สิงคโปร์--30 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ทางทะเลจากทั่วภูมิภาคคาดว่าจะมารวมตัวกันที่สิงคโปร์ เพื่อร่วมงานบลูวอเตอร์เอดูเฟสต์ (Blue Water EduFest) ซึ่งจะจัดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยวันฟิฟทีน อีเวนต์ แมเนจเมนต์ (ONE15 Events Management) หรือวันดีกรีฟิฟทีน (ONE°15) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเอสยูทีแอล เอ็นเตอร์ไพรส์ (SUTL Enterprise Limited) หรือ "เอสยูทีแอล"
ONE°15 Marina pushes marine and ocean conservation with inaugural Blue Water EduFest in Singapore.
งานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 3-6 พฤศจิกายน 2565 ที่โรงแรมวันดีกรีฟิฟทีน มารีน่า เซ็นโตซ่า โคฟ สิงคโปร์ (ONE°15 Marina Sentosa Cove Singapore) เป็นเวลาสี่วันเต็ม เพื่อที่จะสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทางทะเล และเพื่อเน้นย้ำถึงความเป็นเลิศด้านสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคนี้ ด้วยความร่วมมือกับเซ็นโตซ่า ดีเวลอปเมนต์ คอร์ปอเรชั่น (Sentosa Development Corporation) และสมาคมอนุรักษ์ทะเลนานาชาติ แห่งภูมิภาคเอเชีย (International Seakeepers Society Asia) โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้กำหนดนโยบายและผู้มีบทบาทในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เจ้าของเรือยอทช์ ผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการเพื่อสังคม บุคคลที่มีชื้อในด้านระบบนิเวศ อินฟลูเอนเซอร์ และบุคคลที่มีความสนใจปกป้องมหาสมุทรของเรา
เมื่อการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลเป็นที่สนใจมากขึ้นในสิงคโปร์ การเริ่มต้นจัดงานบลูวอเตอร์เอดูเฟสต์จึงเป็นเวทีสำคัญประจำปีสำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ในการสร้าง เชื่อมต่อ และรวมตัวเป็นหนึ่งชุมชนที่ยึดมั่น เพื่อปกป้องมหาสมุทรของเราสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต
นายอาเธอร์ เตย์ (Arthur Tay) ซีอีโอของเอสยูทีแอล คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังงานดังกล่าว คุณเตย์ กล่าวว่า "ในฐานะนักพายเรือและนักประดาน้ำ ผมได้พบเห็นสภาพอันน่าเศร้าของมหาสมุทรของเรา และทำให้ใจสลายอย่างแท้จริง สำหรับผมแล้ว มีสีของธรรมชาติที่สำคัญอยู่สองสี ที่ส่งผลต่อชีวิตและการดำรงชีวิต ได้แก่ สีน้ำเงินและสีเขียว แน่นอนว่าสีเขียวคือพืชและสัตว์ประจำถิ่นของเรา ส่วนสีน้ำเงินหมายถึงมหาสมุทรและแนวชายฝั่ง ที่เสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากความประมาท ความไม่รู้ และความเห็นแก่ตัวในบางครั้ง"
"ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนา "การเปลี่ยนแปลงของน้ำทะเล" ในส่วนนี้ของโลก โดยได้รับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลและพันธมิตรอุตสาหกรรมในภูมิภาคนี้"
งานบลูวอเตอร์เอดูเฟสต์จะแบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือการประชุมสองวัน คืองานประชุมโอเชียน คอลเลกทีฟ ซัมมิต (Ocean Collective Summit) ซึ่งจัดขึ้นด้วยความร่วมมือกับสมาคมอนุรักษ์ทะเลนานาชาติ แห่งภูมิภาคเอเชีย โดยมีวิทยากรจากนานาชาติที่เน้นเรื่องการอนุรักษ์แนวปะการังในเมืองและการลดขยะพลาสติกในมหาสมุทร วิทยากรหลักของการประชุมคือ นักสำรวจสมุทรศาสตร์และสัตว์น้ำชื่อดังอย่างฟาเบียน คุสโต (Fabien Cousteau)
นายฟาเบียน คุสโต นักสำรวจมหาสมุทรศาสตร์ ผู้สนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม ผู้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ทางมหาสมุทร ฟาเบียน คุสโต (Fabien Cousteau Ocean Learning Centre) และโพรเทอุส โอเชียน กรุ๊ป (Proteus Ocean Group) ให้ความเห็นว่า "มหาสมุทรคือเส้นชีวิตสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลก และมีวิธีแก้ปัญหาที่ไร้ขีดจำกัดสำหรับปัญหาที่มนุษยชาติเผชิญอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืน เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อโลกอย่างแท้จริง เราต้องขยายจุดสนใจและกำหนดกรอบความคิดของเราเกี่ยวกับการอนุรักษ์เสียใหม่ ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานประชุมโอเชียน คอลเลกทีฟ ซัมมิต และได้หารือเกี่ยวกับความท้าทายและแนวทางการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้กับกลุ่มผู้ที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง"
ส่วนที่สองคืองานระดมทุนที่จัดขึ้นทุกคืน พร้อมไฮไลต์สำคัญสองประการ ได้แก่ รางวัลบลูวอเตอร์ฮีโร่ (Blue Water Heroes Awards) ซึ่งจะเชิดชูและยกย่องบุคคลและองค์กรที่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์มหาสมุทรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไฮไลต์งานที่สองคือการประมูลการกุศลทุกคืน ที่จัดแสดงรายการของที่รวบรวมไว้ ซึ่งมีคุณสมบัติหรือคุณค่าที่ยั่งยืนโดยรายได้จากการประมูลจะเป็นของผู้รับผลประโยชน์ คือองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ประจำประเทศสิงคโปร์ (WWF-Singapore) และสมาคมอนุรักษ์ทะเลนานาชาติ แห่งภูมิภาคเอเชีย
ส่วนที่สามจะเป็นงานแสดงสินค้าหรูหราที่ยั่งยืน (Mini Sustainable Luxury Showcase) โดยจัดแสดงยานยนต์ไฟฟ้า นาฬิกา เรือยอทช์ และอัญมณี ที่มาพร้อมความคิดริเริ่มหรือคุณค่าที่ยั่งยืน
งานนี้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ โดยเริ่มจำหน่ายบัตรแล้ววันนี้
