ปักกิ่ง--19 พฤษภาคม 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา จีนได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเปิดกว้างด้วยมาตรฐานสูง พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจโดยอิงหลักการของตลาด
"ผมขอย้ำว่าจีนมีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปิดกว้างด้วยมาตรฐานสูง และประตูของจีนจะเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับทั่วโลก" ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวปราศรัยในการประชุมครบรอบ 70 ปีของสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีน (CCPIT) และการประชุมสุดยอดการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระดับโลก (Global Trade and Investment Promotion Summit) ผ่านทางวิดีโอลิงก์
"จีนจะเดินหน้าส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยโดยอิงหลักการของตลาด อยู่ภายใต้กฎหมาย และได้มาตรฐานสากล" นายสี จิ้นผิง กล่าว
เขากล่าวเสริมว่า ในฐานะประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก จีนจะดำเนินการตามมาตรฐานระดับสูงภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และสร้างความร่วมมือคุณภาพสูงภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road) พร้อมนำเสนอโอกาสทางการตลาด การลงทุน และการเติบโตเพิ่มเติมอีกมากมายให้แก่ชุมชนธุรกิจทั่วโลก
แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อ แต่จีนก็ยังประสบความสำเร็จทางการค้าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรจีนเผยให้เห็นว่า ยอดนำเข้าและส่งออกสินค้ารวมเพิ่มขึ้น 29.2% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 8.47 ล้านล้านหยวน (ราว 1.25 ล้านล้านดอลลาร์)
ด้านการค้าระหว่างจีนกับประเทศต่าง ๆ ในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เพิ่มขึ้น 21.4% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 2.5 ล้านล้านหยวน (ราว 3.70 แสนล้านดอลลาร์) ส่วนการค้าของจีนกับ 14 ประเทศสมาชิก RCEP มีมูลค่า 2.67 ล้านล้านหยวน (ราว 3.95 แสนล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 22.9% เมื่อเทียบรายปี และคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 31.5% ของยอดนำเข้าและส่งออกทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2495 สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีนก็มีบทบาทสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ด้านผลประโยชน์ระหว่างบริษัทจีนกับบริษัทต่างชาติ ตลอดจนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ และส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน
การเดินทาง 70 ปีของสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีนถือเป็น "ตัวอย่างที่ชัดเจนของความพยายามในการเปิดกว้างอย่างเต็มที่ของจีน และเป็นสักขีพยานว่าธุรกิจจากประเทศต่าง ๆ สามารถแบ่งปันโอกาสในการพัฒนาและได้รับประโยชน์จากความร่วมมือที่ดีต่อทุกฝ่าย" เขากล่าวเสริม
สี จิ้นผิง เรียกร้องให้ขยายความร่วมมือให้กว้างขึ้น
ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่าโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับแรงลมต้าน และโลกกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ จึงได้มีข้อเสนอแนะหลายประการ
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า ทั่วโลกจำเป็นต้องพยายามร่วมกันในการเอาชนะโรคระบาด โดยต้องให้ความสำคัญกับคนและชีวิตคนเป็นอันดับแรก รวมถึงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการวิจัยและพัฒนา การผลิต และการจัดจำหน่ายวัคซีน ตลอดจนสนับสนุนธรรมาภิบาลด้านสาธารณสุขทั่วโลก
ในการฟื้นฟูการค้าและการลงทุนนั้น เขาได้เน้นย้ำถึงการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่มีองค์การการค้าโลก (WTO) เป็นศูนย์กลาง เพื่อรับประกันความปลอดภัยและความมั่นคงของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก นอกจากนั้นยังต้องมีการขยายความร่วมมือให้กว้างขึ้นเพื่อให้ผลจากการพัฒนากระจายไปสู่ประชาชนในทุกประเทศ
ขณะเดียวกัน เขายังเน้นย้ำถึงความพยายามในการปลดปล่อยพลังแห่งนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา โดยเรียกร้องให้ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้าง ยุติธรรม เท่าเทียม และไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นอกจากนี้ นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่าต้องยึดมั่นในระบบพหุภาคีอย่างแท้จริง เพื่อยกระดับธรรมาภิบาลโลก
"เราควรเลือกการเจรจามากกว่าการเผชิญหน้า ทลายกำแพงแทนที่จะสร้างกำแพง รวมกลุ่มกันแทนที่จะแยกจากกัน เลือกอ้าแขนรับแทนที่จะกีดกัน และปฏิรูประบบธรรมาภิบาลโลกด้วยหลักของความถูกต้องยุติธรรม" นายสี จิ้นผิง กล่าว