ปักกิ่ง--31 ตุลาคม 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ได้มีการจัดทำพิมพ์เขียวสำหรับการพัฒนาประเทศจีนในช่วงห้าปีข้างหน้าและหลังจากนั้น สิ่งนี้มีความสำคัญต่อโลกอย่างไร โลกสามารถคาดหวังอะไรจากจีนได้บ้างในอีกหลายปีข้างหน้า และความทันสมัยแบบจีนจะนำพาสิ่งใดมาสู่ประชาคมโลก เพื่อตอบคำถามเหล่านี้ สถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็น (CGTN) ได้จัดการเสวนาพิเศษในหัวข้อ "Now and Beyond" ซึ่งดำเนินรายการโดยคุณหลิว ซิน (Liu Xin) ผู้ประกาศข่าวของซีจีทีเอ็น เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเส้นทางสู่อนาคตของจีนและทั่วโลกร่วมกับบรรดาผู้มีอำนาจตัดสินใจและนักคิดระดับโลก
ศาสตราจารย์เจฟฟรีย์ แซคส์ (Jeffrey Sachs) ผู้อำนวยการศูนย์การพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการรายงานข่าวการประชุมสมัชชาใหญ่ที่เต็มไปด้วยอคติของสื่ออเมริกา โดยกล่าวว่า "ข้อความที่แท้จริงที่จีนต้องการสื่อก็คือระบบพหุภาคี จีนแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการโลกพหุภาคีภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ จีนไม่ได้แสวงหาอำนาจ จีนไม่ได้ต้องการสร้างความขัดแย้งทุกรูปแบบ และข้อความนั้นชัดเจนมาก สิ่งที่เราต้องการคือการเจรจา เราต้องการความเข้าใจกันมากขึ้น"
ศาสตราจารย์เซี่ย เถา (Xie Tao) คณบดีคณะรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศและการทูต มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศแห่งปักกิ่ง (Beijing Foreign Studies University) แสดงความเห็นด้วยกับศาสตราจารย์แซคส์ โดยกล่าวเสริมว่า "สารสำคัญที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ต้องการสื่อถึงทั่วโลกคือ จีนต้องการโลกที่สงบสุขและแสวงหาการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ จีนไม่ได้ยัดเยียดค่านิยมและธรรมเนียมของตนเองให้กับประเทศอื่น และจีนก็ไม่ต้องการให้ประเทศอื่นมาบอกว่าควรทำอะไร จีนมีประชากรมหาศาล จีนมีความแตกต่างจากหลายประเทศเป็นอย่างมาก ดังนั้น จีนจะบรรลุความสำเร็จในการฟื้นฟูชาติด้วยเส้นทางสู่ความทันสมัยแบบจีน"
นับเป็นครั้งแรกที่ความทันสมัยแบบจีนถูกเขียนลงในรายงานที่นำเสนอในการประชุมสมัชชาใหญ่ และเป็นพิมพ์เขียวสำหรับอนาคตของจีน คุณมาร์ติน ฌากส์ (Martin Jacques) สมาชิกอาวุโสของภาควิชาการเมืองและการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ชี้ให้เห็นว่า ภายใต้โลกาภิวัตน์แบบอเมริกา ความไม่เท่าเทียมได้แผ่ขยายไปทั่วแทบทุกสังคม เขาระบุว่าลักษณะสำคัญของความทันสมัยแบบจีนคือความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน หากจีนสามารถทวนกระแสความไม่เท่าเทียมกันและสร้างสภาพแวดล้อมที่เท่าเทียมกันมากขึ้น ก็จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงไปทั่วโลก ด้านคุณอารันชา กอนซาเลซ ลายา (Arancha Gonzalez Laya) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสเปน กล่าวว่า "ในศตวรรษที่ 21 สิ่งที่ดีสำหรับจีนต้องดีสำหรับทั่วโลกด้วย และสิ่งที่ดีสำหรับทั่วโลกก็ต้องดีสำหรับจีนด้วย นี่คือศตวรรษที่ 21 เพราะเราอาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกัน"
คุณเบนยามิน โพกอสยาน (Benyamin Poghosyan) ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษายุทธศาสตร์การเมืองและเศรษฐกิจ กล่าวว่า ความพยายามที่จะแบ่งโลกออกเป็นขาวและดำเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก ประเทศขนาดกลางและขนาดเล็กชื่นชมจีนที่ไม่มองโลกผ่านการเผชิญหน้าเช่นนี้ เพราะการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายจะทำให้ประเทศขนาดกลางและขนาดเล็กตกที่นั่งลำบาก ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อ วิกฤตพลังงาน วิกฤตอาหาร และความท้าทายอื่น ๆ กำลังคุกคามทุกคน ความร่วมมือระหว่างมหาอำนาจคือสิ่งที่ทั่วโลกต้องการ
คุณเอริก โซลไฮม์ (Erik Solheim) อดีตผู้อำนวยการบริหารด้านสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติและรองเลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า หลายประเทศไม่ต้องการเลือกระหว่างจีนหรือสหรัฐอเมริกา ขณะที่คุณไซยาบองกา ไซเปรียน ซวีลี (Siyabonga Cyprian Cwele) เอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ประจำประเทศจีน กล่าวว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ประเทศอื่น ๆ สามารถเรียนรู้จากประเทศจีน จีนจะไม่บังคับให้แอฟริกาใต้และประเทศอื่น ๆ เลือกข้าง แต่จะยอมรับทุกคนที่เคารพระบบของจีนและเป็นพันธมิตรกับจีน ความร่วมมือคือสิ่งที่หลายประเทศกำลังมองหา ไม่ใช่การบีบบังคับ
"คุณสามารถเป็นผู้นำด้วยความเอื้ออาทรหรือความร่วมมือพหุภาคี หรือเป็นผู้นำด้วยการบีบบังคับ การเบียดเบียน และการกระทำฝ่ายเดียว เห็นได้ชัดว่าจีนเลือกแบบแรก" ศาสตราจารย์เซี่ยกล่าว พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า ความเป็นผู้นำโลกของจีนเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับทั่วโลก ไม่ใช่เพื่อการครองอำนาจ
"ทุกชีวิตสามารถเติบโตเคียงข้างกันโดยไม่ทำร้ายกัน และถนนคนละเส้นสามารถวิ่งคู่ขนานกันโดยไม่แทรกแซงกัน" นายสี จิ้นผิง อ้างอิงหลักปรัชญาขงจื๊อโบราณในรายงานต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ทั้งนี้ ในโลกที่ความขัดแย้งและความแตกต่างดูเหมือนจะมีอำนาจเหนือกว่าความร่วมมือและการจัดการ การเคารพในความแตกต่างและแสวงหาหนทางที่จะก้าวไปข้างหน้าร่วมกันคือสิ่งที่หลายประเทศต้องการ และจีนก็แสวงหาเส้นทางสันติสู่ความทันสมัยและความร่วมมือกับประชาคมโลก
Now & Beyond TV Forum - จีนเชื่อมั่นประชาคมโลกสามารถเติบโตเคียงข้างกันโดยไม่ทำร้ายกัน และวิ่งคู่ขนานกันโดยไม่แทรกแซงกัน
