 |
เซี่ยงไฮ้--10 ตุลาคม 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
การประชุมสุดยอดทางธุรกิจ เอ็นเนอร์จี อินทีเกรชัน ฟอร์ อินเทลลิเจนท์ ฟิวเจอร์ (Energy Integration for Intelligent Future) ซึ่งจัดโดยบริษัท เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก กรุ๊ป จำกัด (Shanghai Electric Group Company Limited) และเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ได้ปิดฉากลงด้วยความสำเร็จอย่างงดงามที่นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2565
เพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของบริษัท และเพื่อตอบสนองต่อความต้องการเร่งด่วนของทั่วโลกในการลดการปล่อยคาร์บอน เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก กำลังดำเนินการเปลี่ยนทุกหน่วยธุรกิจให้อยู่ในรูปแบบคาร์บอนต่ำ ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของระบบและอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าใหม่ ๆ และด้วยการพัฒนาการผสมผสานที่เหมาะสมของแหล่งพลังงานดั้งเดิมและแหล่งพลังงานหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศพลังงานที่ทันสมัย
คุณหลิว ผิง (Liu Ping) ผู้อำนวยการและประธานบริษัท เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก กรุ๊ป จำกัด กล่าวในการประชุมว่า ตลอด 120 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ก้าวเดินบนเส้นทางแห่งการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างพลังให้โลกของเรา ผ่านความพยายามในการขยายธุรกิจหลักเพื่อแสวงหาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายและการพัฒนาแบบบูรณาการ
"ตลอดการเดินทางนี้ เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก ได้พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นตัวอย่างที่สำคัญของการปูทางให้จีนก้าวขึ้นเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์รายสำคัญของโลก วิวัฒนาการดังกล่าวทำให้บริษัทเปลี่ยนจากการเป็นผู้เล่นหลักรายหนึ่งในอุตสาหกรรม สู่การเป็นตัวแทนของบริษัทจีนที่พยายามร่วมกันส่งออกอุปกรณ์และเทคโนโลยีระดับเวิลด์คลาสไปทั่วโลก" คุณหลิว ผิง กล่าว
เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก ประสบความสำเร็จในการทุบสถิติมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ ด้วยขีดความสามารถและจุดแข็งที่มีอยู่ในตอนนี้ บริษัทเชื่อว่าจะสามารถพัฒนาข้อได้เปรียบในการแข่งขันหลักสามประการได้อย่างเต็มที่ ได้แก่ การผลิตที่เหนือชั้น บริการแบบบูรณาการ และความสามารถในการแข่งขันของบุคลากร เพื่อสร้างสามแพลตฟอร์มชั้นนำของอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกัน ครอบคลุมทั้งอุปกรณ์หลัก ระบบบูรณาการ และทุนอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนสิ่งที่จะกลายเป็นผู้นำเทรนด์การพัฒนาในอีก 120 ปีข้างหน้า
ปัจจุบัน เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไม่กี่รายทั่วโลกที่ครอบคลุมอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งนี้ อุตสาหกรรมพลังงานปล่อยคาร์บอนมากกว่า 80% ของทั้งหมดในประเทศจีน จึงเป็นอุปสรรคที่ใหญ่หลวงที่สุดของจีนในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนแตะเพดานสูงสุดก่อนที่จะลดลงจนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน
นับตั้งแต่ปี 2564 เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ประกอบกับสถานการณ์ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในการจัดหาพลังงานทั่วโลก ส่งผลให้หลายภูมิภาคทั่วประเทศประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า ซึ่งตอกย้ำถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของอุปกรณ์เทอร์มอลบัลลาสต์ (Thermal Ballast) และในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีเสถียรภาพไปสู่พลังงานทางเลือกที่มีความผันผวน หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีฉันทามติร่วมกันว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนพร้อมกับสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน การใช้พลังงานหลายรูปแบบจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาแบบบูรณาการของแหล่งพลังงานดั้งเดิมและแหล่งพลังงานหมุนเวียนในระยะยาว
คุณเฉิน กานจิน (Chen Ganjin) สมาชิกคณะกรรมการพรรคและรองประธานของเซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก กล่าวว่า โครงสร้างพลังงานของจีนมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยสัดส่วนของกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่สัดส่วนของไฟฟ้าพลังงานถ่านหินลดลงเหลือครึ่งหนึ่งของทั้งหมด และไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ก็กลับมาเป็นทางเลือกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แหล่งพลังงานหมุนเวียนที่เฟื่องฟูส่งผลให้การกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่ระยะของการพัฒนาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ไม่มีแบบแผนแน่นอนและความไม่ต่อเนื่อง การเชื่อมแหล่งพลังงานหมุนเวียนกับโครงข่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่ในสัดส่วนที่สูงจะก่อให้เกิดความท้าทายอย่างมากต่อความปลอดภัยและเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า
คุณเฉินอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับภูมิทัศน์ของระบบนิเวศพลังงานของจีนเพิ่มเติมว่า การใช้ไฟฟ้าต่อหัวในจีนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพมหาศาลของการเติบโตในตลาดพลังงานไฟฟ้าและอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก มุ่งมั่นที่จะช่วยตอบสนองความต้องการของระบบนิเวศพลังงานของจีนทั้งในแง่ของการผลิต การส่ง การกักเก็บ และการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า
บริษัทกำลังเพิ่มความพยายามในการส่งเสริมการเติบโตของอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานดั้งเดิมและพลังงานทางเลือก ในขณะที่จีนดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนแตะเพดานสูงสุดก่อนที่จะลดลงจนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก ได้พิสูจน์ความสามารถทางเทคนิคในด้านพลังงานถ่านหินที่สะอาดและมีประสิทธิภาพ พลังงานนิวเคลียร์ที่ปลอดภัยและล้ำสมัย ตลอดจนการควบคุมก๊าซและไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่น นอกจากนี้ บริษัทกำลังใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานไฮโดรเจน และโซลูชันการกักเก็บพลังงานไฟฟ้า พร้อมกับเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและสำรวจรูปแบบการใช้งานเพิ่มเติมสำหรับอุปกรณ์โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid)
ด้วยอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าที่มีความสามารถในการแข่งขันในตลาด เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก มีความก้าวหน้าอย่างมากในการใช้โซลูชันใหม่ ๆ เพื่อบูรณาการการผลิตไฟฟ้าพลังงานถ่านหินและการกักเก็บพลังงานไฟฟ้า รวมถึงบูรณาการแหล่งพลังงานไฟฟ้า-โครงข่ายไฟฟ้า-โหลดไฟฟ้า-ระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า ตลอดจนบูรณาการสารเคมีและไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ในขณะที่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง บริษัทก็เปิดรับโอกาสใหม่ ๆ ในด้านการกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่วานาเดียม (Vanadium) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยในระดับสูง ความสามารถในการปรับขนาดความจุสูง และอายุการใช้งานยาวนาน
เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนแตะเพดานสูงสุดก่อนที่จะลดลงจนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก กำลังพยายามผลักดันยุทธศาสตร์การพัฒนา "4+2+X" ("4" คือพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงาน และไฮโดรเจน "2" คืออุปกรณ์อุตสาหกรรมอัจฉริยะและอุปกรณ์ทางการแพทย์ระดับไฮเอนด์ และ "X" คือโอกาสใหม่ ๆ ในภาคพลังงาน) โดยมุ่งสนับสนุนการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคพลังงานและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในการสร้างระบบไฟฟ้าใหม่ที่ครอบคลุมและโซลูชันแบบบูรณาการสำหรับนิคมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ
เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก ใช้ประโยชน์จากความสามารถที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในด้านอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานดั้งเดิม อีกทั้งยังวางแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในส่วนของพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานความร้อน และระบบกักเก็บพลังงาน ไปจนถึงอุปกรณ์จ่ายไฟ โครงข่ายไฟฟ้า โหลดไฟฟ้า และระบบกักเก็บไฮโดรเจน เพื่อเป็นแนวหน้าในการเดินทางสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนแตะเพดานสูงสุดก่อนที่จะลดลงจนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ควบคู่ไปกับการสร้างอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานทางเลือกและอุปกรณ์อัตโนมัติระดับไฮเอนด์
