่างประเทศจีน
นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำความสำคัญของการสร้างความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนาวัคซีน ร่วมกันผลิตวัคซีน และร่วมกันส่งเสริมความสำคัญของการฉีดวัคซีน ตลอดจนเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีนของกลุ่ม BRICS ผ่านทางออนไลน์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จีนได้ประกาศจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีนระดับชาติซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีนของกลุ่ม BRICS เพื่อผลักดันการวิจัยและพัฒนาวัคซีนในกลุ่ม BRICS รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา การทดลองวัคซีน การสร้างโรงงาน ไปจนถึงการร่วมมือกันผลิต อนุญาต และรับรองวัคซีนในห้าประเทศสมาชิก
BRICS สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าคือหนึ่งในวาระสำคัญของประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS โดยกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า กลุ่ม BRICS คิดเป็นสัดส่วน 42% ของประชากรโลก, 24% ของเศรษฐกิจโลก, 18% ของการค้าสินค้าทั่วโลก, 13% ของการค้าภาคบริการทั่วโลก และ 25% ของการลงทุนจากต่างประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้ จีนได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสูงกลุ่ม BRICS ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการประชุม BRICS ว่าด้วยบิ๊กดาต้าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ขณะเดียวกัน นายสี จิ้นผิง ได้ตอกย้ำความสำคัญของ New Development Bank และ BRICS Partnership ที่มีต่อศูนย์นวัตกรรมการปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่
ศูนย์นวัตกรรมการปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่จัดตั้งขึ้นที่เมืองเซี่ยเหมินเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัทต่าง ๆ จากกลุ่ม BRICS ได้ลงนามใน 28 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุนรวมกว่า 1.34 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
BRICS ยึดมั่นในระบบพหุภาคี ความถูกต้อง และความเป็นธรรม
สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ความปลอดภัยทางชีวภาพ การต่อต้านการก่อการร้าย และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นคีย์เวิร์ดสำคัญในการสร้างความร่วมมือของกลุ่ม BRICS ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
"เราต้องใช้ประโยชน์จากกลไกของกลุ่ม BRICS เช่น การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและการประชุมตัวแทนระดับสูงด้านความมั่นคง ตลอดจนยกระดับความร่วมมือในประเด็นสำคัญทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก และส่งเสียงร่วมกันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น" นายสี จิ้นผิง กล่าวในการประชุม
ในการประชุมที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของกลุ่ม BRICS ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ประเทศสมาชิกได้บรรลุแผนปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศสมาชิกได้เห็นพ้องต้องกันว่าจะสนับสนุนการต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศให้มากขึ้น ในระหว่างการประชุมคณะทำงานต่อต้านการก่อการร้ายของกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 6 ซึ่งจัดผ่านทางออนไลน์
ในการประชุมครั้งนี้ยังมีการรับรองปฏิญญาที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่ม BRICS ในการยกระดับความร่วมมือภายใต้การแลกเปลี่ยนด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจและการเงิน รวมถึงวัฒนธรรมและประชาชน