ปักกิ่ง--23 พฤศจิกายน 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังคลอนแคลนเพราะสถานการณ์โรคระบาดและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ จนถึงขั้นว่ามีสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอย จีนยังคงสามารถรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจด้วยการใช้มาตรการต่าง ๆ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญหลายคนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ณ การประชุม ไฟแนนเชียล สตรีท ฟอรัม (Financial Street Forum) ประจำปี 2565 พร้อมกับเรียกร้องให้มีการสร้างความร่วมมือและตระหนักถึงความเสี่ยงต่าง ๆ
นายฝู หลิงฮุ่ย (Fu Linghui) โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน กล่าวในการประชุมว่า เศรษฐกิจจีนยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันก็ตาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงผลักดันที่มั่นคงในการพัฒนาในระยะยาว
แม้ว่าต้องเผชิญกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อนและรุนแรง รวมถึงความยากลำบากที่คาดไม่ถึงอีกมากมาย แต่เศรษฐกิจจีนยังคงแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวและความคึกคักอย่างน่าทึ่ง นายฝูกล่าว
นายฝูกล่าวว่า สำหรับในปีนี้ จีนได้ใช้นโยบายต่าง ๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ จนสามารถเปลี่ยนภาวะตกต่ำในไตรมาสสองเป็นการดีดตัวขึ้นในไตรมาสสาม
ขณะเดียวกัน นายฝูเน้นย้ำว่าจีนยังคงเดินหน้าเปิดกว้างในระดับสูงอย่างแข็งขันต่อไป
ในขณะที่โลกเผชิญกับความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น จีนยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบใหม่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่เปิดกว้างในระดับสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการค้าและบริการท่าเรือ เขากล่าว
แม้จะมีการฟื้นตัวในปีนี้ แต่เจ้าหน้าที่หลายคนยังเตือนให้ระวังความเสี่ยงทางการเงินอันเป็นผลมาจากหนี้สินจำนวนมากและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง
นายเสวียน ชางเหนิง (Xuan Changneng) รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) กล่าวในการประชุมว่า หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของจีนมีภารกิจหลักในการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่สำคัญและรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
นายเสวียนกล่าวว่า หลังเกิดวิกฤตการณ์การเงินในปี 2551 ประชาคมโลกได้บรรลุฉันทามติในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินโดยรวม เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางการเงิน พร้อมกับเผยว่าจีนมีความก้าวหน้าในด้านการจัดการด้วยการใช้นโยบายที่เกี่ยวข้องตลอดหลายปีที่ผ่านมา
นายหวัง เว่ยตง (Wang Weidong) รองประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาประเทศจีน (China Development Bank หรือ CDB) ซึ่งเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลรายใหญ่ที่สุดในประเทศ กล่าวว่า เมื่อมองไปยังอนาคต จีนจะเผชิญกับทั้งโอกาสและความท้าทาย
การถดถอยของเศรษฐกิจโลกอาจนำไปสู่ความต้องการที่ลดลง ในขณะที่การบริโภคและผลตอบแทนจากการลงทุนที่ลดลงอาจพบเห็นได้ในประเทศด้วยเช่นกัน เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม นายหวังกล่าวว่า จีนมีความสามารถเพียงพอสำหรับการพัฒนาและการยกระดับอุตสาหกรรม พร้อมกับสรุปว่าปัจจัยพื้นฐานสำหรับการพัฒนาระยะยาวในเชิงบวกยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ธนาคารเพื่อการพัฒนาประเทศจีนจะพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับเศรษฐกิจที่แท้จริง รวมถึงรักษาเสถียรภาพการเติบโตของสินเชื่อและให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่ภาคส่วนสำคัญ เช่น การผลิต เทคโนโลยี นวัตกรรม ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม และอุตสาหกรรมสีเขียว เขากล่าว
นายเผิง ชุน (Peng Chun) ประธานและซีอีโอของไชน่า อินเวสท์เมนท์ คอร์ปอเรชัน (China Investment Corporation) กล่าวในการประชุมว่า "การพัฒนาและความร่วมมือคือ "กุญแจสำคัญ" ในการแก้ไขปัญหาระดับโลก และสามารถช่วยประเทศต่าง ๆ รับมือกับความท้าทายและเอาชนะอุปสรรคได้"
นายเผิงกล่าวว่า จีนกำลังผลักดันยุทธศาสตร์วงจรคู่ขนาน (Dual Circulation) โดยมีการเปิดกว้างเป็นรูปแบบการพัฒนาใหม่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานโลกที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และแบ่งปันโอกาสใหม่ ๆ กับทั่วโลก