หัวเว่ย อัปเกรดโซลูชันเครือข่ายคลาวด์อัจฉริยะ เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในหลากหลายอุตสาหกรรม

บาร์เซโลนา, สเปน--2 มีนาคม 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ในมหกรรมโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2565 (Mobile World Congress 2022) คุณสตีเวน จ้าว รองประธานสายผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของบริษัทหัวเว่ย (Huawei) ได้กล่าวสุนทรพจน์หลักในหัวข้อ "ก้าวสู่โลกดิจิทัลเร็วขึ้นด้วยเครือข่ายคลาวด์อัจฉริยะ" (Go Digital Faster with the Intelligent Cloud-Network) ในระหว่างการจัดกิจกรรมไอพี คลับ คาร์นิวัล (IP Club Carnival) โดยคุณจ้าวระบุว่า หัวเว่ยปรับตัวให้เท่าทันภูมิทัศน์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยโซลูชันเครือข่ายคลาวด์อัจฉริยะครบวงจรที่มีการอัปเกรดในสามส่วนหลัก ได้แก่ คลาวด์แคมปัส 3.0 (CloudCampus 3.0), คลาวด์แวน 3.0 (CloudWAN 3.0) และคลาวด์แฟบริก 3.0 (CloudFabric 3.0) เพื่อปลดปล่อยขุมพลังการประมวลผลอันไร้ขีดจำกัดและอัจฉริยภาพให้แก่ทุกองค์กร และเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในหลากหลายอุตสาหกรรม

คุณจ้าวระบุว่า เครือข่ายไอพีที่เชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ปลายทางด้านหนึ่ง เข้ากับแอปพลิเคชันที่อยู่อีกปลายทางด้านหนึ่ง นับเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และในขณะที่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรธุรกิจกำลังเข้าสู่ "โซนน้ำลึก" (Deep Water Zone) เครือข่ายไอพีก็ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมต่อที่ขยายจากบุคคลไปสู่ไอโอที เทอร์มินอล (IoT terminal) ที่มีจำนวนนับไม่ถ้วน จึงสร้างความกดดันมหาศาลให้กับการปฏิบัติงานและการบำรุงรักษา (O&M) แบบแมนนวล อีกทั้งบริการต่าง ๆ ยังขยายจากในสำนักงานไปสู่ภาคการผลิต ซึ่งทำให้ข้อตกลงระดับการให้บริการเครือข่าย (Service Level Agreement: SLA) เป็นที่ต้องการมากขึ้น ขณะที่ตัวบริการเองก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและบ่อยครั้งเพื่อตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้า ดังนั้น เครือข่ายไอพีต้องตามระบบคลาวด์ให้ทัน เพื่อให้สามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงและให้บริการได้อย่างว่องไวมากขึ้น  

เพื่อจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ หัวเว่ยได้ทำการอัปเกรดโซลูชันเครือข่ายคลาวด์อัจฉริยะด้วยองค์ประกอบใหม่ในสามส่วนดังต่อไปนี้

• คลาวด์แฟบริก 3.0 คือโซลูชันเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์แบบไฮเปอร์คอนเวิร์จที่มีคุณสมบัติเด่นคือ "รวดเร็ว" และ "เสถียร" จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการสร้างเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์คุณภาพสูง เพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถตั้งศูนย์บริการที่มีกำลังการประมวลผลอันเหนือชั้น โซลูชันที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์นี้เป็นโซลูชันเครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3.5 เพียงหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรม ซึ่งจำเป็นต่อการผลักดันดาต้าเซ็นเตอร์ระดับองค์กรไปสู่เครือข่ายมัลติคลาวด์และมัลติดาต้าเซ็นเตอร์ นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือ ดาต้าเซ็นเตอร์สวิตช์แบบ High Availability Multicast (HAM) ซึ่งมีจุดเด่นที่ความน่าเชื่อถือสูง ความหน่วงต่ำ และปริมาณงานสูง จึงช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างเครือข่ายทางภายภาพที่มีเสถียรภาพและน่าเชื่อถือ
• คลาวด์แวน 3.0 คือโซลูชันที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับการสร้างเครือข่ายแวนที่คล่องตัว น่าเชื่อถือ และชาญฉลาด มาพร้อมกำลังในการประมวลผลแบบไร้ขีดจำกัด โซลูชันแห่งอนาคตตัวนี้ให้บริการได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถให้บริการทั้งหมดได้ภายในเครือข่ายเดียว จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านทุน (CAPEX) ลงอย่างมาก ขณะที่คุณสมบัติด้าน O&M ก็ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล นอกจากนั้นยังมีเน็ตเอนจิน 8000 เอฟ 8 (NetEngine 8000 F8) เราเตอร์อัจฉริยะที่ให้บริการครอบจักรวาล ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าในแวดวงการเงิน พลังงาน คมนาคม ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และอีกมากมาย โดยช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเครือข่ายแวนให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และตอบสนองความต้องการบริการที่แตกต่างกันได้อย่างครบถ้วน
• คลาวด์แคมปัส 3.0 คือโซลูชันที่ต่อยอดมาจากนวัตกรรม WLAN, LAN Switch และ SD-WAN ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่มากมาย ได้แก่ อุปกรณ์กระจายสัญญาณแอร์เอนจิน 6761 (AirEngine 6761 Access Points), สวิตช์คลาวด์เอนจิน เอส 8700 (CloudEngine S8700) และเราเตอร์เน็ตเอนจิน เออาร์ 6710 (NetEngine AR6710) ทั้งนี้ คลาวด์แคมปัส 3.0 สร้างความโดดเด่นด้วยการมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อระดับ 300 เมกะบิตต่อวินาทีทุกที่ หรือ "300 Mbps @ Everywhere" ให้แก่ภาคองค์กร และเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงคลาวด์เป็นสองเท่า ด้วยจุดแข็งเหล่านี้ คลาวด์แคมปัส 3.0 จึงสามารถนำไปใช้ในวงกว้างในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ การศึกษา สุขภาพ การเงิน และพลังงาน ซึ่งช่วยให้ภาคองค์กรสามารถร่นเวลาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดีขึ้น

ปัจจุบัน โซลูชันเครือข่ายคลาวด์อัจฉริยะของหัวเว่ยให้บริการลูกค้าในภาคการศึกษา คมนาคม การเงิน พลังงาน และอีกหลายอุตสาหกรรมในกว่า 140 ประเทศและดินแดน และในอนาคต หัวเว่ยจะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกต่อไป รวมทั้งรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายมากขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเครือข่ายคลาวด์อัจฉริยะ โดยมีจุดมุ่งหมายในการเสริมแกร่งรากฐานทางดิจิทัลและเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

มหกรรมโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2565 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยหัวเว่ยได้ร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันต่าง ๆ ที่บูธ 1H50 ในฟีรา กรัน เวีย ฮอลล์ 1 (Fira Gran Via Hall 1) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://e.huawei.com/en/events/huawei-enterprise-mwc-2022