สิงคโปร์--10 พ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ภายในงานเอชซีเอส-เอสจี เอนเนเบิล มาสเตอร์คลาส: เดอะ เกรทเทอร์ กู๊ด ฟอร์ ออล (HCS-SG Enable Masterclass: The Greater Good For All) เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คลาสอิน (ClassIn) รู้สึกภูมิใจที่ได้เข้าร่วมการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญนี้สำหรับการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างมาตรฐานความหลากหลายและเท่าเทียม (Movement for Normalizing Diversity and Inclusion) บริษัทเทคโนโลยีด้านการศึกษาแห่งนี้ยังได้รับการยอมรับในฐานะผู้ใช้งานกลุ่มแรกของโครงการเอชอาร์ เพาเวอร์แบงค์ (HR Powerbank Early Adopter) และยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการจ้างงานอย่างเท่าเทียมขณะขยายธุรกิจในสิงคโปร์
เอชอาร์ เพาเวอร์แบงค์ โครงการที่ฮิวแมน แคปิตอล สิงคโปร์ (Human Capital Singapore หรือ HCS) เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2564 มุ่งมั่นที่จะเปิดโอกาสการฝึกอบรมและการจ้างงานในแวดวงทรัพยากรบุคคลสำหรับผู้พิการ (PwD) โดยนอกจากจะได้รับคุณสมบัติทักษะวิชาชีพทรัพยากรบุคคล (HR Professional Skills Qualification หรือ PSQ) ซึ่งเป็นโปรแกรมความยาว 576 ชั่วโมงที่เน้นการเรียนรู้โดยการปฎิบัติแล้ว ผู้สำเร็จการศึกษากลุ่มแรกยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่ผ่านการรับรอง (CHRA) อย่างเป็นทางการที่งานเอชซีเอส-เอสจี เอนเนเบิล มาสเตอร์คลาส ด้วย
"สิ่งนี้เป็นประสบการณ์เสริมสร้างพลังอย่างมาก" เยว่คุณ หลี่ (Yuekun Li) หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจระดับโลกของคลาสอิน กล่าว "การได้เห็นบุคลากรเหล่านี้เอาชนะสภาวะที่พวกเขาเกิดมาและได้รับการยอมรับในระดับสูงจากเหล่าผู้นำของประเทศนี้นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เรื่องราวของพวกเขานั้นสร้างแรงบันดาลใจ และจิตวิญญาณของพวกเขามีค่ามาก"
คุณหลี่ ซึ่งเป็นตัวแทนของคลาสอินในครั้งนี้ ได้ประกาศความมุ่งมั่นของบริษัทในการจ้างงานผู้พิการว่า "มีตำแหน่งมากมายที่พวกเขาเข้ามาเติมเต็มได้…งานด้านการศึกษาของเรามีเป้าหมายเพื่อยกระดับชีวิตของผู้คนผ่านการเรียนรู้ตลอดชีวิต และตอนนี้เรามอบคำมั่นที่จะมอบงานให้แก่ผู้คนที่จะมีชีวิตดีขึ้น หากเพียงได้รับโอกาส"
คลาสอิน ซึ่งอยู่ในเครือบริษัทอีอีโอ (EEO) ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 ปัจจุบันได้กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีการศึกษาที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกซึ่งมีผู้ใช้งานมากกว่า 5 ล้านคนต่อเดือน โดยบริษัทได้รับเม็ดเงินลงทุนมูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์ในการระดมทุนซีรีส์ บี จากบริษัทอินซ์ แคปิตอล (Ince Capital) ในเดือนกรกฎาคม 2563 และกวาดเงินลงทุนไป 265 ล้านดอลลาร์ในการระดมทุนซีรีส์ ซี นำโดยหน่วยลงทุนร่วม จีแอล เวนเจอร์ส (GL Ventures) ของบริษัทฮิลเฮาส์ แคปิตอล (Hillhouse Capital) ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน
บทบาทของคลาสอินในงานนี้ยังส่งสัญญาณถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของสิงคโปร์ในด้านภูมิทัศน์ทางธุรกิจด้วย
คุณหลี่ กล่าวว่า "ความมุ่งมั่นของเราที่จะพัฒนาธุรกิจและบ้านเกิดในสิงคโปร์เป็นเรื่องระยะยาว และเราเชื่อมั่นในส่วนของเราในการทำให้สิงคโปร์เป็นสังคมที่ดีขึ้น เปิดกว้าง และมีน้ำใจมากขึ้น"
